AEON Thana Sinsap (AEONTS TB)
สรุปประเด็นจาก Consumer Finance Day
"ซื้อ" ลด TP เหลือ 150 บาท คาดคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น
เรามีมุมมอง “เท่าตลาด” สำหรับ AEONTS หลังจากงาน Consumer Finance Day เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะค่อยๆ ดีขึ้น โดยมีอัตราส่วน NPL ที่ลดลง หลังจากที่ AEONTS เข้มงวดเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อและปรับพอร์ตสินเชื่ออย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การเติบโตของสินเชื่อและรายได้มีแนวโน้มชะลอตัวในระยะสั้น เราแนะนำ "ซื้อ" และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 150 บาท (อิง P/BV ปี 69 ที่ 1.3 เท่า และ ROE ที่ 12.2%) จากเดิม 160 บาท โดยปรับลดประมาณการกำไรปี 68-69 ลง 4% เพื่อสะท้อนการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอและต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) ที่สูงขึ้น ความเสี่ยงหลักยังคงอยู่ที่คุณภาพสินทรัพย์ที่อาจอ่อนแอกว่าคาด
ตั้งเป้าขยายสินเชื่อส่วนบุคคลและเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม
AEONTS ตั้งเป้าขยายสินเชื่อส่วนบุคคล หลังจากที่ปรับโครงสร้างงบดุลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีแผนเปิดคีออสในต่างจังหวัดเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ ขณะเดียวกัน ผู้บริหารวางแผนปรับปรุงประสิทธิภาพของสาขาและการตลาด โดยใช้กลยุทธ์ที่คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทั้งนี้ AEONTS ยังตั้งเป้าเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมจากการใช้จ่ายบัตรเครดิต หนี้เสียได้รับคืน และนายหน้าประกันภัย โดยผู้บริหารตั้งเป้ารายได้จากหนี้เสียได้รับคืนที่ 2.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15-20% YoY
กำไรไตรมาส 4 ลดลง 21% YoY คาดไม่มีการขาย NPL
เราคาดว่ากำไรของ AEONTS ในไตรมาส 4/68 (ธ.ค. 67 - ก.พ. 68) จะเติบโต 9% QoQ เป็น 863 ล้านบาท จาก credit cost ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรสุทธิปี 68 จะลดลง 8% YoY เหลือ 3 พันล้านบาท เนื่องจากสินเชื่อและรายได้เติบโตอ่อนแอ คาดว่าสินเชื่อจะลดลง 1% QoQ และ 3% YoY เนื่องจาก AEONTS ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์มากกว่าการขยายพอร์ตสินเชื่อในระยะสั้น เราคาดว่ารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะลดลง QoQ เนื่องจากไม่มีการขาย NPL ในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม ในมุมบวก credit cost และอัตราส่วน NPL คาดว่าจะลดลง QoQ เนื่องจากการเกิด NPL ใหม่อยู่ในระดับต่ำ AEONTS จะประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/68 ในวันที่ 9 เมษายน และจัดประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 10 เมษายน เพื่อประกาศเป้าหมายทางการเงิน
คาดกำไรปี 69 ฟื้นตัวจากหนี้เสียได้รับคืนและ credit cost ที่ลดลง
ผู้บริหารคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้นจาก credit cost และอัตราส่วน NPL ที่ลดลงในปีนี้ โดยบริษัทมีอัตราการเก็บหนี้ที่ดีขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อัตราส่วนสินเชื่อระยะที่ 2 รวมกับ NPL ลดลงเหลือ 8.9% ในไตรมาส 3/68 จาก 9.1% ในไตรมาส 1/68 เราคาดว่ากำไรปี 69 จะเติบโต 9% YoY เป็น 3.3 พันล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหนี้เสียได้รับคืนที่เพิ่มขึ้น การเติบโตของสินเชื่อที่ดีขึ้น และ credit cost ที่ลดลง
Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395