AT THE OPEN (#ATO)

SET Index แกว่งในกรอบ 1175-1195
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดพักในกรอบ 1175-1195 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้พักตัว ด้านปัจจัยในประเทศมีประเด็นหนุนมาจากความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นของรัฐฯ (ปลด LTV, แก้หนี้ครัวเรือน) แต่จาก FTSE Rebalance ทีทำให้ตลาดอาจผันผวนช่วงท้ายวันอาจเป็นปัจจัยเพิ่มความผันผวน หุ้นรายตัว วันนี้เลือก KTB และ SPRC

ธปท. คลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ทุกระดับราคาทั้งต่ำกว่าและสูงกว่า 10 ล้านบาท มีผลตั้งแต่ 1 พ.ค.68 – 30 มิ.ย.69 ซึ่งเรามองบวกโดยตรงต่อกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่จะช่วยหนุนให้เกิดการซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เป็นต้นไป ได้มากขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็น Investor โดยมีวัตถุประสงค์ซื้อเพื่อปล่อยเช่า จึงมองว่าอสังหาฯ ประเภทคอนโดจะได้รับประโยชน์โดยตรง ซึ่งประเมินตามสัดส่วนและมูลค่าการเปิดตัวคอนโดสูงสุด คือ SIRI และ AP ขณะที่กลุ่มที่ได้ประโยชน์ทางอ้อมคือกลุ่มที่ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยระดับสูง นำโดย SCB TTB และ KTB รวมถึงกลุ่มตกแต่งบ้านอย่าง HMPRO

ความคืบหน้าเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ล่าสุดคลังเผยกำลังพิจารณาแนวทางช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้ที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หนี้บัตรเครดิตและหนี้จากการบริโภคซึ่งคิดเป็น 35% ของหนี้เสีย 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งคาดว่าใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3-6 เดือน สำหรับมุมมองในระยะสั้นของเรา การที่รัฐบาลสามารถซื้อหนี้เสียจากธนาคารจะเป็นผลดี เนื่องจากงบดุลของธนาคารจะดีขึ้นและรายได้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจากรายได้ที่ได้จากการฟื้นฟูหนี้เสีย แต่ระยะยาวเราไม่คิดว่าธนาคารจะกลับมาเร่งปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากการฟื้นตัวของรายได้ยังคงอ่อนแอ หากการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำกว่า 3% ต่อไป สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคารที่เป็น Top Pick KBANK KTB และ KKP
ช่วงท้ายตลาดคาดจะเห็นความผันผวนจาก FTSE Rebalance ที่มีผลราคาปิดวันนี้ โดยหุ้น Large-Mid ที่เข้าไม่มี ส่วนหุ้นออก EA IRPC หุ้น Small Cap ที่เข้า CCET EA IRPC SKY WHART หุ้นออก BYD LPN เบื้องต้นตลาดคาดมีเม็ดเงินไหลเข้าราว 40 ล้านดอลลาร์หรือ 1,350 ล้านบาท

Market Summary
SET Index ปิดปรับลง 7.95 จุด แรงกดดันมาจากกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ DELTA -5.7% และกลุ่ม Market Cap ใหญ่ที่วานนี้ปรับขึ้นแรง AOT -1.2% TRUE -1.8% CRC -2.7% CPALL -1% และ GULF -2.5% และ INTUCH -2.1% จากการซื้อขายวันสุดท้ายก่อนแปลงเป็น Newco เข้ามาเทรดอีกครั้งวันที่ 3 เม.ย. 68 ส่วนกลุ่มที่บวกสวนตลาดกลุ่มพลังงาน PTT +3.4% และ PTTEP +2.3% ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น กลุ่มธนาคารจากปันผลสูงหนุน KBANK +1.9% KTB +0.9% BBL +0.7% และกลุ่มอสังหาฯ จาก ธปท. คลายเกณฑ์ LTV หุ้นที่ปรับขึ้น ANAN +7.6% SPALI +1.2% SIRI +1.9%

DAILY Stock Pick
KTB
ซื้อหุ้นปันผลสูง ความเสี่ยงของ Port สินเชื่อต่ำมีโอกาสซื้อหุ้นคืน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 25.00 บาท
เราชอบ KTB เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและแนวโน้มกำไรเติบโตชัดเจนในปี 68 ที่ +6%YoY ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE68 ที่ 7 เท่า และ PBV68 ที่ 0.67 เท่า อีกทั้งประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 1.545 บาทต่อหุ้น ประจำปี 67 หรือคิดเป็นอัตราเงินปันผลสูงถึง 6.6% ขึ้น XD วันที่ 16 เม.ย. 68
เรามีมุมมองเชิงบวกในระยะสั้นกับ มาตราการซื้อหนี้ประชาชนจากแบงค์ ที่กระทรวงการคลังกำลังศึกษาอยู่ หนุนงบดุลและกำไรของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นจากการขายหนี้เสียออกมา อีกทั้งการเริ่มประกาศซื้อหุ้นคืนของ PTT ประกาศเมื่อวานที่ผ่านมา หนุน sentiment หุ้นในตลาดที่เป็นของรัฐหรือกระทรวงการคลังถือหุ้น อาทิ PTT OR KTB BCP AOT มีโอกาสซื้อหุ้นคืนมากขึ้น

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับฐานในช่วง -0.03% ถึง -0.33% หลังจากตอบรับเชิงบวกหลังการประชุม Fed ที่ส่งสัญญาณมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามในระยะตลาดเริ่มกลับมาให้น้ำหนักกับความเสี่ยงสงครามการค้าที่สหรัฐฯ จะเริ่มต้นเก็บภาษีตอบโต้ในวันที่ 2 เม.ย.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัดเจนว่าจะไม่มีข้อยกเว้นสำหรับอินเดีย ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดฉากความขัดแย้งทางการค้าครั้งใหม่
Consensus คาดการณ์ส่งออกไทย เดือน ก.พ. ขยายตัวช่วง +3.3% ถึง +10.8% ค่ากลางอยู่ที่ +8.0% YoY ชะลอลงจาก +13.6% YoY ในเดือนก่อนหน้า แม้ว่าว่าน่าจะยังคงสะท้อนภาพเชิงบวกการค้าระหว่างประเทศของไทย แต่จะยังไม่เห็นผลจากสงครามการค้าและกำแพงภาษีที่เกิดขึ้น

EYES ON
ในสัปดาห์ : รายละเอียดเพิ่มเติมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
21 มี.ค. : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ