ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 ขาดทุน 2,247 ล้านบาท (เทียบกับกำไร 73.6 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2566 และขาดทุน 143.4 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567) สาเหตุจาก:
-ค่าใช้จ่ายสำรองโครงการ Clean Fuel 1,013 ล้านบาท
-ลดมูลค่าคอนโดมิเนียม 169 ล้านบาท
-มาร์จินกำไรขั้นต้นติดลบ -13% (จาก 5.1% ในไตรมาส 4 ปี 2566 และ 3.6% ในไตรมาส 3 ปี 2567) จากการปรับต้นทุนโครงการอุโมงค์หนองบอนและสายสีชมพู-เหลือง มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท
-ขาดทุนจากรายได้จากการลงทุน 130 ล้านบาท (เทียบกับขาดทุน 51 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2566 และขาดทุน 142 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567)
รายได้ ลดลง 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยได้แรงขับเคลื่อนจากการเร่งรัดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโครงการใหม่ๆ
แนวโน้มปี 2568: กำไรในไตรมาส 1 ปี 2568 คาดว่าจะฟื้นตัวเป็น 240-250 ล้านบาท (จากขาดทุน 2,247 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2567)
กำไรปี 2568 คาดว่าจะเป็นบวก 385 ล้านบาท (จากขาดทุน 2,357 ล้านบาท ในปี 2567) โดยมีรายได้จากธุรกิจก่อสร้าง 32,000 ล้านบาท และมาร์จินกำไรขั้นต้นคาดว่าจะปรับตัวเป็น 5.2%-5.3%
การปรับประมาณการกำไร ปี 2568 เพิ่มขึ้น 86% และปี 2569 เพิ่มขึ้น 10% โดยปรับมาร์จินกำไรขั้นต้นปี 2568 และ 2569 เป็น 5.1% และ 5.4% ตมลำดับ
คำแนะนำ ปรับจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" โดยตั้งราคาเป้าหมายที่ 5.90 บาท อ้างอิง P/BV ที่ 0.50x ซึ่งเป็น -2SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ : ศศิกานต์ อุดมเวศย์ : sasikarnudomvej@dbs.com : Tel. 02 857 7833