คาด SET Index ลงแรงต่อ : แรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง อีกทั้ง แรงกดดันยังมาจากนโยบายการเงินในประเทศและสถานการณ์สินค้านำเข้าจีน ขณะที่แรงพยุงเบาๆมาจากภาพการส่งออกไทยที่เริ่มต้นปี 68 ได้ดี
แนวรับ-ต้าน
1,190–1,210
กลยุทธ์การลงทุน
1) คาด กนง. คงอัตราดอกเบี้ย : BBL, KTB, SCB
2) ส่งออกสินค้า : AAI, CFRESH, CPF, HTECH, NER, STA, TEGH, TFG
3) Selective : ADVICE, BCP, PR9, TTW
4) Short sell : AEONTS, BGRIM, CBG, OR, ORI, PTTEP, PTTGC, SIRI, SCC, WHA
รักษากระสุนไว้ รอเห็นเป้าชัดค่อยยิง
ความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ : คาด SET Index จะเผชิญปัจจัยกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลัง Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนก.พ.68 ปรับตัวลงสู่ 98.3 ต่ำกว่าตลาดคาดและเดือนม.ค.68 ที่ 102.7 และ 105.3 ตามลำดับ อีกทั้ง เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.67 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความกังวลมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากนโยบายต่างๆของปธน.ทรัมป์ อีกทั้งปัจจัยข้างต้นยังเป็นหนึ่งในแรงกดดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 2.5% ปิดที่ 68.93 ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค.67 ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
รักษากระสุนไว้ใช้ยามจำเป็น : คาด SET Index จะเผชิญกับแรงกดดันจากนโยบายการเงินในประเทศ ท่ามกลางต้นทุนของภาคธุรกิจและการบริโภคที่ยังมีแนวโน้มคงอยู่ในระดับสูง โดยทางฝ่ายคาดการประชุม กนง. วันนี้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% สอดรับกับเศรษฐกิจไทยที่ทยอยฟื้นตัว และเงินเฟ้อที่กลับเข้าสู่กรอบเป้า 1-3% มาตั้งแต่เดือนธ.ค.67 นอกจากนี้ คาด กนง. จะมองข้าม GDP4Q67ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด โดยยึดหลัก Outlookdependent กอปรกับด้วยนโยบายการค้าของสหรัฐฯยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้ทางฝ่ายมองว่า กนง. จะยังรักษา Policy space ต่อไปจนกว่าปัจจัยเสี่ยงด้านต่ำจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
มีสัญญาณสินค้าจีนถล่ม แต่ส่งออกไทยยังดี : นอกจากจะเผชิญกับต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มคงอยู่ในระดับสูงแล้ว ผู้ประกอบการในประเทศ โดยเฉพาะผู้ผลิต ยังมีแนวโน้มเผชิญกับแรงกดดันจากสินค้าจีนที่มีสัญญาณไหลเข้าไทยต่อเนื่อง หลัง TPSO เผยตัวเลขการค้าไทยเดือนม.ค.68 พบว่าการนำเข้าสินค้าจีนขยายตัว 20.3%y-y สูงกว่าการนำเข้าทั้งหมดที่ขยายตัว 7.9%y-y และส่งผลให้สัดส่วนการนำเข้าสินค้าจีนอยู่ที่ 30.3% ของการนำเข้ารวม สูงขึ้นเมื่อเทียบกับ 27.2% ในเดือนม.ค.67 และเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (เทียบกับข้อมูลของ ธปท. ซึ่งย้อนไปไกลสุดคือปี 2538) ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็น Sentiment เชิงลบต่อ SET Index อย่างไรก็ดี ยังมีแรงพยุงจากการส่งออกที่ขยายตัวถึง 13.6%y-y เนื่องจากจะเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อน GDP1Q68 อีกทั้งมองเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นที่อยู่ในกลุ่มสินค้าส่งออกที่ขยายตัวได้ดี อาทิ ยางพารา ไก่ อาหารสัตว์เลี้ยง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปเครื่องคอมฯ
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)โฆษกสำนักนายกฯเผยนายกฯมี ข้อสั่งการให้แต่ละกระทรวงไปจัดทำนโยบายเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยใน 1Q68 ให้เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 3.2% เช่นเดียวกับ 4Q67
(+) PBOC อัดฉีดเงิน 3 แสนล้านหยวน (ประมาณ 4.183 หมื่นล้านดอลลาร์ ) เข้าสู่ระบบการเงินเมื่อวานนี้ โดยดำเนินการผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารของประเทศ
(-) กระทรวงพาณิชย์ เผยการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนม.ค.68 มีจำนวน 8,862 ราย ลดลง 3.27% y-y ขณะที่การจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการมีจำนวน 1,431 ราย เพิ่มขึ้น 20.05% y-y
(-) ที่ ประชุมคณะกรรมการคดี พิเศษมีมติเลื่อนโหวตรับหรือไม่รับคดีฮั้วเลือกตั้งสว.เป็นคดีพิเศษออกไปเป็นวันที่ 6 มี.ค.68 ส่งผลให้ทางฝ่ายมองเป็น Sentiment เชิงลบ ท่ามกลางความกังวลเสถียรภาพของการเมืองไทย
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์