คาด SET Index แกว่งตัว Sideways to sideways up : แรงหนุนจากสัญญาณเชิงบวกของสมรภูมิรัสเซียยูเครน และหวังการโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯผ่านไปด้วยดี หากแต่ถูกลดทอนด้วยความกังวลและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

แนวรับ-ต้าน
1,180 –1,195

กลยุทธ์การลงทุน
1) มาตรการภาครัฐ : AP, BCP, CPN, KKP, PTG, SPALI
2) ส่งออก : AAI, CPF, GFPT, NER, TFG
3) พลังงาน : PTT, PTTEP, SPRC, TOP
4) Window dressing : AMATA, PR9, STGT
5) Thai ESGX : ADVANC, BTG, CPALL, KBANK, SCB, TISCO

ติดตามสมรภูมิการเมืองไทยในวันนี้
คลายกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน : คาดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง SET Index จะได้ Sentiment หนุนจากสัญญาณเชิงบวกของสมรภูมิรัสเซีย-ยูเครน หลังสหรัฐฯออกแถลงการณ์ว่าได้ บรรลุข้อตกลงกับรัสเซียและยูเครนในการรักษาความปลอดภัยสำหรับการเดินเรือในทะเลดำ รวมทั้งยุติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในรัสเซียและยูเครน อีกทั้ง สหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือต่อรัสเซียในการส่งออกสินค้าเกษตรและปุ๋ยเข้าสู่ตลาดโลก รวมทั้งการเข้าถึงท่าเรือ และระบบชำระเงินสำหรับการทำธุรกรรมดังกล่าว ทั้งนี้ หากการเจรจาเพื่อยุติสงครามประสบความสำเร็จและนำไปสู่การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันจากรัสเซียไหลเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น แต่ทางฝ่ายมองในระยะสั้นหุ้นในกลุ่มพลังงานยังมีแรงหนุนที่มากกว่าปัจจัยลบข้างต้น สอดรับกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ ปรับตัวขึ้น 0.16% ปิดที่ $69 ต่อบาร์เรล จากการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% ต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่ API เผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มี.ค.68 พลิกจากการเพิ่มขึ้น 4.593 ล้านบาร์เรลในการรายงานสัปดาห์ก่อนหน้า และลดลงมากกว่าตลาดคาด (-2.5ล้านบาร์เรล)

 ติดตามโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ : หลังจบการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯวานนี้ ในวันนี้เวลา 10 โมงเช้า ปธ.สภาฯได้นัดที่ประชุมลงมติ ดังนั้นติดตามว่าจะมีสัญญาณไปสู่จุดเปลี่ยนทางการเมืองหรือไม่ ทั้งนี้ หากการลงมติผ่านพ้นไปด้วยดีและแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของพรรคร่วมรัฐบาล คาดเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index

 สงครามการค้ายังไม่แน่นอน : มองทางขึ้นถูกลดทอนลงด้วยความกังวลและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายทางการค้าของปธน.ทรัมป์ สอดรับกับ 1) การเผยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของสหรัฐฯเดือนมี.ค.68 จาก CB ซึ่งอยู่ที่ 92.9 ลดลงจาก 100.1 ในเดือนก.พ.68 และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.64 หลังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวว่านโยบายของปธน.ทรัมป์จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยและทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และ 2) ราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น 0.34% ปิดที่ $3,025.9 ต่อออนซ์

ปัจจัยเพิ่มเติม

 (+) ปธ.คณะกรรมการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 47 เผยตลอด 4 วันของการจัดงาน ยอดจองทะลุ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยมาจากผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่-กลาง-เล็กที่ มาร่วมออกบูธในงานฯ และคาดว่าหลังจบงานจะมียอดขายและยอดโอนเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่าสองเท่า

(+) การประชุมเอเชียโป๋อ๋าว คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของเอเชียในปี 68 จะอยู่ที่ 4.5% เพิ่มขึ้นจาก 4.4% ในปี 67

(-) ส.อ.ท. เผยเดือนก.พ.68 มียอดผลิตรถยนต์อยู่ ที่ 115,487 คัน ลดลง 13.62% y-y ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 49,313 คัน ลดลง 6.68% y-y ด้านการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปส่งออกได้ 81,323 คัน ลดลง 8.34%y-y

(-) ACEA เผยยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ ใน EUลดลง 3.4% y-y ในเดือนก.พ.68 โดยเยอรมนี มียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ลดลงมากที่สุด โดยหดตัว 6.4% ตามมาด้วยอิตาลีที่ลดลง 6.2%

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์