Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: APO ปี67 กำไร 107.06 ล้านบาท โตสนั่น 724.29% พร้อมปันผลหุ้นละ 0.04 บาท / COCOCO ธงปีนี้รายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 6.61 พันลบ. บุกตลาดทั่วโลก

841

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(27 กุมภาพันธ์ 2568)--------APO โชว์ผลการดำเนินงานปี 2567 กวาดกำไรสุทธิ 107.06 ล้านบาท เติบโต 724.29% และมีรายได้จากการดำเนินงาน 1,795.25 ล้านบาท เติบโต 17.64% รับธุรกิจน้ำมันปาล์มฟอร์มแกร่งทำรายได้ 1,782.32 ล้านบาท โตแรง 17.42% ด้านบอร์ดเคาะเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 0.04 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 เดือน พฤษภาคม 2568 ประกาศแผนปี 2568 มุ่งมั่นขยายธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเสริมศักยภาพด้านการผลิต มุ่งบริหารจัดการซัพพลายเชนและการจัดซื้อที่มีประสิทธิภาพ วางเป้าหมายรายได้ทะยานสู่ 2,000 ล้านบาท เติบโต 12%



นายสิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ APO ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบ จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้ ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2567 (มกราคม-ธันวาคม) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 1,795.25 ล้านบาท เติบโต 17.64% เมื่อเทียบกับปีก่อน และทำกำไรสุทธิ 107.06 ล้านบาท เติบโต 724.29% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งการเติบโตอย่างโดดเด่นมาจากการขยายตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจน้ำมันปาล์มมีรายได้ 1,782.32 ล้านบาท เติบโต 17.42% ส่งผลให้ปริมาณการขายและการผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยจากความต้องการของในตลาด ทั้งในด้านเชื้อเพลิงและการบริโภคเพิ่มขึ้น

ขณะที่รายได้จากเมล็ดในปาล์มอยู่ที่ 237.13 ล้านบาท เติบโต 38.35% ส่วนธุรกิจผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพมีรายได้ 12.93 ล้านบาท เติบโต 57.62% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งผลประกอบการที่โดดเด่นของบริษัทฯ มาจากการวางกลยุทธ์บริหารธุรกิจจัดซื้อทะลายปาล์มสดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบอยู่ในระดับสูง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันปาล์มดิบที่เพิ่มขึ้นและราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กำไรขั้นต้นงวด 12 เดือนอยู่ที่ 204.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 186.87% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงผลสำเร็จจากการบริหารจัดการที่เข้มแข็ง สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรักษากำไรขั้นต้นได้ แม้ในภาวะที่ต้นทุนวัตถุดิบหรือทะลายปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้น


ความสำเร็จของผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2567 อัตราหุ้นละ 0.04 บาท เป็นจำนวนเงิน 13.60 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 นี้ ทั้งนี้ เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ที่จ่ายเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ส่งผลให้ในปี 2567 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลในอัตรารวมหุ้นละ 0.19 บาท

นายสิทธิภาส กล่าวว่า แผนธุรกิจปี 2568 มุ่งมั่นขยายธุรกิจด้วยการเพิ่มศักยภาพด้านการผลิต โดยจะขับเคลื่อนกลยุทธ์บริหารจัดการซัพพลายการจัดซื้อทะลายปาล์มสด ภายใต้โครงการ ‘ตัดสุก มีสุข (AsianPlus+)’ ที่มีการคัดเลือกทะลายปาล์มที่มีคุณภาพ ทำให้อัตราในการสกัดน้ำมันปาล์มดิบสูงขึ้นซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้ตามเป้าหมายรองรับกับดีมานด์ของตลาด ทั้งยังเป็นโครงการที่เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีส่วนร่วมในการสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของประเทศไทย


ขณะที่สถานการณ์ทะลายปาล์มสดปี 2568 คาดการณ์ว่าน้ำหนักของผลผลิตที่เก็บเกี่ยวจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อความต้องการของต้นปาล์ม แต่ราคาทะลายปาล์มสดไตรมาส 1/2568 (มกราคม-มีนาคม 2568) อยู่ในระดับราคาที่ยังสูง เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย คาดว่าจะเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้นในเดือนเมษายนนี้ จากการวางกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีรายได้ทะยานสู่ 2,000 ล้านบาท เติบโต 12%

 

 



COCOCO ปักธงรายได้ปีนี้แตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่6,619.17 ล้านบาท เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก ควบคู่กับการพัฒนากลยุทธ์บริหารต้นทุน หวังเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว พร้อมเร่งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ ผลักดันผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ได้แก่ น้ำมะพร้าว กะทิ และอาหารสัตว์เลี้ยง ให้เติบโตตามเป้าหมายอย่างแข็งแกร่ง

ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ “COCOCO” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ 2568 ราว 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,619.17 ล้านบาท โดยในปี 2568 นี้ บริษัทฯ เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก พร้อมพัฒนากลยุทธ์บริหารต้นทุน หวังเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว รวมถึงกลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่ น้ำมะพร้าว กะทิ และอาหารสัตว์เลี้ยง มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง


COCOCO ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กะทิ น้ำมะพร้าว มะพร้าวแปรรูป และผลไม้ ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco และ Cocoburi รวมถึงผลิตสินค้าเพื่อการอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยออซัม จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงสำหรับสุนัขและแมว โดยสินค้ามีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าแบรนด์ Moochie และการรับจ้างผลิตสินค้า(Original Equipment Manufacturer หรือ OEM) ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และอีกธุรกิจอย่างบริษัท ไทย พรีเมียม สตรีท ฟู้ด จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอศกรีมผลไม้จากไทย ภายใต้แบรนด์ “Thaicoco” และ “Cocoburi”


สำหรับในปี 2567 บริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออก 87.69% ของรายได้จากการขายและบริการ โดยมียอดขายในภูมิภาคอเมริกาเพิ่มขึ้น 48.55% ภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น 47.58% ภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 29.14% ภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้น 21.63% และภูมิภาคแอฟริกาเพิ่มขึ้น 17.10%


นอกจากนี้ บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลด้านวัตถุดิบ และการบริหารประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต โดยมีมติอนุมัติโครงการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อรองรับการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กะทิ ให้สอดคล้องกับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น และตอบสนองต่อยอดคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งยังเข้ามาช่วยสนับสนุนต่อการขยายยอดขายในสหรัฐฯ และยุโรป ให้สามารถแข่งขันได้โดยการขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ จะช่วยขยายการเติบโต โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้ในอนาคต ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ บริษัทฯ จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างการลดต้นทุนและการรักษาคุณภาพสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้ สะท้อนมายังผลการดำเนินงานที่คาดมีแนวโน้มเติบโตดีในอนาคต ซึ่งเมื่อโครงการในฟิลิปปินส์แล้วเสร็จ จะส่งผลให้กำลังการผลิตสูงสุดของผลิตภัณฑ์กะทิเพิ่มขึ้นเป็น 155,000 ตันต่อปี จากเดิม 99,000 ตันต่อปี


นอกเหนือจากการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้แล้วนั้น COCOCO ยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก เพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้ตราสินค้า Moochie โดยสินค้าทั้งสองประเภทมีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และการรับจ้างผลิตสินค้า (Original Equipment Manufacturer หรือ OEM) ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มุ่งเป้าไปยังตลาดสากล ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโต


ดร.วรวัฒน์ กล่าวเสริมว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET 100 สำหรับรอบครึ่งปีแรกของปี 2568 (1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2568) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานและการได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการติดอันดับในดัชนี SET 100 ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ยืนยันถึงความสำเร็จและศักยภาพของ COCOCO แต่ยังตอกย้ำบทบาทของบริษัทในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย


บริษัทฯ ได้รับรางวัลกลุ่ม Business Excellence สาขา Deal of the Year Awards และ Outstanding Deal Awards ในงาน SET Awards 2024 ด้านการระดมทุน มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 3,000 ล้านบาท จากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลที่มอบให้แก่องค์กรที่สร้างธุรกรรมทางการเงินที่โดดเด่น ท่ามกลางปัจจัยรอบด้านที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและมีความท้าทาย และการจัดการภายในและการสร้างนวัตกรรมภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง COCOCO เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ในวันที่ 14 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

 

 
///จบ///

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้