Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.โกลเบล็ก : Morning Call

203

 


วันพุธที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้น ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความคาดหวังสหรัฐจะยืดหยุ่นการใช้มาตรการภาษีศุลกากร ประกอบกับนักลงทุนคลายความกังวลสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ หลังสภามีมติโหวตไว้ใจนายกรัฐมนตรี มีแรงซื้อน าโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และค้าปลีก ขณะที่มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มไอซีที และโรงพยาบาล เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่1,190.36 จุด +5.43 จุด +0.46% มูลค่าการซื้อขาย 26,578.82 ลบ. Program Trading -604.18 ลบ.ต่างชาติ -182.22 ลบ. TFEX +13,806 สัญญา ตราสารหนี้ -5,306.37 ลบ.

 


ปัจจัยบวก

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.94% ปิดที่69.65 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้ปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวหลังจากสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศที่ซื้อน้ ามันและก๊าซจากเวเนซุเอลา
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่นเครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.พ. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง1.0% หลังจากพุ่งขึ้น 3.3% ในเดือนม.ค.
+ ทำเนียบเครมลินของรัสเซียออกแถลงการณ์ยืนยันว่า รัสเซียเห็นพ้องกับสหรัฐฯ ในการกำหนดให้โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงงานเป็นหนึ่งในสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการยกเว้นจากก ารตกเป็นเป้าหมายโจมตีภายใต้ข้อตกลงยุติการโจมตีด้านพลังงานเป็นเวลา 30 วันระหว่างรัสเซียและยูเครน
+ ที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจให้ น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป ด้วยคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 เสียง ไม่ไว้วางใจ 162 เสียงงดออกเสียง 7 เสียง จากผู้ลงมติ 488 เสียง


ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 132.71 จุด หรือ -0.31% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า โดยล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25%
- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ ออก ร ายงานเตือนว่าความแข็งแกร่งด้านการคลังของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นและความสามารถในการช าหนี้ลดน้อยลง
- สหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มบริษัทของจีนกว่า 50 แห่งเข้าในบัญชีดำจำกัดการส่งออก หวังลดความสามารถของจีนในการพัฒนาการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยีควอนตัม และปัญญาประดิษฐ์ (AI)ขั้นสูง ตลอดจนอาวุธไฮเปอร์โซนิก
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัว -1.8% ใน 1Q68
- สำนักงบประมาณสภาคองเกรส (CBO) เตือนว่า รัฐบาลสหรัฐจะขาดแคลนงบประมาณในการชำระหนี้อย่างเร็วที่สุดในเดือนส.ค.หรือก.ย.นี้ หากสมาชิกสภาคองเกรสไม่อนุมัติการขยายเพดานหนี้สหรัฐ

 

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าของสหรัฐขณะที่ปัจจัยในประเทศมีประเด็นบวกจากที่ประชุมสภามีมติไว้วางใจให้ น.ส.แพทองธาร ดำรงตำแหน่งนายกฯต่อไป มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,180-1,200 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : AP LH SIRI SC SPALI QH MTC TIDLOR
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO
• กรณี ธปท.ผ่อนปรนมาตรการ LTV แนะนำ top pick หุ้นที่อยู่อาศัย ได้แก่ AP LH SIRI SC SPALI QH

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

ผถห. SSP ผ่านฉลุย! จ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้