Company Note
ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป
ราคาหมูที่ยืนราคาสูง และต้นทุนที่ลดลง ส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการปีนี้จะดีกว่าคาด
กำไรสุทธิ 4Q24 ปริมาณและราคาสุกรที่ปรับเพิ่มขึ้น และอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้น ปัจจุบันแนวโน้มราคาไก่เริ่มปรับตัวดีขึ้นปัจจุบันอยู่ที่ 39.5 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 2% เทียบกับ 4Q24, ราคาสุกรอยู่ที่ 79.5 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 8% เทียบกับ 4Q24 จาก supply ที่ลดลงในประเทศเวียดนามและจีนจากโรค ASF ระบาด และปริมาณหมูเถื่อนไทยจบลงแล้ว และต้นทุนอาหารสัตว์ปัจจุบันข้าวโพดอาหารสัตว์และกากถั่วเหลืองทรงตัวระดับต่ำเทียบกับสิ้นปี 2024 โดยหากยังยืนราคาและต้นทุนตามนี้จะทำให้มีแนวโน้มกำไรทั้งปี 2025F มีโอกาสดีกว่าที่เราคาดไว้ คงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.30 บาท บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 0.225 บาท (XD 7 มี.ค.25)
กำไรสุทธิ 4Q24F เพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ
TFG ประกาศกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 848 ล้านบาท เทียบกับ 4Q23 ที่ขาดทุน 862 ล้านบาท และเทียบกับ 3Q24 กำไรลดลง 18%QoQ โดยหากไม่รวมรายการสินทรัพย์ชีวิภาคและการบันทึกบัญชีมาตรฐาน TFRS9 กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น YoY และ +4%QoQ โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากทุกธุรกิจ โดย 1) ธุรกิจไก่ส่งออกและขายในประเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้นขายประมาณ 5%QoQ อยู่ที่ 60,000 ตัน แต่ราคาปรับตัวลดลงประมาณ 5%QoQ 2) ธุรกิจสุกร ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นราว 10%QoQ และราคาขายทรงตัว QoQ จาก demand ที่เพิ่มขึ้น 3) ธุรกิจอาหารสัตว์ลดลงเล็กน้อย QoQ 4) รายได้จากธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้น จากการเปิดสาขา TFG ที่เพิ่มขึ้น 4Q24 อยู่ที่ 401 สาขา จาก 368 สาขา อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากธุรกิจสุกรที่ราคาเพิ่มขึ้น และต้นทุนอาหารสัตว์เลี้ยงที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารทรงตัว
กำไรปี 2024 อยู่ที่ 3,144 ล้านบาท พลิกจากปี 2023 ขาดทุน 812 ล้านบาท จากรายได้ทุกกลุ่มธุรกิจดีขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจสุกรและอัตรามาร์จิ้นดีขึ้น ในขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์เลี้ยงลดลง โดยรายได้ธุรกิจสุกรปี 2024 เพิ่มขึ้น 19% คาดราคาขายเฉลี่ยที่ 70 บาท/กก. และปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ธุรกิจสุกรในเวียดนามบริษัทมีการขยายกำลังการผลิตในช่วงปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเท่าตัว (สัดส่วนรายได้ 21% เทียบกับปีที่ผ่านมา 20% ของรายได้รวม) 2) ธุรกิจไก่ ภาพรวมอุตสาหกรรมกรรมไก่ demand และ supply ในประเทศทรงตัว 3) ร้านค้าปลีกปีนี้สาขาเพิ่มขึ้น 51 สาขา (สิ้นปี 2023 มีสาขา 350 สาขา) อัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มต้นทุนอาหารสัตว์เริ่มลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดอาหารสัตว์ ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารทรงตัว
แนวโน้มผลประกอบการ 2025F มีโอกาสดีกว่าที่เราคาดไว้จากราคาสุกรที่ดีขึ้นและต้นทุนที่ยังลดลงของกากถั่วเหลือง
แนวโน้ม 1Q25F เราคาดอ่อนตัวตามปัจจัยฤดูกาล อย่างไรก็ตาม ราคาไก่ที่ดีขึ้น QoQ และราคาสุกรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก supply ทั่วโลกที่ขาดลดลงจากโรค ASF ยังคงระบาด ในขณะที่ต้นทุนอาหารสัตว์ยังปรับลดลงของราคากากถั่วเหลือง และข้าวโพดอาหารสัตว์ยังทรงตัว ส่งผลให้ผลประกอบการปี 2025F เราคาดจะมีโอกาสดีกว่าที่เราคาดไว้ เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 4.30 บาท อ้างอิง historical PER-0.5STD เฉลี่ย10X โดยราคาปัจจุบันมีระดับ PER25F ที่ 8.4X, Dividend Yield 24F อยู่ที่ 6% ความเสี่ยง : โรคระบาด, ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น