REBOUND หลัง TRUMP ผ่อนคลาย TARIFF
EXTERNAL FACTOR
• วานนี้ตลาดหุ้นโลกพลิกกลับมา REBOUND ได้หลังมีสัญญานเชิงบวกจากสหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการกีดกันทางภาษีกับ “แคนาดาและเม็กซิโก”
• ปธน. TRUMP เลื่อนเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 1 เดือน และกำลังพิจารณายกเว้นภาษีศุลกากรต่อสินค้าทางการเกษตรบางประเภทจาก แคนาดาและเม็กซิโก เช่น โพแทช, ปุ๋ย เป็นต้น
• นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว รวมถึงในการประชุม NPC ได้เผย เป้าหมาย GDP GROWTH จีนในปีนี้เติบโตราว 5% พร้อมกันนี้รัฐบาลจีนยังให้คำมั่น ว่าจะเพิ่มความพยายามในการสนับสนุนการบริโภคและลดผลกระทบสงครามการค้า
INTERNAL FACTOR
• รมช.คลัง คาดแนวโน้ม GDP ไตรมาส 1/68 จะเติบโตได้ถึง 3.4%YOY สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ซึ่งหนึ่งในโครงการขับเคลื่อน คือ การปรับขึ้นค่าจ้าง 400 บาท นำร่อง 4 จังหวัดเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 68, โครงการ EASY E-RECEIPT, แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 68 ส่วนไตรมาส 2-4 ยังมีนโยบายอีกมากมายที่ เตรียมกระตุ้น
• GDP GROWTH ไทยภาพรวมปีนี้มีโอกาสเติบจากปีที่แล้ว(+2.5%YOY) โดยค่าเฉลี่ย ของตัวเลขคาดการณ์ GDP ปีนี้ไทยของสำนักเศรษฐกิจต่างๆ อยู่ที่ 2.9%YOY
INVESTMENT STRATEGY
• ตอนนี้SET เปิดปีมาแค่ 2 เดือนเศษลงมาแล้ว -15%YTD ถ้าปิดปี 2025 เท่านี้ จะเป็นปีที่ลงลึกสุดตลอด 15 ปี และลดลงติดต่อกัน 3 ปี แสดงให้เห็นถึงนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นสุดๆ สะท้อนจากการลงของดัชนี เกิดจากการ หดตัวของ P/E ( MULTIPLE EXPANSION) กดดัน SET -35%YTD ต่ำกว่าต่ำกว่าปี 2011 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ -28%, ปี 2013 ประกาศลด QE TRAPERING -24%, ปี 2018 สงครามการค้า 1 -25%
• แนะนำเก็งกำไร “หุ้นลงแรง กดพีอี หันมาอีกที อ้าวกำไรโต” มีโอกาสรีบาวน์แรง อย่าง WHA, BGRIM, OSP, JMART, CK, GPSC, LH, SCC
TRUMP เปลี่ยนใจผ่อนคลายนโยบายการค้า & แรงคาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ช่วยลดความผันผวน
วานนี้ตลาดหุ้นโลกพลิกกลับมา REBOUND ได้ โดยในฝั่งสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 1.0% -1.5% หลังมีสัญญาน เชิงบวกจากสหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการกีดกันทางภาษีกับ “แคนาดาและเม็กซิโก”
• ปธน. TRUMP เลื่อนเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 1 เดือน เริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 2 เม.ย.68 (เดิมเดือน มี.ค.) เพื่อให้เวลาผู้ผลิตรถยนต์ในการวางแผนย้ายการลงทุนและการผลิตไปยังสหรัฐฯ
• ปธน. TRUMP กำลังพิจารณายกเว้นภาษีศุลกากรต่อสินค้าทางการเกษตรบางประเภทจากแคนาดาและ เม็กซิโก เช่น โพแทช, ปุ๋ย เป็นต้น (เดิมคาดมีผลบังคับใช้ 2 เม.ย. 68)
อีกทั้งในแง่มุมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ISM เผยดัชนีPMI ภาคบริการ ในเดือนก.พ.68 อยู่ที่ 51 จุด ซึ่งสูงกว่าตลาด คาดที่ 49.7 จุด ประกอบกับยังอยู่ในโซนขยาตัว (PMI > 50) อย่างไรก็ตาม ภาคตลาดแรงงานสหรับฯ ยังต้องติดตาม ใกล้ชิด ADP เผยจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ล่าสุด วูบมากกว่าคาดการณ์
นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว สะท้อนจากPMI ภาคบริการจีน เดือน ก.พ. 68 อยู่ที่ 51.4 จุด ซึ่ง เพิ่มขึ้นสูงกว่าตลาดคาดไว้ที่ 50.8 จุด โดยมีแรงหนุนจาก DEMAND แข็งแกร่งในต่างประเทศ และความเชื่อมั่นทาง ธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้น
รวมถึงในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ได้เผยเป้าหมาย GDP GROWTH ในปีนี้เติบโตราว5% พร้อมกัน นี้รัฐบาลจีนยังให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความพยายามในการสนับสนุนการบริโภคและลดผลกระทบสงครามการค้า ผ่าน การใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มเติม และใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายขึ้น อาทิ
▪ รัฐบาลจีนปรับเพิ่มเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณเป็น “~4%” ของ GDP จากระดับ 3% ในปีที่แล้ว
▪ รัฐบาลจีนมีแผนการออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวพิเศษมูลค่า 1.3 ล้านล้านหยวนในปี 2568
▪ PBOC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และปรับลดอัตราส่วนการกันสำรอง (RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ “ใน เวลาที่เหมาะสม”
ทั้งนี้หากเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณฟื้นตัวได้จริง มองเป็น SENTIMENT เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม CHINA PLAY อาทิ PTTGC, SCC, ERW, CENTEL, SCGP, PTTEP, AOT, ERW, IVL
เศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวแรง ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
รมช.คลัง กล่าวว่าช่วงที่เข้ามาเป็นรัฐบาลเจอหลายปัญหารุมเร้า GDP ในไตรมาส 1/67 เติบโตได้เพียง 1.7%YOY ต่อมาไตรมาส 2/67 ขยายตัวเพิ่มเป็น 2.3%YOY และไตรมาส 3/67 ขยายตัว 3.0%YOY จากนั้นในไตรมาส 4/67 ขยายตัวได้สูงถึง 3.2%YOY จะเห็นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง คาดแนวโน้ม GDP ไตรมาส 1/68 จะเติบโต ได้ถึง 3.4%YOY สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ซึ่งหนึ่งในโครงการขับเคลื่อน คือ การปรับขึ้นค่าจ้าง 400 บาท นำร่อง 4 จังหวัดเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 68, โครงการ EASY E-RECEIPT, แจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 และการเร่งเบิกจ่าย งบประมาณปี 68
• ส่วนไตรมาส 2/68 จะมีมาตรการจากบริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อกระตุ้นการ ปล่อยสินเชื่อรถกระบะ
• ไตรมาส 3/68 รัฐบาลจะโหมมาตรการเศรษฐกิจชุดใหญ่ เช่น มาตรการภาษีเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ภาคยานยนต์ ภาคท่องเที่ยวและบริการ
• ไตรมาส 4/68 จะมีการออกพันธบัตรในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีโครงการนำร่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นอกจากนี้ยังมีการผลักดันกฎหมายสำคัญ ได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน, ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ แต่ยอมรับ ว่าขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องการกระจายรายได้ลงไปยังกลุ่มเปราะบาง
ดังนั้น GDP GROWTH ภาพรวมปีนี้มีโอกาสเติบจากปีที่แล้ว(+2.5%YOY) โดยค่าเฉลี่ยของตัวเลขคาดการณ์ GDP ปีนี้ไทยของสำนักเศรษฐกิจต่างๆ อยู่ที่ 2.9%YOY
ขณะที่ทาง BLOOMBERG คาดการณ์ GDP 1Q68 +3.0%YOY และทยอยลดลงเรื่อยๆในแต่ละไตรมาส +2.7%, +2.1%, +2.3% ตามลำดับ ซึ่งสาเหตุหลักที่กดดัน คงหนีไม่พ้น ภาคการส่งออก (X) ที่มีโอกาสชะลอตัว ตามแรง กดดันจากนโยบาย TRADE TARIFF ของยุค TRUMP 2.0(ไทยเกินดุลกับสหรัฐฯเป็นอันดับที่ 11) ซึ่งต้องติดตามว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด
หาหุ้นลงแรง กดพีอี หันมาอีกที อ้าวกำไรยังโตดี
ฝ่ายวิจัยฯ วิเคราะห์ RETURN DECOMPOSITION หรือ จำแนกผลตอบแทนของ SET ปี 2025 ดังนี้
▪ RETURN: ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยเปิดปีมาแค่ 2 เดือนเศษลงมาแล้ว -15%YTD ถ้าปิดปี2025 เท่านี้ จะเป็นปี ที่ลงลึกสุดตลอด 15 ปีและยังเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องถึง 3 ปีติดต่อกัน
▪ EPS GROWTH: คาดกำไรของ SET ปีนี้เติบโต 20% อิง จากฐานต่ำ EPS24 ต่ำกว่าปกติมากที่74.26 บาท/หุ้น ส่วน EPS25F คาดอยู่ที่89 บาท/หุ้น เติบโต 20%
▪ MULTIPLE EXPANSION: การหดตัวของ P/E กดดันผลตอบแทน SET ถึง -35%YTD ต่ำสุดในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงนักลงทุนเทขายหุ้นด้วยอารมณ์ และขาดความเชื่อมั่นสุดๆ คือ ต่ำกว่าปี2011 ที่ เกิดน้ำท่วมใหญ่ -28%, ปี2013 ประกาศลด QE TRAPERING -24%, ปี 2018 สงครามการค้า 1 -25%
แต่ปัจจุบันกนง. ลดดอกเบี้ยแล้ว, คลังมั่นใจ GDP 1Q25 โตสุดในรอบ 10 ไตรมาส, THAIESGX ใกล้เข้ามา อาจช่วย สร้างขวัญกำลังใจให่นักลงทุนกลับมามีความกล้ามากขึ้น
ดังนั้นฝ่ายวิจัย ASPS ค้นหาหุ้นที่ราคาหุ้นถูกกดลึกด้วยอารมณ์ แต่ก็อาจรีบาวน์กลับแรงด้วยกำไรได้ตามเงื่อนไข ต่างๆ ดังนี้
▪ ราคาหุ้นลงลึก (RETURN YTD < -10%)
▪ P/E ไม่สูง (P/E 25F < 18 เท่า)
▪ กำไรมีโอกาสเติบโต (EPS GROWTH 25F > 0)
▪ ราคาลงลึกด้วยอารมณ์ (MULTIPLE EXPANSION < -30%)
ได้ผลลัพธ์ “หุ้นลงแรง กดพีอี หันมาอีกที อ้าวกำไรโต” มีโอกาสรีบาวน์แรง ดังตารางทางด้านล่าง โดยชื่นชอบ WHA, BGRIM, OSP, JMART, CK, GPSC, LH, SCC
Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์