คาด SET Index แ กว่งตั ว Sideways down:ท่ามกลางความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางและสงครามการค้า รวมถึงลดสถานะเสี่ยงก่อนทราบผลการประชุม FOMC หากแต่พอมีแรงพยุงเบาๆจากสัญญาณเชิงบวกของสมรภูมิรัสเซีย-ยูเครน
แนวรับ-ต้าน
1,160 –1,180
กลยุทธ์การลงทุน
1) Thai ESGX: BTG, CPALL, GULF, KBANK,KTB, SCB, TISCO
2) Commodity: BCP, NER, PSL, PTTEP, TOP
3) Defensive: BCH, BDMS
4) Selective: ASIAN, CENTEL, INTUCH, MINT,PT, SEAFCO, STECON, TFG
กังวลสงครามอาวุธและการค้า
หนีสินทรัพย์เสี่ยง เข้าสู่ปลอดภัย: คาดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึง SET Index มีแนวโน้มถูกกดดันจากการลดสถานะเพื่อเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย สอดรับกับราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น1.15% ปิดที่ $3,040.8 ต่อออนซ์ซ่งึเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลาง 1) สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลได้กลับมาใช้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีฉนวนกาซาอีกครั้ง เมื่อวานนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย บาดเจ็บหลายร้อยราย และถือเป็นการยุติข้อตกลงหยุดยิงระยะเวลา 2 เดือนกับกลุ่มฮามาส กอปรกับปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮูตีจนกว่าจะยอมยุติการโจมตีเรือ
สินค้าในทะเลแดง และเตือนว่าอิหร่านจะต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีใดๆในอนาคตที่เกิดจากกลุ่มฮูตี และ 2)ความกังวลผลกระทบของเศรษฐกิจโลกจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จากการที่ปธน.ทรัมป์เตรียมใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ในวันที่ 2 เม.ย.68
ติดตามการประชุม FOMC และ BoJ: คาด SET Index มีแนวโน้มเผชิญแรงขายลดสถานะเสี่ยงก่อนที่ทราบผลการประชุม FOMCในคืนนี้โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.25-4.50% ทัง้ นี้สิ่งส าคัญที่ต้องติดตามคือ Dotplotซ่งึจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอตั ราดอกเบี้ยของเฟดรวมถึง Economicprojectionซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ ทิศทางเศรษฐกจิสหรัฐฯ นอกจากนี้ ในระหว่างวันติดตามการประชุม BoJ โดยตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50%อย่างไรก็ดี อาจเห็นการส่งสัญญาณในเชิงHawkishหรอืการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตของBoJ
คลายกังวลไปหนึ่งสมรภูมิ:มองการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงSETIndexยังพอมีแรงพยุงเบาๆจากความคลายกังวลสงครามรัสเซียยูเครน หลังปธน.ทรัมป์และปธน.ปูตินเห็นพ้องกันที่จะให้มีการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วันต่อเป้าหมายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในการทำสงครามยูเครนและจะมีการเริ่มต้นเจรจาหยุดยิงในวงกว้างขึ้นโดยทันทีและแม้ปัจจัยข้างต้นจะเป็น Sentimentเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน สอดรับกับราคาน้ำมันดิบ WTIตัวลง 1.01% ปิดที่ $66.90 ต่อบาร์เรล แต่มองเป็นโอกาสเข้าเก็งกำไร ท่ามกลางสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น นอกจากนี้อาจมีแรงเก็งกำไรในหุ้น GULF และINTUCHจากนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงก่อนที่จะขึ้นSP ในวันพรุ่งนี้
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)กรมธุรกิจพลังงานเผยภาพรวมการใช้น้ามันเชื้อเพลิงเดือนม.ค.68 อยู่ที่157.56 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 2.8% y-y เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
(+)กระทรวงท่องเที่ยวฯเผยตั้งแต่วนั ที่ 1 ม.ค.-16 มี.ค.68 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วทั้งสิ้น 8.3 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้
จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 4.06 แสนล้านบาท
(-) สื่อของรัฐบาลจีนเตือนว่าภาษีนำเข้าของสหรัฐฯจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากประเทศอื่นๆตอบโต้กลับด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯในอัตราสูง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้จีนมีมาตรการเพิ่มเติมเนื่องจากจะมีการเรียกเก็บภาษีรอบใหม่ตามมา
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์