News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

24 มี.ค. 2568 08:55:21 269

Market Wrap-Up

SET วันที่ 21 มี.ค.68 ปิด +4.90 จุด อยู่ที่ 1,186.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,293 ลบ. ต่างชาติซื้อ 469 ลบ. รายย่อยซื้อ 601 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 514 ลบ. และสถาบันขาย 556 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,540 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,TISCO,TTB,KBANK,CRC และยอดขายหุ้น VGI,CCET,KTB,PTT,CPF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,385 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TAIWANAI13,QH,BH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 13,811 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 31,158 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 657 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.08%, S&P500 +0.08%, Nasdaq +0.52% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสื่อสาร +1.0%,สินค้าฟุ่มเฟือย +0.63% ขณะที่อสังหา ฯ -1.02%, วัสดุ -1.0% หลัง ปธน.ทรัมป์เผยอาจมีความยืดหยุ่นเกี่ยวมาตรการภาษีศุลกากร ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.6% จากแรงขายกลุ่มท่องเทียว & สันทนาการ -1.6% หลังเกิดเหตุไฟไหม้ในสนามบินฮีทโธรว์, กลุ่มอุตสาหกรรม -1.5% และเหมืองแร่ -2.6% ตามราคาทองแดง

Market View

DJIA +1.2%, S&P500 +0.5%, Nasdaq +0.17% WoW หลังผลการประชุมเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 25 – 4.5% และยังคงคาดการณ์ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แต่ปรับลด US GDP ปีนี้ที่ 1.7% & เดิม 2.1% และคาดเงินเฟ้อสหรัฐปีนี้จะปรับขึ้นอยู่ที่ 2.8% & เดิม 2.5% โดย ปธ.เฟดเผยยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย เนื่องจากรอประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าของทรัมป์ ขณะที่ ปธน.ทรัมป์เผยอาจมีความยืดหยุ่นต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรในวันที่ 2 เม.ย. โดยสัปดาห์นี้ผู้แทนการค้าสหรัฐจะหารือกับจีน ข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ติดตาม US PMI ภาคการผลิต & บริการ เบื้องต้น มี.ค., ยอคขายบ้านใหม่ ก.พ., US GDP Q4/67 และ US PCE ก.พ.
Stoxx600 +0.5% WoW ได้แรงหนุนหลังรัฐสภาเยอรมันผ่านงบกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 5 แสน ล.ยูโร เพื่อฟื้นเศรษฐกิจเยอรมันที่หดตัวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ยังรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐที่ 25% ซึ่ง ปธ.ECB คาดจะส่งผลต่อ GDP ยูโรโซนปีนี้ราว -0.3% และหากใช้ ม.ตอบโต้อาจลบ -0.5% ดังนั้น EU จึงชะลอการปรับขึ้นภาษีวิสกี้นำเข้าจากสหรัฐ เพื่อรอการเจรจากับสหรัฐอีกครั้ง ส่วนผลการประชุม BOE ของอังกฤษมีมติคงดอกเบี้ยที่ 5% และยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ สัปดาห์นี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการ เบื้องต้น มี.ค. ของยูโรโซน, อังกฤษ, CPI & PPI อังกฤษ ก.พ. และ GDP อังกฤษ Q4/67
MSCI Asia Pacific X Japan +1.3% WoW นำโดยดัชนีนิเกอิ +1.68% WoW ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนอ่อนค่า หลัง BOJ ยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5% เพื่อรอผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ ที่อาจกระทบต่อกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่น ขณะที่กองทุน Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในบริษัทเทรดดิ้ง 5 แห่งของญี่ปุ่น ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.6%, ฮั่งเส็ง -1.1% WoW โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี & อินเตอร์จีนถูกแรงขายทำกำไร หลังราคาหุ้นกลุ่มเหล่านี้ปรับขึ้นรับความหวังเชิงบวกของ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีนแล้ว
SET +1.09% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 19 หมื่น ลบ. +4.2% WoW รายย่อยซื้อ 2,183 ลบ. สถาบันซื้อ 1,658 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 338 ลบ. และต่างชาติขาย 3,503 ลบ. WoW โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +4.8% WoW ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ กอปรกับ PTT ปรับขึ้นรับข่าวการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1.6 หมื่น ลบ. จำนวนไม่เกิน 470 ล.หุ้น ส่วนกลุ่มธนาคาร +3.3% WoW ได้แรงหนุนจากอัตราจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยสูงกว่า 6% กอปรกับมีข่าวการควบรวมกิจการของ KTB & TTB ซึ่งผู้บริหารทั้ง 2 ธนาคารได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าวแล้ว ขณะที่กลุ่มที่ปรับลดลง คือ บรรจุภัณฑ์, วัดสุก่อสร้าง, อิเล็ก ฯที่เป็นกลุ่ม Global Play ถูกแรงขายทำกำไร หลังราคาหุ้นปรับขึ้นรับข่าว ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจีน และยังอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษึศุลกากรของสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศนั้น ก.พาณิชย์เผยตัวเลขส่งออกไทย ก.พ.+14% ดีกว่าคาดที่ 8% YoY ซึ่งเป็นการเร่งส่งออกสินค้าในตลาดต่างๆ ก่อนที่จะถูกปรับขึ้นภาษีใน เม.ย. นี้ สัปดาห์นี้ติดตามการอภิปรายไม่วางใจนายก ฯ วันที่ 24 – 25 มี.ค.และลงมติ 26 มี.ค.

Daily Strategy

ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,170 – 1,180 แนวต้าน 1,190 – 1,200 โดยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของ SET หลัง Valuation อยู่ในโซนถูกเทรดที่ F/PE 3X กอปรกับ ปธน.ทรัมป์เผยจะยืดหยุ่นต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากร แนะนำทยอยซื้อ KTB,TISCO,KKP มีอัตราจ่ายเงินปันผลสูง/ เก็งกำไร HMPRO,BANPU,TOP ที่ราคาหุ้นในโซนถูก และหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น VGI,NETBAY
BCPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.40 บาท) แนวโน้มปี 68 คาดกำไรปกติจะเติบโตด้วยผลของปรากฏการณ์ลานีญาที่เป็นบวกต่อ Hydro power plant ประกอบกับการทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe ถือหุ้น 48%) ในลาวที่จะเริ่มช่วง 2H68 ปัจจัยบวกที่เหลือมาจาก BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในไทยน้อย ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการแทรกแซงโดยภาครัฐ ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งให้ราคาขายไฟฟ้า (ค่าความพร้อมจ่าย) ในตลาดเสรีของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง มองว่าปี 68 ไม่มีตั้งสำรองเพิ่มกรณีลูกหนี้ในลาว ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 5 พันล้านบาท และปี 69 ที่ 1.8 พันล้านบาท +19%YoY
AAI* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 82 บาท) สำหรับการดำเนินงานในช่วงปี68 ทาง AAI ตั้งเป้ารายได้ +8.8%YoY(ที่ 7.4 พันลบ.) หนุนจากเป้ารายได้อาหารสัตว์เลี้ยงที่ 6.6 พันลบ. +11.4%YoY จากเป้าปริมาณขาย +15%YoY และ คาด GPM ที่ 18-20% ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกของไทย 2 เดือนแรกของปี68 อาหารสุนัขและแมวยังมีแนวโน้มที่ดี โดย เดิอน ม.ค.68 +13.2%YoY -4.0%MoM/เดิอน ก.พ.68 +14.2%YoY +10.6%MoM ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ AAI* จะอยู่ที่ระดับ 1,084 ลบ.(+8.1%YoY) และ 1,169 ลบ.(+7.8%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI พ.ค. +$0.21 อยู่ที่ $68.28 / บาร์เรล, Brent พ.ค. +$0.16 อยู่ที่ $72.16/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI +1.6%, Brent +2.1% WoW หลังสหรัฐเตรียม ม.คว่ำบาตรต่ออิหร่าน ส่งผลให้อุปทานน้ำมันจากอิหร่านอาจลดลง 1 ล.บาร์เรล/วัน แต่ยังรอการประชุมโอเปกพลัสที่อาจพิจารณาปรับเพิ่มกำลังการผลิต 138,000 – 435,000 บาร์เรล/วัน จนถึง มิ.ย. 69 ซึ่งเป็นทยอยลด ม.จำกัดการผลิต 5.85 ล.บาร์เรล/วัน ที่เริ่มในปี 65 เพื่อพยุงราคาน้ำมัน

Gold Update(-) Comex Gold เม.ย.-$22.40 อยู่ที่ $3,021.40 /ออนซ์ สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาทองคำ +1.0% WoW โดยทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ในช่วงที่มีความไม่แน่นอนต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ กอปรกับปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางสูงขึ้นอีกครั้ง จากเหตุอิสราเอลโจมตีกลุ่มฮามาส

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -497.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -103.82 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -433.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +40.02 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.91 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.271 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +70 จุด อยู่ที่ 1,229

(+) BitCoinเช้านี้ +2.15% อยู่ที่ 85,870 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

31 มี.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

24 มี.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มี.ค.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มี.ค.)

25 มี.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มี.ค.)

US ยอดขายบ้านใหม่ (ก.พ.)

27 มี.ค. US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4)

US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

27 มี.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (ก.พ.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio February 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, SHR*, TEGH*

Analysts

Apichai Raomanachai