สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 2 เมษายน 2568)------- นายปัญญา บุญญาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) B เปิดเผยว่าตามที่ บริษัท บี จิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้เผยแพร่ข่าวผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 26เมษายน 2567 เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นสามัญของ บริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด (“WTX”) จำนวน 51,600,900 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 6.00 บาท ในราคาไม่เกินหุ้นละ 27.56 บาท รวมเป็นเงินลงทุน 1,422,120,804 บาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ27.89 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ WTX ที่ 185,043,730 หุ้น จากผู้ถือหุ้นเดิม 3 ราย หรือผู้รับโอนสิทธิ โดยบริษัทจะชำระด้วยการโอนสิทธิเรียกร้องในลูกหนี้ 461 ล้านบาท และเงินสดจำนวน 961 ล้านบาท

ต่อมาในไตรมาส 3/2567 บริษัททยอยรับโอนหุ้น WTX จำนวน 7,930,000 ล้านหุ้น (สัดส่วนร้อยละ 4.28 ของทุนจดทะเบียน) เป็นจำนวนเงิน 218.56 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จ่ายชำระเป็นเงินสดในไตรมาส 3/2567 จำนวน 108.63 ล้านบาท และชำระโดยการโอนสิทธิเรียกร้องลูกหนี้จำนวน 43.45 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 40 ของเงินสดที่ชำระค่าหุ้น รวมเป็นเงินจำนวน152.09 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปรากฏข้อมูลจากสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (Thai BMA) ว่า WTX เป็นบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 จำนวน 6 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้ขออนุมัติที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ขยายเวลาชำระหนี้หุ้นกู้ จำนวน 408 ล้านบาท จากวันที่ 9 ธันวาคม 2567 เป็นชำระสัดส่วนร้อยละ 25 ในวันที่ 9 ธันวาคม 2568 และส่วนที่เหลือในวันที่ 9 ธันวาคม 2569

ต่อมาวันที่ 10 มีนาคม 2568 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายทะเบียนของหุ้นกู้มีประกันของบริษัท เวสท์เทค เอ็กซ์โพเนนเชียล จำกัด ครั้งที่ 1/2565 รายงานต่อสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทยว่า WTX ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดในวันที่ 9มีนาคม 2568 (เลื่อนจ่ายเป็นวันที่ 10 มีนาคม 2568) เป็นจำนวนเงินทั้งหมดหลังหักภาษี ณ ที่จ่าย 6,630,167.29 บาท จำนวนผู้ถือหุ้นกู้ 370 รายได้ โดย WTX ได้ขอเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยออกไปโดยยังไม่มีกำหนดชำระ ซึ่ง WTX ให้เหตุผลว่าเนื่องจากลูกหนี้การค้าของ WTX ขอเลื่อนชำระค่าสินค้า/บริการ ทั้งนี้ WTX ได้ดำเนินการเร่งรัดติดตามอย่างสุดความสามารถ ดังนั้น WTX จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขอเลื่อนกำหนดวันชำระดอกเบี้ยออกไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2568ได้พิจารณาทบทวนการลงทุนใน WTX ภายใต้สถานการณ์และสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน มีความเห็นว่า WTX ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีผลกระทบโดยตรงกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ WTX เช่น การชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์และการก่อสร้างภายในประเทศ การแข่งขันจากเหล็กราคาถูกที่มีการนำเข้าสู่ตลาดโดยผู้ผลิตจากประเทศจีน ราคาเศษเหล็กที่สูงขึ้นและค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง รวมถึงความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาวัตถุดิบและราคาสินค้า การผันผวนของราคาขายเหล็กอันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจหรือความต้องการในตลาด ส่งผลให้ราคาเหล็กในตลาดลดต่ำลง เกิดการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดผู้ผลิตเหล็กในประเทศไทย หากราคาเหล็กลดลงอย่างมีนัยสำคัญจะกระทบต่อกำไรของ WTX นอกจากนี้ผลกระทบจากสงครามรวมถึงการแข่งขันในตลาดโลกอาจทำให้กระทบต่อต้นทุนที่ใช้ในการดำเนินงานของ WTX เพิ่มขึ้นโดยตรง

จากปัจจัยความเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่าส่งผลให้ WTX ขาดสภาพคล่อง และยังส่งผลให้กระแสเงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอ ทำให้รายได้ที่ประมาณการไว้คลาดเคลื่อนจากแผนที่ได้กำหนดไว้ ดังนั้นคณะกรรมการจึงมีมติชะลอการลงทุนใน WTX ไว้ก่อน จนกว่าสภาพคล่องและรายได้ของ WTX จะมีการฟื้นฟูและเป็นไปตามแผนที่วางไว้

หากมีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ ที่สำคัญ บริษัทฯ จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงนักลงทุนทุกท่านให้ทราบตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป