Company Note
ICHI
สรุปประชุมนักวิเคราะห์ (05/03/25)
บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2025F ที่ 9.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5% มาจากธุรกิจ
เครื่องดื่มชาเขียวเป้ารายได้ 7.5 พันล้านบาท เติบโต 5.5% YoY จากการออกสินค้าใหม่ๆ เช่น อิชิตันกรีนทีรสเก็กฮวยผสมน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นสัดส่วนใหญ่ของรายได้ และเข้าช่องทางจำหน่าย traditional trade มากขึ้น ทำการตลาดจากการซื้อ 6 ลัง แถม 6 ขวด และการออกสินค้าใหม่ตามฤดูกาลและเน้นสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น
ธุรกิจ non-tea ได้แก่ Ton Sunsu, Ton Power, น้ำด่าง และอื่นๆ คาด 1,150 ล้านบาท +12% YoY การออกสินค้าแพจจิ้งใหญ่กว่าเดิม เช่นน้ำด่างขวดลิตรออก 27 มี.ค.25 และอิชิตันขวดใหญ่คาด 24 เม.ย 25
การส่งออกคาด 450 ล้านบาท คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสภาวะเศรษฐกิจ CLMV ที่ชะลอตัวในต่างประเทศ
ธุรกิจรับจ้างผลิต OEM เพิ่มขึ้น จากกำลังการผลิตไลน์ใหม่ที่เริ่ม มี.ค.25 การขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 1.5 พันล้านขวด/ปี เป็น 1.7 พันล้านขวดต่อปี คาดรับรู้รายได้จากแบรนด์ General beverage น้ำมะพร้าว ใน 1Q25F ที่ 50 ล้านบาท และใน 2Q25F อีก 180 ล้านบาท และจะมีอีก 1 แบรนด์ผลิตให้กับ TKN เริ่มผลิตเดือน พ.ค.2025
บริษัทคาดอัตราทำกำไรปี 2025F จะไม่ต่ำกว่า 25% จากปี 2024 อยู่ที่ใกล้ 25.7% โดยอาจจะลดลงเทียบกับปี 2024 เนื่องจาก product mix ของสินค้า OEM ที่มีอัตรามาร์จิ้นต่ำน้อยกว่าสินค้าหลักของบริษัท แต่ธุรกิจ OEM ไม่มีค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดส่งผลให้คาดกำไรยังเติบโต สำหรับแนวโน้มราคาวัตถุดิบและแพคเกจจิ้งมีแนวโน้มจะลดลง และมีการล็อกราคาทุกๆ 3 เดือน
ภาษีน้ำตาลที่จะมีการปรับฐานใหม่คาดเม.ย.นี้ บริษัทได้มีแผนปรับสูตรลดน้ำตาลสำหรับสินค้าบางขนาดแล้วและมองว่าจะไม่กระทบต่ออัตราทำกำไร
คงประมาณการเดิม คาดผลประกอบการจะเติบโตได้ใน 2Q25F เป็นต้นไป
แนวโน้มผลประกอบการ 1Q25F คาดจะอ่อนตัว YoY จาก อัตราการใช้กำลังการผลิตประมาณ 71% ลดลง YoY แต่ใกล้เคียง QoQ ต้องลุ้นเดือน มี.ค.25 ยังมีข้อจำกัดของภูมิอากาศจากผลกระทบลานีญาทำให้ฝนตกยาวนาน ฉุดธุรกิจเครื่องดื่มเดือน ม.ค.-ก.พ.25 อัตราทำกำไรที่ลดลงจากคาดรายได้สัดส่วน OEM ที่เพิ่มขึ้นหลังเริ่มไลน์ผลิตใหม่ การบันทึกค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้น แต่คาดเพิ่มขึ้น QoQ จากค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าช่วงปลายปี เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025-26F คาดกำไร 1.4 พันล้านบาท (+7%YoY) และ 1.5 พันล้านบาท (+9% YoY) ตามลำดับ คาดรายได้ปีปี 2025-26F เติบโต 7-8% จากกลุ่มชาเขียวและ non-tea จากการออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง และการขยายกำลังการผลิตรองรับการเติบโต คาดอัตรามาร์จิ้นอยู่ที่เฉลี่ยปีละ 25% ลดลงเทียบกับปี 2024 อยู่ที่ 25.7% เนื่องจาก product mix ของสินค้า OEM ที่มีอัตราทำกำไรขั้นต้นต่ำกว่าสินค้าหลักของบริษัท สำหรับแนวโน้มราคาวัตถุดิบและแพคเกจจิ้งคาดแนวโน้มราคาวัตถุดิบ
ปี 2025F จะลดลง และมีการล็อกราคาทุกๆ 6 เดือน และจากบันทึกค่าเสื่อมจากไลน์ผลิตใหม่ปีละ 30 ล้านบาท จากการขยายกำลังการผลิต 200 ล้านขวดเป็น 1,700 ล้านขวด งบลงทุน 430 ล้านบาท
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 15 บาท
คาดแนวโน้มผลประกอบการ 1Q25F จะอ่อนตัว YoY และจะเริ่มดีขึ้นในช่วง 2Q25F ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 15 บาท อ้างอิง PER forward -0.5STD ของ ICHI เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 14X จากแนวโน้มกำไรที่มีอัตราการเติบโตลดลง จากคาดอัตราทำกำไรที่ลดลง ราคาหุ้นปัจจุบันให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลคาดปี 2025F อยู่ที่ 9.7% ในขณะที่มี PER25F อยู่ที่ 12.2X บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มี D/E 24F เพียง 0.2X ต่ำที่สุดในกลุ่ม
ความเสี่ยง : การแข่งขัน, ภาพรวมเศรษฐกิจ