Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

264

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 27 มี.ค.68 ปิด -2.46 จุด อยู่ที่ 1,187.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 27,605 ลบ. สถาบันขาย 638 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 168 ลบ. รายย่อยขาย 364 ลบ.และต่างชาติซื้อ 1,172 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 637 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,SCB,BBL,TTB,CPALLและยอดขายหุ้น DELTA,AOT,PTTGC,TOP,CCET มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,140 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TAIWANAI13,ITC,MAJOR โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,567 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 30,683 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 4,268 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.37%, S&P500 -0.33%, Nasdaq -0.53% หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่อัตรา 25% ในวันที่ 2 เม.ย. และขึ้นภาษีชิ้นส่วนในวันที่ 3 เม.ย. นี้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มยานยนต์ เช่น GM, Ford ปรับลดลง ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.44% หลังกลุ่มยานยนต์ -1% หลังถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ ส่งผลให้หุ้น Volkswagen, Stallantis, BMW ปรับลดลง  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง ปธน.ทรัมป์ออกคำสั่งเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตนอกสหรัฐในอัตรา 25% & เดิม 2.5% ในวันที่ 2 เม.ย. และภาษีชิ้นส่วนในวันที่ 3 เม.ย. ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผลิตรถยนต์ปรับลดลง เช่น GM -7.3%, Ford Motor -3.9% ขณะที่ Tesla +0.4% เนื่องจากฐานการผลิตส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ US GDP Q4/67 รายงานครั้งสุดท้าย +2.4% & เดิม +2.3% QoQ ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภค +4% ,จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 1,000 อยู่ที่ 224,000 ราย และค่ำวันนี้ติดตาม US PCE ก.พ. คาดทรงตัวที่ 2.5% YoY และ 0.3% MoM ซึ่งเป็นดัชนีที่เฟดใช้วัดเงินเฟ้อสหรัฐ
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มยานยนต์ -1% หลังสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในวันที่ 2 เม.ย. ส่งผลให้ดัชนี DAX เยอรมัน -0.7% เนื่องจากเป็นซัพพลายเออร์รถยนต์ & ชิ้นส่วนไปยังตลาดสหรัฐ ส่วนกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน -1.8% ปรับลดลงตามราคาทองแดง ขณะที่กลุ่มอสังหา +2.1% หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันอายุ 2 ปี ลดลง 0.05% อยู่ที่ 2.069% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตาม UK GDP Q4/67 คาด 1.4% YoY, +0.1% QoQ, ยอดค้าปลีกอังกฤษ ก.พ. และ CPI ฝรั่งเศส, สเปน มี.ค.  
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.15%, ฮั่งเส็ง +0.41% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, ยานยนต์ ระหว่างรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ในวันที่ 2 เม.ย. โดยรัฐบาลจีนเตรียมออก ม.สนับสนุนในภาคอุตสาหกรรม, เทคโนโลยี และอสังหา ฯ เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ -0.6% จากแรงชายในกลุ่มรถยนต์ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ Tokyo CPI มี.ค. อยู่ที่ 2.4% & ก.พ.2.2%
  • SET วานนี้ -21% ปริมาณการซื้อขาย 2.76 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 638 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 168 ลบ. รายย่อยขาย 364 ลบ. และต่างชาติซื้อ 1,172 ลบ. หลังสหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25% ในวันที่ 2 เม.ย. แม้ว่า ส.อ.ท.เผยไทยมียอดส่งออกรถยนต์ไปตลาดสหรัฐในอันดับที่ 16 คิดเป็นสัดส่วน 0.2% ซึ่งมีผลกระทบต่อยอดส่งออกไทยไม่มากนัก อย่างไรก็ตามนักลงทุนกังวลการถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ในวันที่ 2 เม.ย. ที่ไทยติดอยู่ในอันดับที่ 10 ของกลุ่มประเทศที่มียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐ โดยกลุ่มสินค้าไทยที่อาจถูกสหรัฐเก็บภาษีเพิ่ม เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, โซลาร์เซลล์, ยางล้อรถ, เครื่องปรับอากาศ ฯ ซึ่งจาก Consensus ของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจคาดอาจส่งผลลบต่อ GDP ไทยปีนี้ราว -0.3% ส่วนผลการประชุม ครม.วานนี้เห็นชอบร่าง พรบ.สถานบันเทิงครบวงจร และเตรียมเข้าสภา ฯ รับหลักการวาระ 1 ในวันที่ 11 เม.ย. นี้  ส่วน ม.เราเที่ยวกัน ที่ให้ 1 ล.สิทธ์ช่วยค่าใช้จ่ายห้องพัก 3,000 บาท/คืน คาดจะมีพิจารณาอนุมัติในช่วง พ.ค. – มิ.ย. นี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วง Low Season

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,170 – 1,180 แนวต้าน 1,200 คาดดัชนีทรงตัวในกรอบ รอประเมินผลกระจาก ม.ภาษีสหรัฐในวันที่ 2 เม.ย. แนะนำทยอซื้อกลุ่มอาหาร CPF,TFG,BTG ปรับขึ้นตามราคาหมู, ไก่ และอุปสงค์จากตลาดต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น/ กลุ่มธนาคาร KBANK,SCB,TTB,KKP มี Dividend Yield สูง
  • BTG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.50 บาท) บริษัทตั้งเป้าปี 68 ยอดขายโต 3-7%YoY จากปริมาณขายที่เพิ่มตามการขยายกำลังการผลิต ขณะที่ GPM คาดสูงกว่าปี 67 ที่ 5% แนวโน้ม 1Q68 น่าจะดีต่อเนื่องได้อานิสงส์จากราคาสุกรในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังต่ำจากราคากากถั่วเหลือง นอกจากนี้การซื้อ Eggriculture ที่เป็นธุรกิจไข่ในสิงคโปร์จะเสร็จใน 1Q68 หนุนรายได้ในระยะถัดไป ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดคาดปี 68 มีกำไรสุทธิ 2.9 พันล้านบาท +20%YoY และปี 69 ที่ 3.4 พันล้านบาท +16%YoY
  • SHR* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 3.37 บาท) 4Q67 SHR กลับมามีกำไรได้หลัง 3Q67 ขาดทุน และ +YoY หนุนด้วยการกลับมาเปิด Saii Laguna Phuket และ ปัจจัยตามฤดูกาลของธุรกิจโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ โดย จำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย 4Q67 +17%YoY +10%QoQ และ จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ 4Q67 +7%YoY +15%QoQ นอกจากนี้ 1Q68 ยังดูมีแนวโน้มดีจากยอดนักท่องเที่ยวเข้าไทยในช่วง 1-23 มี.ค.67 ยัง +3%YoY และมัลดีฟส์ +5%YoY ระยะสั้น หุ้นกลุ่มโรงแรมยังมี sentiment บวกจาก "เราเที่ยวด้วยกัน" 2568 คนละครึ่งทั้งนี้ตลาดคาด Profit ปี68 และ69 ของ SHR* ที่ 396 ลบ.(+147%YoY) และ 550 ลบ.(+39%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI พ.ค. +$0.27 อยู่ที่ $69.92 / บาร์เรล, Brent พ.ค. +$0.24 อยู่ที่ $74.03/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.3 ล.บาร์เรล & คาดจะลด 956,000 บาร์เรล โดยอุปทานน้ำมันมีโอกาสตึงตัว หลังสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่ 25% สำหรับประเทศที่ซื้อน้ำมัน & ก๊าซจากเวเนซูเอลา  

 

Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$38.50 อยู่ที่ $3,061 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจากความเสี่ยงภาวะสงครามการค้าสูงขึ้น หลัง ปธน.ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีศุลกากรรถยนต์ในอัตรา 25% ในวันที่ 2 เม.ย. นี้

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +75.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +34.63 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +37.65 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +3.27 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.82 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.348 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -13 จุด อยู่ที่ 1,621

(-) BitCoinเช้านี้ -0.23% อยู่ที่ 87,182 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

31 มี.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที1  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

(เม.ย.)

 

ต่างประเทศ

28 มี.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (ก.พ.)

31 มี.ค.     CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (มี.ค.)

01 เม.ย.    EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (มี.ค.) 

                US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (ก.พ.)

US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (มี.ค.)

02 เม.ย.    US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(มี.ค.)

03 เม.ย.    US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (มี.ค.)

04 เม.ย.    CN เทศกาลเช็งเม้ง

                US อัตราการว่างงาน (มี.ค.)

                US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (มี.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio February 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, SHR*, TEGH*

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้