สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(1เมษายน 2568)------------ นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)PTC เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้ตกลงทำสัญญาการให้บริการคลังน้ำมันเชื้อเพลิง กับบมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (“OR”) ที่ อำเภอกันทรารมย์จังหวัดศรีสะเกษ ให้บริการรับ-เก็บรักษา ผสม และจ่ายน้ำมัน โดยจัดเตรียมบุคลากร, อุปกรณ์ และสถานที่ ให้เพียงพอต่อการให้บริการ ฉบับลงวันที่ 25 เมษายน 2562โดยมีอายุสัญญา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 ถึง 30เมษายน 2565 และมีการขยายระยะเวลาสัญญาโดยอัตโนมัติอีก 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 ถึง 30เมษายน 2568 โดยหากคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่มีความประสงค์จะต่ออายุสัญญา ให้คู่สัญญาฝ่ายที่มีความประสงค์แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน นั้น

บริษัทฯ ขอแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่า ทาง บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (“OR”) มีความประสงค์ที่จะไม่ต่ออายุสัญญาใช้บริการคลังน้ำมันศรีสะเกษ เนื่องจากสถานการณ์จัดส่งและการบริหารจัดการคลังน้ำมันของ”OR” มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เมษายน 2568 ตามที่ตกลงไว้

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติแม้ไม่มีการต่อสัญญาดังกล่าว ซึ่งการให้บริการคลังน้ำมันศรีสะเกษคิดเป็นสัดส่วน 21% ของการจ่ายน้ำมันทั้งหมดและ 34% ของรายได้จากการให้บริการ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทฯเนื่องจากต้นทุนบริการส่วนใหญ่ประกอบด้วย ค่าเสื่อมราคา 40%, เงินเดือน 34%, ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคและค่ารักษาความปลอดภัย 14%, เป็นต้น

ภายหลังการไม่ต่ออายุสัญญาการให้บริการ ธุรกิจปัจจุบันที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่ ประกอบด้วย คลังน้ำมันที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งมีสัดส่วนการให้บริการ 79% ของการจ่ายน้ำมันและ 66% ของรายได้จากการบริการ ซึ่งมีอายุสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 30 กันยายน 2570 และสามารถต่ออายุได้อีก 2 ครั้ง นอกจากนี้บริษัทฯ มีบริษัทย่อย 1 แห่งที่ประกอบธุรกิจผลิต จัดหา และจ าหน่ายระบบกรองน้ำประปาส าหรับการอุปโภคบริโภคให้แก่หน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ระหว่างการผลิตเครื่องกรองน้ำประปาต้นแบบ โดยคาดว่าจะเข้าสู่ช่วงทดลอง และพร้อมให้เช่า หรือจำหน่ายประมาณไตรมาส 4 ของปี อย่างไรก็ดี ณ 31 มีนาคม 2568 บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเท่ากับ 0.02 เท่า ซึ่งบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพในเชิงการบริหารจัดการหนี้สินและความมั่นคงในโครงสร้างทางการเงิน นอกจากนี้บริษัทฯ ไม่มีภาระหนี้สินต่อสถาบันการเงินอีกทั้งยังมีเงินสดคงเหลือจ านวน 413.00 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ มีศักยภาพและความพร้อมในการลงทุนขยายธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ที่อย่างยั่งยืนต่อไป

สำหรับแนวทางหลังสิ้นสุดสัญญาใช้บริการคลังน้ำมันศรีสะเกษ บริษัทฯ มีแผนที่จะหาผู้ใช้บริการรายใหม่รวมไปถึงผู้ใช้บริการที่เป็นผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่นๆ เนื่องจากคลังน้ำมันแห่งนี้สามารถรองรับการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง เอทานอลไบโอดีเซล หรือวัตถุเหลวประเภทอื่นได้ และหากมีความคืบหน้าบริษัทฯ จะเรียนแจ้งให้ทราบผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป