Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

425

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 20 มี.ค.68 ปิด -7.95 จุด อยู่ที่ 1,181.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,627 ลบ. ต่างชาติขาย 2,833 ลบ.  พอร์ตโบรกขาย 30 ลบ. สถาบันซื้อ 1,231 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,632 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 2,129 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น KBANK,PTTEP,TISCO,BEM,BAM และยอดขายหุ้น GULFI,PTT,DELTA,SCB,AOT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,157 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ BH,MAJOR,INDIA1001 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,453 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 17,347 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 2,909 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.03%, S&P500 -0.22%, Nasdaq -0.33% จากแรงขายกลุ่มวัสดุ -0.62%,สินค้าอุปโภค -0.52% ขณะที่พลังงาน +0.41% ส่วนข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2,000 ราย อยู่ที่ 223,000 ราย เป็นผลจากการลดพนักงานของภาครัฐ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.43% จากแรงชายกลุ่มธนาคาร, ยานยนต์ และกลุ่มกลาโหม จากความกังวล ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรปของสหรัฐ  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ยที่ 4.25 – 4.5% และคาดการณ์ลดดอกเบี้ยปีนี้ 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% & ตลาดคาดจะลด 3 ครั้งในปีนี้ และได้ปรับลดคาดการณ์ US GDP ปีนี้ลงอยู่ที่ 1.7% & เดิมที่ 2.1%, อัตราเงินเฟ้อปีนี้คาดปรับขึ้นอยู่ที่ 2.8% & เดิมที่ 2.5% โดยคณะกรรมการเฟดชี้ยังมีความไม่แน่นอนจาก ม.ของ ปธน.ทรัมป์ ดังนั้นจึงขอรอดูประเมินสถานการณ์ก่อน ส่วน ปธ.เฟดขี้ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากร อาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐเข้าสู่เป้าหมายช้ากว่าคาด ขณะที่ Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐ ก.พ. -0.3% & คาด -0.2% บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว
  • ตลาดยุโรปวานนี้ปรับลดง จากความกังวลต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐ โดย ปธ.ECB คริสติน ลาการ์ด ชี้ ม.เก็บภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐในอัตรา 25% อาจส่งผลให้ Euro GDP ปีนี้ -0.3% และอาจ -0.5% หากมีการใช้ตอบโต้ ส่งผลให้ EU ตัดสินใจเลือน ม.ปรับขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐออกไปในช่วงกลาง เม.ย. เพื่อเจรจากับสหรัฐ ส่วนผลการประชุม BOE อังกฤษมีมติ 8 – 1 คงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% หลังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน และรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ ค่ำวันนี้ติดตามวุฒิสภาเยอรมันจะพิจารณา ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ, ปรับลดข้อจำกัดในการกู้ยืม และปรับเพิ่มงบด้านกลาโหม
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.51%,ฮั่งเส็ง -2.23% หลัง ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ย LPR 1 ปีที่ 3.1% และ 5 ปีที่ 3.6% ขณะที่ดัชนี Kospi เกาหลีใต้ +0.32% ฟื้นตัวตามกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ หลังเฟดยังคงคาดการณ์ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเข้านี้ National CPI ญี่ปุ่น ก.พ. อยู่ที่ 3.7% & ม.ค. 4.0% YoY
  • ดัชนี SET วานนี้ -0.67% ปริมาณการซื้อขาย 4.4 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2,833 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 30 ลบ. สถาบันซื้อ 1,231 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,632 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ -5.18% นำโดย DELTA -5.6% จากแนวโน้มกำไรปีนี้อาจลดลง เป็นผลจากการถูกเก็บภาษี GMT ส่วน GULF & INTUCH ก็ถูกแรงขายปรับพอร์ต ก่อนที่จะหยุดทำการซื้อขายในช่วงควบรวมกิจการเป็น GULFI ที่กลับมาซื้อขายในวันที่ 3 เม.ย. โดยภาพรวมนักลงทุนยังกังวล ม.ปรับขึ่นภาษีศุลกากรของสหรัฐในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งไทยก็มีโอกาสถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษี Universal Tariffs เนื่องจากมียอดเกินดุลการกับสหรัฐในอันดับที่ 11 ซึ่งศูนย์วิจัยเศรษฐกิจต่าง ๆ คาด ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ อาจส่งผลลบต่อ GDP ไทยปีนี้ราว 0.3 – 0.5% ส่วนปัจจัยบวกวานนี้ ธปท.ได้อนุมัติผ่อนเกณฑ์ LTV 100% สำหรับสัญญากู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 มูลค่าต่ำกว่า 10 ลบ. และสัญญากู้บ้านหลังที่1มูลค่าตั้งแต่ 10 ลบ.ขึ้นไป เป็นการชั่วคราวตั้งแต่ 1 พ.ค. 68 – 30 มิ.ย. 69 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ ก.พาณิชย์จะรายงานตัวเลขส่งออกไทย ก.พ. คาด 8.0% & ม.ค. 13.6% YoY นำเข้า ก.พ. คาด 5.4% & ม.ค. 7.9% YoY

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,170 – 1,180 แนวต้าน 1,190 – 1,200 คาดได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน แต่ Upside ยังจำกัด ระหว่างรอผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัญ แนะนำทยอยซื้อ KBANK,KTB,KKP ที่จ่ายเงินปันผลสูง/ LH,AP,QH,SPALI,SIRI คาดได้ประโยชน์จาก ม.ผ่อนปรนเกณฑ์ LTV 100% / กลุ่มพลังงาน PTTEP ปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน และ PTT จากมติซื้อหุ้นคืนวงเงิน 1.6 หมื่น ลบ. จำนวนหุ้นซื้อคืนไม่เกิน 470 ล.หุ้น คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยต่อหุ้นที่ 34.00 บาท
  • JMT* (ทยอยซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 18.80 บาท) ผู้บริหารตั้งเป้าซื้อหนี้จำนวน 2 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำเนื่องจากการชะลอการขาย NPL ของธนาคารพาณิชย์ โดยการฟื้นตัวในปี 68 คาดว่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปจากตัวเลข cash collection ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่การตั้งสำรองจะกลับเข้าสู่ระดับปกติมากขึ้น ส่วนฐานะทางการเงินยังเข้มแข็งด้วย IBD/E 0.5 เท่า เมื่อรวมกับกระแสเงินสดจากการเก็บหนี้ ทำให้ rollover หุ้นกู้และรองรับการซื้อหนี้ใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นในปีหน้าได้ ทั้งนี้จาก consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 68-69 ที่ 85 พันล้านบาท (+14%YoY) และ 2.06 พันล้านบาท (+12%YoY)
  • TEGH* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.60 บาท) กำไรสุทธิ 4Q67 +152%YoY แรงหนุนหลักจากธุรกิจยาง นอกจากนี้สัดส่วนปริมาณขายยาง EUDR (ซึ่งราคาขายจะสูงกว่ายางปกติ) ก็สูงขึ้นด้วย โดย 4Q67 สัดส่วนยางแท่ง EUDR อยู่ที่ราว 47% ด้าน TEGH เองตั้งเป้ารายได้ปี 68 +30%YoY จากทุกกลุ่มธุรกิจ/ วางแผนขยาย Capacity ปี68 ในธุรกิจ Crude Palm Oil +51%, ธุรกิจ Organic Waste Management +18%, ธุรกิจ Biogas +48%, และ ธุรกิจ Electricity +44% ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68 และ69 กำไรสุทธิของ TEGH* จะอยู่ที่ระดับ 686 ลบ.(+23%YoY) และ 813 ลบ.(+19%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI เม.ย. +$1.10 อยู่ที่ $68.26 / บาร์เรล, Brent พ.ค. +$1.22 อยู่ที่ $72.00/บาร์เรล หลังสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน และโรงกลั่นน้ำมันขนาดเล็กของจีน และเรือที่จัดส่งน้ำมันให้กับโรงกลั่นดังกล่าว กอปรกลุ่มโอเปกพลัสมีแผนจะลดกำลังการผลิต 1.89 แสน – 4.35 แสนบาร์เรล/วัน จนถึง มิ.ย. 69

 

Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$2.60 อยู่ที่ $3,043.80 /ออนซ์ ได้แรงจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังอิสราเอลโจมตีกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ส่งผลให้ข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -111.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -83.94 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -30.30 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +2.91 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.79 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.241 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -21 จุด อยู่ที่ 1,637

(-) BitCoinเช้านี้ -1.57% อยู่ที่ 84,495 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

31 มี.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

24 มี.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มี.ค.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มี.ค.) 

25 มี.ค.     US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (มี.ค.)

                US ยอดขายบ้านใหม่ (ก.พ.)

27 มี.ค.     US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4)

                US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

27 มี.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (ก.พ.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio February 2025: CPALL, SYNEX*, KLINIQ, SHR*, TEGH*

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ยืน 1200 จุด By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ในท้องทุ่งสีเขียว หุ้นไทยบวกยืน 1200 จุดได้อีกครั้ง ...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้