LH : การเยี่ยมชมโรงแรมหรูแห่งแรกของ LH
ลุมพินีเปิดตัวแลนด์มาร์กหรูหราแห่งใหม่
โรงแรมหรู Grande Centre Point Lumpini เป็นโรงแรมหรูแรกของแบรนด์ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน ตั้งอยู่ใกล้กับสาทร และสีลม บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ โครงการนี้เป็นการพัฒนาแบบผสมผสาน ประกอบด้วยโรงแรม 512 ห้อง พื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ สำนักงาน "Worklab", Let's Relax Onsen & Spa,และที่จอดรถกว่า 1,000 คัน เช่นเดียวกับโรงแรมของ LH ที่พัทยา โครงการนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เราคาดว่าโครงการนี้จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับ LH เหนือคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน
สิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมเพื่อสนับสนุนอัตราการเข้าพัก
โรงแรมนำเสนอห้องพักระดับพรีเมียม สวีท และเพนท์เฮาส์เพียงหนึ่งห้อง ไฮไลท์คือ พื้นที่จัดงานขนาด 6,000+ ตารางเมตร รองรับแขกได้กว่า 1,000 คน และสามารถจัดงานแต่งงานได้พร้อมกันสามงาน บอลรูมหลักสามารถรองรับแขกได้ประมาณ 1,000 คน (แบบค็อกเทล) หรือ 700 คน (แบบจัดเลี้ยง ห้องประชุมบนชั้น 10 และ 12 มีความยืดหยุ่นสูง มีเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงป้ายดิจิทัลและระบบควบคุมเสียง-ภาพ คุณลักษณะพิเศษคือ บาร์บนดาดฟ้าที่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มส่วนตัวมาดื่มได้โดยไม่คิดค่าเปิดขวด
ออนเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
Let's Relax Onsen & Spa ขนาด 3,000+ ตารางเมตร ซึ่งเป็นออนเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นองค์ประกอบหลักของโครงการ เป็นสถานที่ของ Let's Relax สาขาที่สาม ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองอิเนะ ประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่แยกสำหรับชายและหญิง ประกอบด้วยอ่างอาบน้ำหลัก 5 อ่าง (รวมถึงน้ำแร่เกโระ) ห้องอบไอน้ำ/ซาวน่า ห้องหินร้อน และห้องน้ำเย็น สปามีเตียงนวดประมาณ 50 เตียง และจะดำเนินการภายใต้สัญญาแบ่งรายได้เป็นเวลา 15 ปี โดยคาดว่าจะคืนทุนภายในสามปี
เปิดเผยแผนโครงการ
โครงการนี้เป็นก้าวแรกสู่การขยายตัวในระดับหรู Grande Centre Point Prestige (ราชประสงค์) วางแผนเปิดในปี 2026 เพิ่มห้องพัก 509 ห้อง Grande Centre Point Voyage พัทยา ซึ่งเป็นโครงการที่พัทยาขนาดใหญ่พร้อมสวนน้ำธีมพาร์ค อยู่ระหว่างการพัฒนาและวางแผนเปิดในปี 2027 และ Grande Centre Point ไชน่าทาวน์ ซึ่งได้รับการอนุมัติ EIA แล้ว จะมี 357 ห้อง และวางแผนเปิดในปี 2028
แนวโน้มทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากสินทรัพย์ให้เช่าเพิ่มรายได้ประจำ
โรงแรมมีเป้าหมายราคาค่าห้องเฉลี่ย (ADR) ประมาณ 8,000 บาท และอัตราการเข้าพักปีแรก 30-40% โครงสร้างรายได้คาดการณ์ประกอบด้วย ประมาณ 60% จากห้องพัก 15-20% จากงานอีเวนต์ (20 ล้านบาท/เดือนในช่วงแรก) 10-12% จากการให้เช่าสำนักงาน และประมาณ 10% จากการแบ่งรายได้ สำนักงาน "Worklab" ขนาด 12,000+ ตารางเมตร (เกรด A) ขายไปแล้ว 50% โครงการสมาชิกของ LH (49,000 บาท/ปี/สมาชิก; หนึ่งสมาชิกต่อ 100 ตารางเมตรที่เช่า) สร้างรายได้ประมาณ 10 ล้านบาท/ปี จาก 200 สมาชิก โครงการมีเป้าหมาย EBITDA margin ที่ 50-55% การเปิดตัวของโรงแรมจะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งที่มีส่วนร่วมอย่างแข็งแกร่งในปีต่อ ๆ ไป ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ LH โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 5.80 บาท