Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ลุ้น ดัชนีหุ้นไทยเด้งหลังสงกรานต์ ชี้ต้นเดือนเม.ย.จังหวะเหมาะสะสมหุ้น

230

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (1 เมษายน 2568)-------บล.ทิสโก้คาดดัชนีหุ้นไทยเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังปีนี้ปรับลงกว่า 17% แล้ว ลุ้นหลังสงกรานต์ดัชนีจะปรับขึ้นจากการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของทรัมป์เริ่มมีความชัดเจนมองช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนเมษายนเป็นจังหวะสะสมหุ้นเพื่อหวังผลและขายทำกำไรช่วงครึ่งเดือนหลัง


นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่านับตั้งแต่ต้นปีดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงมาแล้วกว่า -17% ในช่วงหลังจากนี้บล.ทิสโก้มองว่าดัชนีหุ้นไทยจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนทั้งในและต่างประเทศ คือ (1)การซื้อหุ้นคืน - นับตั้งแต่ต้นปี มีบริษัทจดทะเบียนไทยหลายแห่งประกาศซื้อคืนหุ้นรวมวงเงินกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าในปีที่แล้วทั้งปี บล.ทิสโก้มองส่งผลดีต่อราคาหุ้นโดยตรงและแนวโน้มการซื้อหุ้นคืนในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (2)TESGX - ถึงแม้บล.ทิสโก้ไม่ได้คาดว่าจะมีเม็ดเงินจาก LTF สูงถึง 3 ใน 4 หรือ 75% แปลงเป็น TESGX และมีเม็ดเงินลงทุนใหม่ราว 2-3 หมื่นล้านบาทไหลเข้า TESGX เหมือนกับที่ทางการประเมินไว้ แต่ก็น่าจะช่วยพยุงตลาดได้ไม่มากก็น้อยในระยะสั้น  (3)แนวโน้มสภาพคล่องเพิ่มขึ้น – นอกจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะลดปริมาณการลดสภาพคล่องในระบบลง (QT Tapering) จากเดิมเดือนละ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เหลือเดือนละ 5 พันล้านดอลลาร์ฯ  สภาพคล่องมีแนวโน้มสูงขึ้นชั่วคราวในช่วงไตรมาส 2 นี้หลังจากที่หนี้สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นชนเพดานแล้วทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีแต่การใช้จ่ายเงินออกไปจากบัญชีเงินฝากหลัก (TGA)  ภาพนี้จะคล้ายกับช่วงปี 2566 ที่หนี้สหรัฐฯ ขึ้นชนเพดาน ทำให้สภาพคล่องในระบบสูงขึ้นและสามารถขับเคลื่อนหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นกว่า 8% ในช่วงไตรมาส 2 ของเวลาดังกล่าว  และ (4)การผลักดันร่างกฎหมายลดภาษีของสหรัฐฯ - พรรครีพับลิกันเตรียมผลักดันร่างกฎหมายลดภาษีมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ควบคู่กับการตัดงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ในระยะ 10 ปี คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในช่วงไตรมาส 2 นี้ และมีผบบังคับใช้ในช่วงปลายปีนี้ "ปกติในช่วงครึ่งแรกเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่มีวันหยุดต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนมักเลือกชะลอการลงทุนชั่วคราว อย่างไรก็ดีหลังผ่านพ้นช่วงหยุดยาว


 บล.ทิสโก้คาดว่านักลงทุนจะกลับเข้าสู่ตลาดมากขึ้นในช่วงครึ่งเดือนหลัง ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยหลังสงกรานต์มักกลับมาคึกคักขึ้น  จากการศึกษาความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในช่วงหลังสงกรานต์นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา SET Index มีโอกาสสูงถึง 74% ที่จะปรับตัวขึ้น และให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ย+1.4% ผสานกับช่วงครึ่งเดือนแรกคาดจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ของทรัมป์และซึมซับในราคาหุ้นมากแล้ว เพราะฉะนั้นนักลงทุนอาจหาจังหวะทยอยสะสมในช่วงครึ่งเดือนแรก เพื่อหวังผลในช่วงครึ่งเดือนหลัง" นายอภิชาติกล่าว  


 
ทั้งนี้ บล.ทิสโก้แนะนำเลือกลงทุนหุ้นที่แนวโน้มงบไตรมาส 1/2568 เติบโต ได้รับผลกระทบจำกัดจากสงครามการค้า แนะนำBJC, CPN, EKH ผสานกับหุ้นที่คาดว่าจะมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุนราคาหุ้น Outperform ในระยะสั้น เด่นAEONTS, HMPRO, PTTEP, SCCC  ดังนั้น หุ้นเด่นที่บล.ทิสโก้แนะนำในเดือน เม.ย. คือ AEONTS, BJC, CPN, EKH, HMPRO, PTTEP และ SCCC ด้านแนวรับสำคัญของดัชนีหุ้นไทยเดือนนี้อยู่ที่ 1,150 – 1,100 จุด และแนวต้านสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่ 1,190-1,200 จุด ตามลำดับ


สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตามองในช่วงนี้คือ ในวันที่ 2 เมษายน 2568 สหรัฐฯ จะประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกเก็บภาษีดังกล่าวเพราะเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ และมีส่วนต่างของภาษีกับสหรัฐฯ ในระดับค่อนข้างสูง โดยหากสหรัฐฯ บังคับใช้ Reciprocal Tariffs กับประเทศไทยด้วยการขึ้นภาษีโดยเฉลี่ยราว 5% (อิงมาจากส่วนต่างของอัตราภาษีที่ไทยเรียกเก็บสูงกว่าสหรัฐฯ โดยเฉลี่ย) คาดจะส่งผลกระทบเชิงลบ (Downside Risk) ต่อ GDP ไทยในปีนี้ราว 0.3-0.5% จาก GDP ปีนี้ที่บล.ทิสโก้คาดว่าจะโต 2.8%  


อย่างไรก็ดีสัญญาณล่าสุดจากทรัมป์ระบุว่า Reciprocal Tariffs จะมีความยืดหยุ่นและในมุมมองของบล.ทิสโก้เชื่อว่าจะถูกใช้แบบเฉพาะในกลุ่มสินค้าหรือกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย(Targeted Tariffs) มากกว่าที่จะใช้เป็นวงกว้างในทุกกลุ่มสินค้า (Broad-based Tariffs) และอาจเปิดช่องในการเจรจาด้วยการทิ้งระยะเวลาการมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 30 วันอย่างที่เคยทำมาในช่วงต้นปีนี้


ด้านทางเลือกการลงทุนหุ้นต่างประเทศ ภาพรวมตลาดหุ้นโลกในเดือนที่ผ่านมาเริ่มเผชิญแรงเทขายโดยเฉพาะในหุ้นสหรัฐฯ (NASDAQ -8% และS&P500 -6%) และบล.ทิสโก้มองว่าในเดือน เม.ย. มีความไม่แน่นอนสำคัญคือการขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้นานาประเทศของทรัมป์ในวันที่ 2 เม.ย. ทำให้บล.ทิสโก้มองว่าช่วงต้นเดือนจะเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่สามารถผ่านสงครามการค้าได้และมีความสามารถในการแข่งขันสูง เช่นBYD และบล.ทิสโก้ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน (SHCOMP +0.45%) และฮ่องกง (HSI +0.78%) เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ทำให้ DR แนะนำของบล.ทิสโก้ในเดือนนี้ ได้แก่BYDCOM80 และ HK01

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้