คาด SET Index : แกว่งตัวออกข้าง แรงหนุนจากความคาดหวังว่าสงครามการค้าอาจไม่รุนแรงอย่างที่คิด มาตรการภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และความหวังต่อการเกิด Window dressing หากแต่จำกัดด้วยการรอติดตามประเด็นทางการเมืองไทย

แนวรับ-ต้าน
1,180-1,200

กลยุทธ์การลงทุน
1) มาตรการภาครัฐ : AP, BCP, CPN, KKP, OR, PTG, SPALI
2) ส่งออก : AAI, CPF, GFPT, MALEE, NER, TFG
3) พลังงาน : PTT, PTTEP, SPRC, TOP
4) Window dressing : AMATA, PR 9 , STGT
5) Thai ESGX : ADVANC, BTG, CPALL, KBANK, KTB, SCB, TISCO

มีเรื่องดีและมีเรื่องที่ยังติดตามอยู่

สงครามภาษีอาจไม่เร็วและแรงอย่างที่คิด : คาด Sentiment หนุนยังคงมาจากการเปิดรับสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน สอดรับกับ Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ที่ต่างปิดในแดนบวกเมื่อคืนที่ผ่านมา สวนทางกับ 1) การขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย สะท้อนจาก US bond yield 2 และ 10 ปี ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.1% และ 4.3% ตามลำดับ และ 2) VIX ที่ปรับตัวลง 9.24% ปิดที่ 17.49 ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบประมาณ 1 เดือน ท่ามกลางความคลายกังวลต่อการทำสงครามการค้าเต็มรูปแบบและเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลัง 1) Bloomberg และ Wall Street Journal รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ มีแนวโน้มจะยังไม่ประกาศเก็บภาษีนำเข้าเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมในวันที่ 2 เม.ย.68 แม้จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการภาษีแบบตอบโต้ก็ตาม และ 2) สหรัฐฯเผย Composite PMI เดือนมี.ค.68 ที่ 53.5 เพิ่มขึ้นจาก 51.6 ในเดือนก.พ.68 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคบริการซึ่งอยู่ที่ 54.3 มากกว่าตลาดคาดที่ 51.2 และเพิ่มขึ้นจาก 51.0 ในเดือนก.พ.68

มาตรการรัฐมาต่อเนื่องและหวัง Window dressing : คาด SET Index จะได้แรงหนุนจากมาตรการภาครัฐออกมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว มาตรการกระบะพี่ มีคลังค้ำ และล่าสุดวานนี้ กบน. มีมติปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันเบนซินและดีเซลลง 1 บาท/ลิตร โดยจะดำเนินการเป็น 2 ระยะ ครั้งละ 50 สตางค์/ลิตร ได้แก่ วันที่ 28 มี.ค.68 และวันที่ 4 เม.ย.68 เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงสงกรานต์ นอกจากนี้ คาด SET Index จะได้แรงหนุนจากความหวังต่อการเกิด Window dressing สอดรับกับข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า 1Q เป็นไตรมาสที่มีโอกาสเกิด 70% โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 0.66% และหากพิจารณาเฉพาะปีที่ผลตอบแทนเป็นบวกพบว่าผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.23%

ยังติดตามการซักฟอกเดี่ยว : มองทางขึ้นจำกัด เนื่องจากนักลงทุนมีแนวโน้มชะลอการลงทุนออกไป เพื่อรอติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯว่าจะมีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงจุดเปลี่ยนทางการเมืองไทยหรือไม่ สอดรับกับวานนี้ที่ SET Index มีมูลค่าการซื้อขายเพียง 2.34 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 66

ปัจจัยเพิ่มเติม

(+) สนพ. คาดว่าจะมีการใช้น้ำมันสำเร็จรูปในปี 68 ที่ 144.9 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 3.1% y-y จากการเพิ่มขึ้นของการใช้น้ำมันเครื่องบินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 14.1% จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งส่งผลให้การใช้น้ำมันสำเร็จรูปประเภทอื่นขยายตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อาทิ การใช้น้ำมันเบนซินและ LPG

(+) กระทรวงพาณิชย์ เผยการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนก.พ.68 ขยายตัว 19.9% y-y โดยการส่งออกขยายตัว 20.8% และการนำเข้าขยายตัว 18.8%

(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 1.22% ปิดที่ 69.11 ต่อบาร์เรล หลัง ปธน.ทรัมป์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม Truth Social ว่า ประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลาจะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% จากสินค้าทุกรายการที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.68

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์