คาด SET Index ปรับตัวลงต่อ : แรงกดดันจากการเข้าสู่โหมด Risk-off ของนักลงทุนท่ามกลางความกังวลนโยบายการค้าสหรัฐฯ รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจากเหตุแผ่นดินไหว หากแต่พอมีแรงพยุงจากราคาน้ามันดิบที่ปรับตัวขึ้น และหวังแรงพยุงเพิ่มเติมจากการประชุมครม.

แนวรับ-ต้าน
1,145 –1,165

กลยุทธ์การลงทุน
1) ซ่อม-สร้าง : CRC, DOHOME, HMPRO, ILM,
2) Defensive/Dividend : KKP, TISCO, TTW
3) Thai ESGX : ADVANC, CPF, GFPT
4) Selective : BCP, PT, PTT, PTTEP, THANI, TTB
5) Short : AP, LPN, ORI, TIPH

หนีสินทรัพย์เสี่ยง เข้าหาสิ่งปลอดภัย

  วิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย : คาดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง SET Index มีแนวโน้มถูกกดดันจากการลดสถานะเพื่อเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย สอดรับกับตลาดหุ้นยุโรป อังกฤษ และ Nasdaq ที่ต่างปิดในแดนลบเมื่อวานนี้ สวนทางกับ 1) VIX ที่ปรับตัวขึ้น 2.82% ปิดที่ระดับ 22.27 และ 2) ราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น 1.16% ปิดที่ $3,150.30 ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้ง การเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุนยังสะท้อนได้จาก US bond yield2 และ 10 ปี ที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.89% และ 4.21% ตามลำดับ ภาพข้างต้นเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลสงครามการค้าและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก อันเนื่องมาจากการที่ปธน.ทรัมป์ ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% รวมทั้งเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ต่อทุกประเทศทั่วโลกในวันที่ 2 เม.ย.68 นอกจากนี้ SET Index ยังมีความกังวลต่อผลกระทบของเศรษฐกิจไทยจากเหตุแผ่นดินไหวในวันที่ 28 มี.ค.68 โดย KResearch ประเมินว่าในเบื้องต้นความสูญเสียที่เกิดขึ้นอาจคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท และกระทบต่อ GDP อยู่ที่ -0.06%

น้ำมันดิบพุ่งรับคาดอุปทานตึงตัว : คาดแรงพยุงมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงานซึ่งมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTIที่ ปรับตัวขึ้น 3.06% ปิดที่ $71.48 ต่อบาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว หลัง ปธน.ทรัมป์ 1) เผยกับ NBC ว่า เขาจะเรียกเก็บภาษี 25-50% ต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย หากเขามองว่ารัสเซียกำลังขัดขวางความพยายามในการยุติสงครามในยูเครน และ 2) เตือนว่าสหรัฐฯจะใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตีอิหร่าน และใช้มาตรการภาษีศุลกากรกับอิหร่าน หากอิหร่านไม่ยอมบรรลุข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์

 ติดตาม ครม. และตัวเลขต่างประเทศ : ติดตามการประชุม ครม. ในวันนี้ โดยลุ้นความคืบหน้าของมาตรการเราเที่ยวคนละครึ่ง ซึ่งอาจช่วยจำกัด Downside ของหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง ขณะที่ด้านตัวเลขเศรษฐกิจติดตามในวันนี้ ได้แก่ PMIภาคการผลิตเดือนมี.ค.68 ของจีน (จาก Caixin)ยูโรโซน และสหรัฐฯ (จาก ISM) ซึ่งตลาดคาดที่ 50.6,48.7และ 49.6 จากเดือนก.พ.68 ที่ 50.8,47.6 และ 50.3 ตามลำดับ รวมถึงติดตาม CPI เดือนมี.ค.68 ของยูโรโซนและ JOLTS เดือนก.พ.68 ของสหรัฐฯ

ปัจจัยเพิ่มเติม

  (+)รมต.คลัง เผยเหตุการณ์แผ่นดินไหวกระทบต่อเศรษฐกิจเพียงในระยะสั้น และไม่กระทบถึงไทม์ไลน์การแจกเงินดิจิทัล

(+)วิปรัฐบาลเผยเตรียมนำร่างกฎหมาย Entertainment Complex เข้าที่ประชุมสภาในวันที่ 9 เม.ย.68 หนุนกลุ่มท่องเที่ยวและขนส่ง

  (-) ผู้ว่า ธปท. เผยภาพรวมเศรษฐกิจไทยตลอดหนึ่งปีต่อจากนี้อยู่ในทิศทางขาลงหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ซึ่งนักวิเคราะห์เผยว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจเป็นแรงกดดันให้ ธปท. ต้องลดดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในการประชุมเดือนนี้เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

(-) ปธ.เฟดนิวยอร์ก กล่าวกับ Yahoo Finance ว่าเขาคาดหวังว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้สักระยะหนึ่ง ในระหว่างที่เฝ้าดูว่าภาษีศุลกากรใหม่ ของปธน.ทรัมป์
จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์