Today’s NEWS FEED

News Feed

JSP ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ที่ 900-1,000 ลบ.หลังปี 67 บันทึกสูงเป็นประวัติการณ์ 824 ลบ. เดินหน้าสร้าง Eco System ธุรกิจสุขภาพครบวงจรปักธงขึ้นเบอร์หนึ่งใน 5 ปี

234

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (3 มีนาคม 2568)-------·    JSP คาดปี 2568 รายได้แตะ 900 – 1,000 ล้านบาท หลังปี 67 รับรู้รายได้สูงเป็นประวัติการณ์ 824 ล้านบาท สินค้า Own Brand ธุรกิจ OEM และน้ำยาฟอกไต เติบโตรับเทรนด์ดูแลสุขภาพมาแรง ทั้ง Lifestyle Medicine และสังคมผู้สูงวัย

·      เปิด 3 กลยุทธ์หนุนปี 68 เติบโตต่อเนื่อง ประกอบด้วย 1. ขยายกลุ่มลูกค้ามาสู่คนอายุน้อยลง เสริมทัพด้วยสินค้า สำหรับชาวออฟฟิศ และด้านความงาม 2. ขยายช่องทางการตลาดเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบเดิม ใช้พรีเซนเตอร์หลากหลายช่วงวัย เช่น กลุ่มนางงาม 3 . สร้าง Eco system หนุนขึ้นเบอร์ 1 ธุรกิจสุขภาพครบวงจร ภายใน 5 ปี

·      นำเทรนด์สุขภาพด้วย ตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติ Medis ล่าสุดวางครบแล้ว 200 ตู้ มาพร้อมสินค้าสุขภาพถึง 48 รายการ มั่นใจตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ อีกหนึ่งฟันเฟืองแห่งอนาคตของ JSP

นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (JSP) ผู้ให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร ผู้นำในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Own Brand และการรับจ้างผลิต (OEM) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับคนและสัตว์ ยาแผนปัจจุบัน ยาสมุนไพร และเครื่องสำอาง เปิดเผยว่า ในปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่ธุรกิจของ JSP ยังมีโอกาสเติบโตสูงต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่สามารถทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 824 ล้านบาท และในปี 2568 บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้จะขยายตัวอย่างต่อเนื่องขึ้นไปแตะระดับ 900 – 1,000 ล้านบาท โดยปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของยอดขายยังเป็นปัจจัยต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาเช่น สัดส่วนโครงสร้างประชากรที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 25% ในปี 2568 และจะเพิ่มเป็น 30% ในปี 2573 รวมถึงเทรนด์ในการหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Lifestyle Medicine หรือการปรับพฤติกรรมสู่การรักษาโรค จึงส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ของ JSP ทั้งส่วนของยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเติบโตอย่างโดดเด่น

 

สำหรับกลยุทธ์การเติบโตในปี 2568 และแผนการดำเนินงานในช่วง 5 ปีข้างหน้า JSP ประกอบด้วย
1. ขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไปสู่กลุ่มอายุน้อยลง จากเดิมที่สัดส่วนลูกค้าจะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือกลุ่มวัยใกล้เกษียร ที่ให้ความสนใจสินค้าประเภทป้องกันการเจ็บป่วย เช่น น้ำมันงาดำรำข้าว สาหร่ายสไปรูลิน่า หรือ ยารักษาโรค แต่จะเพิ่มสินค้าที่เป็นเทรนด์ของวัยทำงานมากขึ้น เช่น Altimus สินค้าที่เน้นบำรุงสายตา เจาะกลุ่มวัยทำงานที่ต้องใช้สายตาอยู่หน้าจอตลอดวัน หรือ สินค้าแบรนด์ ID Lab เจาะกลุ่มความงาม เป็นต้น

2. ขยายช่องทางการตลาดให้มากขึ้น โดยในปี 2567 กลยุทธ์การตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายของ JSP มีส่วนช่วยให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะการใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นบุคคลมีชื่อเสียงในกลุ่มผู้สูงอายุ เช่น แม่อี๊ด ดวงใจ หทัยกาญจน์ ที่สนับสนุนให้ยอดขายน้ำมันงาดำรำข้าวพุ่งสูงถึง 1 ล้านกระปุก อย่างไรก็ดีในปี 2568 JSP จะยังเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยจะขยายกลุ่มพรีเซนเตอร์ไปสู่งกลุ่มอายุน้อยลงเพื่อเจาะกลุ่มสินค้าตัวใหม่ๆ เช่น การร่วมมือกับเวทีนางงามระดับโลก ในการทำการตลาดให้กลุ่มสินค้าเพื่อความงาม เป็นต้น

3. สร้าง Eco System ในธุรกิจเพื่อสุขภาพให้ครบวงจร เพื่อสนับสนุนให้ JSP ก้าวสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมภายใน 5 ปี โดยปัจจุบันมีธุรกิจด้านสุขภาพภายใต้กลุ่ม JSP ประกอบด้วย ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า Own Brand ภายใต้แบรนด์ JSP , สุภาพโอสถ และ ID Lab ธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) โดยธุรกิจ 2 ส่วนนี้ดำเนินการภายใต้ JSP รวมถึง ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาฟอกไต ดำเนินการโดย บ.เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด ซึ่งล่าสุดมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 17% จากรายได้รวมปี 2567 ที่มี  824 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ JSP ยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า Own Brand ผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือปฐมพยาบาล ผ่านตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติ Medis ที่มีสินค้าให้บริการถึง 48 รายการ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา JSP ได้เพิ่มการวางตู้ Medis เป็น 200 ตู้ บนทำเลศักยภาพ จากเดิมที่ได้ทดลองวางไปก่อนหน้านี้ 40 ตู้เพื่อเก็บฐานข้อมูล ดังนั้นในส่วนของ Medis ซึ่งเป็นการเริ่มต้นในการลงทุนธุรกิจที่ตอบรับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นความสะดวกสบายจึงมั่นใจว่าภายใน 5 ปี Medis จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่สนับสนุนให้ JSP มี Eco system ที่ครอบคลุมธุรกิจสุขภาพ ให้ก้าวสู่การเป็นเบอร์หนึ่งของอุตสาหกรรม

 

อย่างไรก็ตามในปี 2567 JSP มีผลการดำเนินงานที่มีศักยภาพ มีรายได้รวม 824 ล้านบาท และกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 105 ล้านบาท ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัท JSP ประเมินมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์ทางการเงิน พบว่ามีมูลค่าจากการใช้ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนจากการด้อยค่าเป็นจำนวน 116 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุนสุทธิ 33 ล้านบาท

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้