Today’s NEWS FEED

News Feed

บิ๊กอสังหาฯ พัทยา "คราฟท์เวิร์ค" ชูกลยุทธ์ "RETHINK FOR BETTER LIVES" ตอกย้ำความสำเร็จปรากฎการณ์ แบรนด์ "AROM"

558

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 มีนาคม 2568)----นายเฉลิมพล โขนแจ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คราฟท์เวิร์ค จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาคลุกคลีอยู่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจการพัฒนาเรื่อยมาโดยตลอด จากจุดเริ่มต้นธุรกิจของครอบครัวเป็นเวลากว่า 50 ปี จนถึงวันนี้ได้เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในเมืองพัทยาที่ก้าวสู่ Lifestyle Ecosystem Creator โดยมีการพัฒนาโครงการที่หลากหลายและมีการส่งมอบที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียมให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 10 โครงการ พร้อมต่อยอดธุรกิจจนสร้างอาณาจักรใหญ่ในภาคตะวันออก รวมถึงมี Land Bank แปลงเด่นในทำเล Pure Beach Front หลายแปลง

 

"รูปแบบธุรกิจในเครือ ทำให้สามารถนำมาปรับใช้ และ Balance ธุรกิจในกลุ่มคราฟท์เวิร์ค ที่มีความสัมพันธ์และส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อส่งมอบคุณค่าที่ดีให้กับลูกค้าไปพร้อมๆ กับพัฒนาเมืองให้เป็น Craftwork Ecosystem ถือเป็นการต่อยอดการดำเนินธุรกิจสร้างการรับรู้ภายใต้แนวคิด "RETHINK FOR BETTER LIVES" คิดใหม่เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ร่วมกับผู้บริหารและทีมงานทุกคนในทุกส่วนขององค์กรที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น" นายเฉลิมพล กล่าว

 

โดย "คราฟท์เวิร์ค" จะเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้าน ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มการเติบโต โดยมีความมุ่งมั่นในการสร้างที่อยู่อาศัยผ่าน 4 วิธีคิด ที่ถือเป็นกลยุทธ์สร้างจุดแข็งของบริษัทฯ คือ

·   Set the Bar Higher ...ตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้น ในการเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมควบคู่ไปกับการสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ใส่ใจในปัญหาของลูกค้า

·     Set The New Standard ...สร้างมาตรฐานให้ดีขึ้น ไม่หยุดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ การพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งโดยจะให้ลูกค้าจดจำคราฟท์เวิร์คในฐานะผู้นำและเป็นตัวจริงในพัทยา

·      Breaking the boundary ...ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม เพื่อนำเสนอโครงการที่แตกต่างและเติมเต็มความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค

·    For Better Quality of Lives ...คุณภาพชีวิตที่ดีกว่า มุ่งสู่ความยั่งยืน คราฟท์เวิร์คให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการที่สร้างประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับแบรนด์ สร้างธุรกิจและเมืองพัทยาให้ได้ประโยชน์ควบคู่กัน

โดยคอนโดฯ ติดชายหาดวงศ์อมาตย์ มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท โครงการ AROM Wongamat (อารมณ์ วงศ์อมาตย์) ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Sense The Masterpiece ที่สร้างมาตรฐานใหม่ของตลาดอสังหาฯ และไลฟ์สไตล์ในพัทยา รวมถึงเป็นตัวแทนของการใช้ชีวิตหรูหรา แต่เงียบ สงบ เป็นส่วนตัวสูง โดยออกแบบให้ห้องชุดทุกยูนิตมองเห็นวิวทะเล ปัจจุบันห้องชุดจำนวน 311 ยูนิต ขายหมดแล้ว 100% และโอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 70% คาดว่าภายในไตรมาส ปีนี้จะโอนกรรมสิทธิ์ได้ครบทุกยูนิต ถือเป็นคอนโดฯ โครงการแรกที่ฉีกกฎเดิมของคอนโดฯ ในพัทยาที่มูลค่าการขายเติบโตขึ้น 150%

 

ส่วน โครงการ AROM Jomtien (อารมณ์ จอมเทียน) คอนโดฯ ติดหาดจอมเทียน ภายใต้แนวคิด Sense The Soulfulness ที่เปิดตัวเมื่อช่วงกลางปี 2565 พร้อมนำเสนอชีวิตที่เติมเต็มจิตวิญญาณ คงเอกลักษณ์การออกแบบที่มียูนิตน้อย มองเห็นวิวทะเล จำนวน 314 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ปัจจุบันทำยอดขายได้แล้ว 90% ซึ่งจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในไตรมาส ปี 2569

 

นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้แบรนด์ "ละไม หทัยราษฎร์" ได้ขยายฐานกลุ่มลูกค้ามาเจาะทำเลกรุงเทพฯ พัฒนาเป็นบ้านแฝดอารมณ์บ้านเดี่ยว สไตล์ MODERN JAPANESE ภายใต้แนวคิด "ชีวิตที่ได้มากกว่า คือชีวิตที่ลงรายละเอียด" ราคาเริ่มต้น 5-8 ล้านบาท ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่กำลังมองหาบ้านเพื่อสร้างครอบครัวใหม่และต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ครอบครัวเดิม ซึ่งประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มผู้ซื้อ

 

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2568 ยังคงเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยในทำเล EEC เป็นหลักที่ตั้งอยู่บน Strategic Location มีแผนเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 6,500 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการออกแบบในรายละเอียดต่างๆ แบ่งพอร์ตการลงทุนเป็นคอนโดมิเนียม และบ้าน สัดส่วน 50:50 และจะมีโครงการแนวราบเปิดตัวใหม่ในปีนี้เพื่อตอบโจทย์ได้ครบทุกกลุ่มลูกค้า

  

ทั้งนี้บริษัทเชื่อมั่นในศักยภาพของเมืองชายทะเลบนพื้นที่ EECและมองว่าทำเลนี้เป็นเหมือน Strategic Location ที่มีความคืบหน้าของโครงสร้างพื้นฐานที่ชัดเจน  อาทิ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด ซึ่งพัทยาตั้งอยู่ตรงกลางสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ ที่มีทั้งการเติบโตของภาคเอกชนและยังมีปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อการเติบโตด้วย

 

-ระบบ Logistic ที่แข็งแกร่งและต้นทุนที่ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน สามารถดึงดูดเม็ดเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจกว่า 374,000 ล้านบาทในปี 2567 (ข้อมูลจากสนง. EEC)

 

-การท่องเที่ยวเติบโตและมีความหลากหลาย สามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก โดยพัทยามีนักท่องเที่ยวสูงถึง 23 ล้านคน ในปี 2567

 

-ด้านการแพทย์ ทั่วโลกให้การยอมรับ รวมถึงแหล่งงานคุณภาพสูงจากนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำต่างๆ

 

-กลุ่มลูกค้าหลากหลาย เพราะพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพ และความแข็งแกร่งของแบรนด์พัทยาเทียบชั้นได้กับเมืองชั้นนำระดับโลก ทำให้มีโอกาสพัฒนาและเติบโตได้อีกมาก

 

 นอกจากนี้บริษัทยังมีแนวคิดการสร้าง Ecosystem โดยได้ร่วมกับธุรกิจในเครือและพาทเนอร์ทางธุรกิจต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้คนในพื้นที่พัทยาได้ประโยชน์ไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจที่สอดรับกับ Craftwork Ecosystem เป็นการ Create Community ตามวิถีคราฟท์เวิร์ค

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ลุ้น หวยออก By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ลุ้น หวยออก ระหว่างรอ ครม. ระหว่างรอผลประชุม เฟด เงินบาทแข็งค่า.....

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

ATLAS ผนึก PTG เปิดสถานี 'PT Max Rest นครชัยศรี 11' ใหญ่ที่สุดในไทย รองรับไลฟ์สไตล์นักเดินทางยุคใหม่

มัลติมีเดีย

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

PTG × ATLAS ร่วมกันเปิดปั๊มแลนด์มาร์กใหม่ “PT Max Rest นครชัยศรี 11”

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้