Market Wrap-Up
- SET วันที่ 24 ก.พ.68 ปิด -10.36 จุด อยู่ที่ 1,235.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,206 ลบ. สถาบันขาย 1,643 ลบ. ต่างชาติขาย 1,381 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 201 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2,823 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 724 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น GULF,SCB,PTTGC,BBL,TOP และยอดขายหุ้น WHA,TRUE,AOT,CPALL,BTS มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,869 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ JAPAN10001,CBG,XO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 8,561 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 7,135 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,462 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.08%, S&P500 -0.50%, Nasdaq -1.21% หลังกลุ่มเทคโนโลยี -1.43%, สินค้าฟุ่มเฟือย -0.87% โดย Nvidia -3.1% รอรายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมา และแนวโน้มอุปสงค์ความต้องการชิป AI ราคาสูงในตลาด ขณะที่กลุ่มบริการสุขภาพ +0.75%, การเงิน +0.45% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.08% โดยกลุ่มเหมืองแร่, การเงิน และอุตสาหกรรมปรับลดลง รอประเมิน ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่ของเยอรมัน
Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500, Nasdaq ปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มเทคโนโลยี, สินค้าฟุ่มเฟือย โดยนักลงทุนรอรายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมาของ Nvidia รวมถึงมุมมองยอดขายชิป AI ราคาสูง ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเปิดตัวของ DeepSeek AI ต้นทุนต่ำของจีน ส่วน Microsoft -1% เผยแผนลงทุนด้าน AI และ Cloud กว่า $8 หมื่น ล. ที่อาจต้องปรับเปลี่ยน บ่งชี้อุปสงค์ด้านโครงสร้าง AI อาจมากเกินไป ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจนั้น เฟดชิคาโกเผยดัชนีวัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐ (CFNAI) เป็นดัชนีบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจถอถอย ม.ค. -0.03 & ธ.ค. +0.18 สัปดาห์นี้วันพุธติดตาม US GDP Q4/67 และวันศุกร์ US PCE ม.ค. 2.5% & ธ.ค. 2.6% YoY
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มเหมืองแร่, การเงิน และอุตฯ หลังผลการเลือกตั้งเยอรมันพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) และพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมจะชนะการเลือกตั้งสภาผู้แทน ฯ ด้วยคะแนนเสียง 28.5% เหนือพรรคทางเลือกเพื่อเยอรมัน (AFD) คาดจะได้เสียง8% ซึ่งคาดรัฐบาลใหม่จะใช้นโยบายการด้านการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ต้องขอปรับเปลี่ยนข้อจำกัดในการขาดดุลงบประมาณที่ 0.35% ของ GDP ส่งผลให้ German Bond Yield 10 ปี +0.18% อยู่ที่ 2.48% ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม GDP เยอรมัน Q4/67 คาด -0.20% QoQ และ YoY
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.18% จากแรงขายหุ้นกลุ่ม AI หลังสัปดาห์ก่อนปรับขึ้นรับกระแสการใช้งาน AI จากการเปิดตัวของ DeepSeek ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง -0.58% จากความกังวลข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีสัญญาณชะลอตัว กอปรแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐอาจปรับสูงขึ้น กดดันให้เฟดยังไม่รีบลดดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ปิดในวัน Emperor’s Birthday โดยเข้านี้นิเกอิ -1.4% จากแรงชายกลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลงตาม Nasdaq
- ดัชนี SET วานนี้ -0.83% ปริมาณการซื้อขาย 4.2 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 1,643 ลบ. ต่างชาติขาย 1,381 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 201 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2,823 ลบ. จากแรงขายกลุ่มอสังหา ฯ นำโดย WHA -19.5% หลังรายงานกำไร Q4/67 ต่ำกว่าคาด และแผนการ Spin-off บริษัทลูก WHAID เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ ในสัดส่วนไม่เกิน 22.73 % ของทุนจดทะบียน โดย WHA ยังเป็นผู้ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 75.95% ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรที่ WHA จะได้รับ WHAID ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลงหลังการทำ IPO ในช่วงแรก โดยผู้บริหารประเมินระยะยาวอัตราส่วน Net IBD/E ของ WHA จะลดลงน้อกว่า 0.7 X เทียบกับปัจจุบันที่ 1.2 X ขณะที่กลุ่มขนส่ง, ไอซีที, ท่องเที่ยว, ค้าปลีก และพลังงานก็ปรับลดลงตาม Sentiment ของดัชนีภูมิภาค จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่มีสัญญาณชะลอตัว รวมถึงความไม่แน่นอนจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐใน เม.ย. ประเด็นที่ต้องติดตามวันพรุ่งนี้ ผลการประชุม กนง.ว่าตัดสินใจลดดอกเบี้ยลงหรือไม่ หลัง GDP ไทย Q4/67 ขยายตัวต่ำกว่าคาด โดย IMF เสนอให้ลดดอกเบี้ยลง เนื่องจากเงินเฟ้อไทยอยู่ในระดับต่ำ
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,220 – 1,230 แนวต้าน 1,250 คาดดัชนีถูกกดดันจากกำไร บจ.261 แห่งที่ส่งงบแล้ว มีกำไรตำกว่า Consensus -9.1% และรอผลการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ โดยกรณีปรับลดดอกเบี้ย แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มไฟแนนท์ TISCO,KKP,MTC,TIDLOR,SAWAD / อสังหา SIRI, AP,SPALI / และกลุ่มที่มีหนี้สูง เช่น GULF,GPSC,BGRIM,IVL,PTTGC
- BTG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.50 บาท) แนวโน้มกำไร 4Q67 คาดเติบโตขึ้น QoQ, YoY มีปัจจัยหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น แม้ราคาขายเฉลี่ยจะลดลงตามราคาไก่ แต่ต้นทุนวัตถุดิบการเลี้ยงก็ปรับตัวลดลง รวมถึงกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นการขายในช่องทางที่มีอัตรากำไรสูง เช่น ร้านอาหาร แนวโน้ม 1Q68 น่าจะดีต่อเนื่องได้อานิสงส์จากราคาสุกรในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากการระบาดของโรคสุกรเป็นตัวจำกัดอุปทานในตลาด ขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังต่ำจากราคากากถั่วเหลือง นอกจากนี้การซื้อ Eggriculture ที่เป็นธุรกิจไข่ในสิงคโปร์จะเสร็จใน 1Q68 หนุนรายได้ในระยะถัดไป ทั้งนี้อิงจาก Consensus ตลาดคาดปี 68 มีกำไรสุทธิ 6 พันล้านบาท +15%YoY และปี 69 ที่ 3.2 พันล้านบาท +22%YoY
- TEGH* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.45 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานปกติ 4Q67 ยังดูดีต่อเนื่อง YoY จากราคายางและน้ำมันปาล์มที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้คาดว่าสัดส่วนปริมาณขายยาง EUDR (ซึ่งราคาขายจะสูงกว่ายางปกติ/ 3Q67 สัดส่วนยางแท่ง EUDR อยู่ที่ราว 32%) จะสูงขึ้นด้วยแม้ EU เลื่อนการบังคับใช้ออกไปปี69 แต่ลูกค้ายังสั่งซื้ออยู่ ด้าน TEGH เองวางแผนขยาย Capacity ปี68 ในธุรกิจ Crude Palm Oil +51%, ธุรกิจ Organic Waste Management +18%, ธุรกิจ Biogas +48%, และ ธุรกิจ Electricity +44% ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TEGH* จะอยู่ที่ระดับ 544 ลบ.(+153%YoY) และ 611 ลบ.(+12%YoY) ตามลำดับ
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI เม.ย. +$0.30 อยู่ที่ $70.70 / บาร์เรล, Brent เม.ย. +$0.35 อยู่ที่ $74.78/บาร์เรล หลังสหรัฐเตรียมประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของอิหร่านรอบใหม่ ขณะที่อิรักได้ปรับลดกำลังการผลิตอยู่ที่ 3.999 ล.บาร์เรล/วัน ตามโควตาการผลิตที่ตกลงไว้กับกลุ่มโอเปกพลัส
Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$10.00 อยู่ที่ $2,963.20 /ออนซ์ ได้แรงหนุนหลัง SPDR Gold Trust Fund ได้ถือทองคำเพิ่มอยู่ที่ 904.38 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ส.ค. 66
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -265.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -41.22 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -213.08 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -10.92 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 33.53 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.376 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +21 จุด อยู่ที่ 1,002
(-) BitCoinเช้านี้ -4.22% อยู่ที่ 91,932 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
24 ก.พ. ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน
ยานยนต์
26 ก.พ. สศช. รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 4/67 และภาพรวม ปี 2567
ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2568
28 ก.พ. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ
สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
24 ก.พ. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ม.ค.)
25 ก.พ. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ก.พ.)
26 ก.พ. US ยอดขายบ้านใหม่ (ม.ค.)
27 ก.พ. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
28 ก.พ. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (ม.ค.)
01 มี.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ก.พ.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*
(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*
(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR
(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,AMATA
(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*
(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio January 2025: CPALL, SYNEX*, CRC, SHR*, TEGH*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th