สรุปภาวะตลาดวันก่อน
หยุดซื้อขายภาคบ่ายจากเหตุแผ่นดินไหว – SET แกว่งแดนลบในกรอบ 1173-85 มูลค่าซื้อขายเพียง 1.72 หมื่นลบ. เนื่องจากการหยุดพักการซื้อขายจากเหตุแผ่นดินไหวใน กทม. และนลท.ชะลอการลงทุนจากความกังวลการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ 2 เม.ย. นี้ ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 2.26 พันลบ. และ Short S50 Futures 1,848 สัญญา

หุ้นโลกวันก่อน (28 มี.ค.)
ถูก Sell-off – โดยหุ้นเทคยักษ์ใหญ่กดดันตลาด จากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ หลัง Core PCE สูงสุดในรอบ 13 เดือน และสูงกว่าคาด (+2.8% YoY, +0.4% MoM) นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลกับมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ทรัมป์จะประกาศ 2 เม.ย. นี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบ 56 เซนต์ กังวลการทำสงครามการค้าอาจกระตุ้นให้ศก.ถดถอยทั่วโลก อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันยังถือว่าปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

แนวโน้มตลาดวันนี้
กระโดดลง – นอกจาก Sentiment หุ้นโลกและราคาน้ำมันเป็นลบจากความกังวลเงินเฟ้อและภาษีทรัมป์แล้ว คาด SET จะตอบสนองเชิงลบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอสังหาฯ, โรงแรมและการท่องเที่ยว และหุ้นการเงิน (แบงก์ & ไฟแนนซ์) แนวรับ 1155-60 แนวต้าน 1195-1200

กลยุทธ์การลงทุน
Wait&See, ลงทุนถือต่อ – แนะนำ Wait&See รอดูการตอบสนองของตลาด โดยเฉพาะหาก SET หลุดโลว์เดิมที่บริเวณ 1155-60, พอร์ตลงทุนถือทนแกว่ง
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ : หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ HMPRO, SCCC / หุ้นเด่น มี.ค. AMATA, BDMS, HMPRO, KTB, MINT, PTT, SPALI และทางเลือกลงทุนหุ้นตปท.ผ่าน DR แนะนำ HK01, PINGAN80 / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเหตุแผ่นดินไหว อาทิ CONMAT, Home Improvement, CONS เด่น SCCC, TOA, HMPRO, STEC, CK, MENA / หุ้นปันผลน่าสะสม AP, DMT, ICHI, KTB, MEGA, PTT, SPALI, TASCO / หุ้นบลูชิพมี ESG Rating รับอานิสงส์ TESGX ADVANC, AOT, BDMS, CPALL, PTT, SCB / หุ้นปันผลที่ให้ Yield งวดนี้ > 3% คำแนะนำ “ซื้อ” AAI, AP, AU, CKP, CPN, EGCO, EKH, HMPRO, III, KTB, LH, MENA, NEO, NKT, PRM, SABINA, SIRI, SJWD, SPALI, SYNEX, TVO / หุ้นที่ผ่านเกณฑ์มีโอกาสซื้อหุ้นคืน EASON, HFT, IRC, METCO, RSP, SPALI (เคยซื้อหุ้นคืน) / DTCENT, GFPT, HARN, IRCP, KWM, RCL, SAT, SE, SK, THIP (ไม่เคยซื้อหุ้นคืน)

หุ้นแนะนำประจำวัน
SCCC – เหตุแผ่นดินไหวคาดจะทำให้ความต้องการใช้ปูนเพิ่มขึ้นในการซ่อมแซมและสร้างอาคารใหม่, ผู้ประกอบการมีการขึ้นราคาขายปูนในปท.ขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ เราประเมินว่าทุก ๆ ที่ขึ้น 100 บ./ตัน จะเพิ่มกำไรปีนี้ถึง 700 ลบ., ปันผลปีละ 7%, เป้าพื้นฐาน 195 บ.