วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยปรับตัวลงต่่าสุดราว 18 จุดได้รับ Sentiment เชิงลบจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัว ประกอบกับนักลงทุนยังคงกังวลสงครามการค้า มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่ม Big-Cap น่าโดย TRUE AOT GULF และ WHA อย่างไรก็ตามช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้น DELTA ท่าให้ดัชนีลดช่วงลบ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,235.85 จุด-10.36 จุด -0.83% มูลค่าการซื้อขาย 42,207 ลบ. Program Trading -2,498.4 ลบ. ต่างชาติ -1,381.2 ลบ.TFEX -8,561 สัญญา ตราสารหนี้ +1,462.3 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 33.19 จุด หรือ +0.08% แต่ดัชนี Nasdaqปิดร่วงลงกว่า 1% ตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความต้องการเทคโนโลยีที่รองรับปัญญาประดิษฐ์(AI) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลประกอบการของอินวิเดีย (Nvidia)ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ
+ สัญญาน้่ามันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ +0.43% ปิดที่70.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐฯ ประกาศคว่่าบาตรอุตสาหกรรมน้่ามันอิหร่านรอบใหม่ และแรงหนุนจาการที่อิรักให้ค่ามั่นว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มโอเปกพลัสในการปรับลดก่าลังการผลิตเพื่อชดเชยการผลิตน้่ามันเกินโควตาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
+ กระทรวงน้่ามันของอิรักแถลงการณ์ว่าอิรักยืนยันในการปฏิบัติตามข้อตกลงของกลุ่มโอเปกพลัสในการปรับลดก่าลังการผลิตเพิ่มเติมโดยสมัครใจเพื่อชดเชยการผลิตน้่ามันเกินโควตาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้น่าสหรัฐฯ กล่าวว่าสงครามในยูเครนอาจยุติลง "ภายในไม่กี่สัปดาห์" และเปิดเผยแผนพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้น่ายูเครนเพื่อลงนามข้อตกลงส่าคัญในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า
ปัจจัยลบ
- เกาหลีใต้ก่าลังเผชิญกับความไม่แน่นอนทางการเมืองเนื่องจากกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอกยอลที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกในระยะสั้น ๆ เมื่อเดือนธ.ค. 2567
- FED ดัลลัส เปิดเผยผลส่ารวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคการผลิตของรัฐเท็กซัสปรับตัวลงสู่ระดับ -8.3 ในเดือนก.พ. จากระดับ +14.1ในเดือนม.ค.
- FED ชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index(CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -0.03 ในเดือนม.ค. จากระดับ +0.18
ในเดือนธ.ค.
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ปัจจุบันอยู่ในช่วงวิกฤติที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก เนื่องจากยังไม่ฟื้นตัวมาตั้งแต่ปี 66-67 จนถึงปี 68ยังน่าเป็นห่วงเป็นผลจากสถาบันการเงินยังเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างมาก ขณะที่ราคายานยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังไม่นิ่งจากการแข่งขันด้านราคาท่าให้ผู้บริโภคยังไม่กล้าตัดสินใจซื้อ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า จากมาตรการภาษีของสหรัฐ ขณะที่ในประเทศยังมีแรงขายในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวออกมาอย่างต่อเนื่อง มองกรอบดัชนี 1,230-1,240จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC,PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)
• หุ้นที่อยู่อาศัยที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนปรนมาตรการ LTV : AP LH SIRI SC SPALI QH
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสซีรีส์ "The White Lotus" : WPH RP MINT CENTEL BA BAREIT