AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ยืนสร้างฐานสลับรีบาวน์
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว
Market Strategy
SET Index ยืนสร้างฐานสลับรีบาวน์ได้ตามกรอบ 1150-1170 จุด สภาพแวดล้อมไม่ได้มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากดดัน จากทั้งกำแพงภาษีสหรัฐฯที่อยู่ในช่วงรอความชัดเจนวันที่ 2 เม.ย. สถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แถมคาดว่าจะมี Sentiment บวกจากกลุ่มพลังงานช่วยประคองตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น กลยุทธ์วันนี้เลือก KTB SCCC
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้เริ่มฟื้นกลับ นำโดย Dow Jones +1% S&P500 +0.6% ส่วน Nasdaq -0.14% หลังจากประเด็นกำแพงภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ ไม่ได้มีแรงกดดันเพิ่มเติมก่อนการประกาศรายละเอียดในวันที่ 2 เม.ย. ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับขึ้น 1.5% จากคุณทรัมป์ออกมาขู่จะขึ้นภาษีประเทศที่นำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในอัตรา 25–50% หากรัสเซียไม่พยายามยุติสงครามในยูเครน รวมถึงขู่ที่จะใช้การตอบโต้และมาตรการภาษีกับอิหร่านหากไม่เจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ สถานการณ์ข้างต้นมองเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน PTTEP โรงกลั่น BCP SPRC ช่วยประคองตลาด
ด้านปัจจัยในประเทศ การปรับลงของ SET Index -1.5% กดดันจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับรอบสึนามิที่ปรับลง -1.2% จึงเชื่อว่าตลาดน่าจะซึมซับไปพอสมควร ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันที่ไม่ได้มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจึงเชื่อว่าแรงกดดันจากนี้จะค่อยๆลดลง โดยเรามองหุ้นกลุ่มที่วานนี้ลงโดยที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงเป็นโอกาสสะสม อย่างกลุ่มโรงพยาบาล (BDMS) กลุ่มหุ้นปันผลสูง (KTB KKP) เป็นต้น
Market Summary
SET Index ติดลบ 17.4 จุด หรือ -1.5% โดยกลุ่มที่ปรับลงแรง คือ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว อย่างอสังหาฯ AP -12% ANAN -11% ORI -11% กลุ่มท่องเที่ยว ERW -5.7% CENTEL -5% ที่มีสัดส่วนรายได้ในประเทศสูง กลุ่มขนส่ง BTS -6.4% จากความเชื่อมั่นต่อการเดินทาง นอกจากนี้กลุ่มอิง Global Play ปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศอิเล็คทรอนิกส์ DELTA -4.7% KCE -6.6% ด้านกลุ่มที่ปรับขึ้นเด่นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้าน HMPRO +3% SCCC +1.9% TOA +1.8%
DAILY Stock Pick
KTB
ซื้อหุ้นปันผลสูง ความเสี่ยงของ Port สินเชื่อต่ำ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 25.00 บาท
เราชอบ KTB เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและแนวโน้มกำไรเติบโตชัดเจน ในปี 68 ที่ +6%YoY ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE68ที่ 7 เท่า อีกทั้งประกาศปันผลที่ 1.545 บาทต่อหุ้น ประจำปี 67 หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลสูงถึง 6.4% ขึ้น XD วันที่ 16 เม.ย. 68
เรามีมุมมองเชิงบวกในระยะสั้นกับ มาตราการซื้อหนี้ประชาชนจากแบงค์ที่กระทรวงการคลังกำลังศึกษาอยู่ หนุนงบดุลและกำไรของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นจากการขายหนี้เสียออกมา (Downside มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จากแผ่นดินไหว อยู่ในระดับจำกัด)
KEY FACTOR
ตลาดหุ้นเอเชียยังอยู่ในภาวะเลี่ยงความเสี่ยงในระยะสั้น หลังจากที่ล่าสุดทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีจากประเทศที่ซื้อน้ำมันรัสเซีย หากปูตินไม่ยอมหยุดยิงในยูเครน รวมทั้งตำหนิว่า EU ตั้งกำแพงภาษีกับบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐ อาทิเช่น Apple, Meta, Google ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่านโยบายภาษีของทรัมป์อาจครอบคลุมทุกประเทศ มากกว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์ไว้
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจจีน ดัชนี PMI ของจีน เดือน มี.ค. 1) ภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 50.4 ดีกว่าที่ Consensus คาดการณ์ไว้ 50.4 เล็กน้อย 2) ภาคบริการ อยู่ที่ระดับ 50.8 ดีกว่าที่ Consensus คาด 50.6 เช่นกัน สะท้อนภาพเชิงบวกต่อเศรษฐกิจจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมการผลิตที่สูงกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่สองติดต่อกัน ต่อเนื่องในวันนี้ Consensus คาด Caixin PMI จีน 1) ภาคการผลิต ที่ 50.6 2) ภาคบริการ ที่ 51.5
EYES ON
1 เม.ย. : Caixin PMI ภาคการผลิตและบริการของจีน
2 เม.ย. : สหรัฐฯ ใช้ภาษีตอบโต้, การจ้างงานเอกชน ADP ของสหรัฐฯ
4 เม.ย. : การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราการว่างงาน, อัตราเงินเฟ้อไทย เดือน มี.ค.
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ