AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งตามกรอบ 1180-1200
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

Market Strategy

SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1180-1200 จุด ผลการประชุม FED ที่ส่งสัญญาณเงินเฟ้อขึ้นเป็นปัจจัยชั่วคราวและยังคงมุมมองการปรับลดดอกเบี้ยฯ ไม่แตกต่างจากเดิม ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาค ส่วนบ้านเราวันนี้ GULF และ INTUCH ซื้อขายสุดท้ายก่อนการเข้าสู่กระบวนการควบรวมอาจทำให้ราคาหุ้น 2 บริษัทวันนี้มีความผันผวนสูง สำหรับหุ้นเด่นวันนี้เลือก MTC และ SPRC

ผลการประชุม FED วานนี้มีประเด็นสำคัญฯ ดังนี้ 1) มติคงอัตราดอกเบี้ยฯ 4.5% ตามตลาดคาด 2) การปรับคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจเพื่อสะท้อนความเสี่ยงในอนาคตมากขึ้น โดยปรับลด GDP68E ขยายตัวที่ 1.7%YoY จากเดือน ธ.ค.67 อยู่ที่ 2.1%YoY อัตราการว่างงานปี 68 ที่ 4.4% จากเดิม 4.3% อัตราเงินเฟ้อปี 68 ที่ 2.7%YoY ปรับขึ้นจากเดิม 2.5%YoY 3) มุมมองดอกเบี้ยฯ ผ่าน FOMC Dot Plot ยังคงคาดการณ์ปรับลดดอกเบี้ยฯ ปีนี้ 2 ครั้งตามเดิม 4) ความเห็นของ FED ต่อเงินเฟ้อฯจากนโยบายของสหรัฐฯ คาดเป็นปัจจัยชั่วคราว และการดำเนินนโยบายการเงินยังขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นสำคัญ

โทนการประชุม FED ข้างต้นช่วยทำให้ตลาดลดความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เข้าสู่ Recession และพร้อมยืดหยุ่นต่อการปรับนโยบายการเงิน หากตัวเลขเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเปลี่ยนไปจากที่คาด หนุนต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ฟื้นตัวในช่วง 0.9% -1.4% และ Bond Yield 2 ปีสหรัฐฯปรับลง 5.5 bps ซึ่งคาดจะเป็นบวกที่ดีต่อตลาดหุ้นภูมิภาค สำหรับหุ้นที่คาดได้ Sentiment บวก คือ กลุ่มไฟแนนซ์ MTC SAK และ TIDLOR

ปัจจัยในประเทศ วันนี้ (20 มี.ค.68) GULF และ INTUCH จะซื้อขายเป็นวันสุดท้าย เพื่อเข้าสู่การควบรวมเป็น Newco ก่อนจะกลับเข้ามาซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 3 เม.ย.68 ภายใต้ชื่อ “GULF” ซึ่งอาจสร้างความผันผวนของหุ้นดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่อีกด้านหนึ่งจะมีหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเข้าคำนวณ SET50 ใหม่ ซึ่งปัจจุบันเราคาดคือ VGI มีผลราคาปิด ณ วันที่ 2 เม.ย. 68 ในเชิงกลยุทธ์สามารถเข้าเก็งกำไรระยะสั้นกับ VGI บน Theme Index Play ได้

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 13.5 จุด หุ้นที่หนุนตลาด นำโดย หุ้นที่ Market Cap ขนาดใหญ นำโดย กลุ่มพลังงานจาก PTT 0.9% GULF +3% จากมีรายงานการเข้าถือหุ้น KBANK 3.25% ขณะที่ด้านหนึ่งหนุน INTUCH +4% เนื่องจากใกล้ช่วงเวลาแปลงเป็นหุ้นเป็น NEWCO กลุ่มค้าปลีกฟื้นเด่น นำโดย CPALL +1.5% CPAXT +1.8% CRC +3.7% จากราคาหุ้นที่โซนล่างและ Valuation น่าสนใจ ส่วนกลุ่มอื่นๆที่ปรับขึ้นกลุ่ม AMC BAM +5.6% JMT +7.7% CHAYO +10% Sentiment บวกจากข่าวนโยบายซื้อหนี้ประชาชนเพื่อลดปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่วนกลุ่มที่ปรับลงกลุ่มโรงพยาบาล กล่มอิเล็คฯ เป็นต้น

DAILY Stock Pick

MTC
เก็งกำไร Bond Yield ปรับตัวลง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 60.00 บาท
Dot Plot ของ FED เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งสัญญาณนโยบายผ่อนคลาย (dovish) กว่าที่ Fed Fund Future คาด โดยที่ FED ให้น้ำหนักในการลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง ในปี 70 สวนทางกับ Fed Fund Future ให้น้ำหนักในการขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปี 70 (ส่วนปี 68, 69 Dot Plot ลดดอกเบี้ย 2 และ 1 ครั้ง ตามลำดับ ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด) ส่งผลให้ U.S. Bond Yield ปรับตัวลดลงทุกช่วง โดย Bond Yield 10 ปีลดลง 4 bps ด้าน U.S. Bond Yield 2 ปีปรับลดลงราว 7 bps
การเร่งลดดอกเบี้ยของ FED ช่วยให้ กนง. มีช่องทางในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม เพื่อรักษาช่องว่างทางนโยบาย (Policy space) ให้เหมาะสม เป็นปัจจัยหนุน Sentiment เชิงบวกกับ MTC มีโอกาสที่ต้นทุนเครดิต (Credit Cost) ปรับลดลงตาม

KEY FACTOR
Fed คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.50% ตามที่ Consensus ประเมินไว้ พร้อมกับปรับคาดการณ์เศรษฐกิจ 1.) คาด GDP ขยายตัว +1.7% และ +2.2% ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ (ลดลงจากประมาณการครั้งก่อนในการประชุมเดือน ธ.ค. ที่คาด +2.1% และ +2.0%) 2.) คาดเงินเฟ้อ (Core PCE) ปรับตัวสูงขึ้น +2.8% และ +2.2% ในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ (สูงขึ้นจาก +2.5% และ +2.2% ในประมาณการเดือน ธ.ค.) ส่วนมุมมองดอกเบี้ยจากการส่งสัญญาณผ่าน Dot Plot คงมุมมองให้น้ำหนัก โอกาสลดดอกเบี้ยที่ 2 ครั้ง เท่าเดิม

Risk sentiment ตอบรับเชิงบวก การส่งสัญญาณของ Fed ที่ยืนคงมุมมองดอกเบี้ย 1.) หุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวในช่วง +0.90% ถึง +1.41% 2.) VIX ปรับตัวลงแรง -8.29% 3.) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลง จาก 4.28% สู่ระดับ 4.24% 4) มุมมองตลาดยังคงให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยเฉลี่ยใกล้เคียงระดับเดิมก่อนการประชุม ประมาณ 2.6 ครั้ง

EYES ON
ในสัปดาห์ : รายละเอียดเพิ่มเติมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
21 มี.ค. : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ