Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

223

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ออกข้างตามกรอบ 1235-1255
กลยุทธ์ Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว


Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1235-1255 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับลงแรงกือบ 2% แต่ผลต่อตลาดหุ้นบ้านเราจำกัด เพราะหากประเมินจากเหตุผลที่ปรับลง (เศรษฐกิจสหรัฐฯอ่อนแอ เงินเฟ้อสูงและกังวลต่อ COVID-19) แต่ทิศทางค่าเงินบาทเช้านี้ที่ยังแข็งค่าจึงยังไม่มีสัญญาณ Fund Flow ต่างชาติไหลเร่งไหลออก ด้านแรงขายสถาบันประเมินจากการไถ่ถอน LTF ที่ลดลงต่อเนื่องหลังวันศุกร์ที่ผ่านมาเหลือเพียง 269 ล้านบาทต่ำสุดของปี ส่วนไฮไลท์สำคัญของสัปดาห์นี้อยู่ที่การประชุม กนง. ซึ่งคาดว่าจะเห็นการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย สำหรับหุ้นแนะนำประจำสัปดาห์เลือก TIDLOR ส่วนหุ้นเด่นวันนี้ PR9

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงในช่วง -1.7% ถึง -2% จากการรายงาน Flash PMI ภาคบริการเดือน ก.พ. ออกมา 49.7 ต่ำคาด 53 และถือระดับที่บ่งชี้ภาคบริการสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะชะลอตัวครั้งแรกในรอบ 2 ปี ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อ สหรัฐฯ 5-10 ปี โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกนคาดอยู่ที่ 3.5% มากกว่าคาดและเดือนก่อนที่ 3.3% ทำให้ตลาดกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เริ่มอ่อนแอลง แต่เงินเฟ้อ/FED ลดดอกเบี้ยฯช้า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบจากข่าวห้องทดลองในจีนพบ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจแพร่สู่คนได้ ซึ่งหนุนต่อหุ้นในกลุ่มวัคซีน เช่น Moderna ปรับขึ้นไปกว่า 5% ทั้งนี้หากประเมินจาก Dollar Index ที่ทรงตัว ค่าเงินบาทที่แข็งค่าที่ 33.5 บาท/usd จึงยังไม่ได้มีสัญญาณ Fund Flow เร่งไหลออก ส่วนประเด็น COVID-19 ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขของไทยเผยว่าเป็นการพบในห้องทดลองเท่านั้นยังไม่พบการแพร่มาสู่คน เราคาดไม่น่าสร้างผลกระทบต่อตลาด สภาพแวดล้อมข้างต้นจึงประเมินการปรับลงแรงของตลาดหุ้นสหรัฐฯกระทบต่อตลาดหุ้นบ้านเราวันนี้จำกัด

สำหรับปัจจัยในประเทศระยะสั้นกระแสอยู่ที่ การประชุม กนง. วันที่ 26 ก.พ. ซึ่งอิงผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยBloomberg ทั้งหมด 19 ราย ส่วนใหญ่คาดคงดอกเบี้ยฯ 14 ราย (คาดลดดอกเบี้ยฯ 5 ราย) สอดรับกับมุมมองของเราคาดว่าจะคงดอกเบี้ยฯ แต่จะส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและการปรับลดดอกเบี้ยฯในปีนี้จะเกิดใน 1H68 สำหรับมุมต่อตลาดหุ้น เราเชื่อว่าจะเห็นแรงเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยฯขาลง เช่น กลุ่มไฟแนนซ์ (ชอบ TIDLOR MTC SAK) กลุ่มอสังหาฯ (ชอบ SIRI AP SPALI) กลุ่ม High Dividend Yield (HMPRO BCP ICHI 3BBIF)


Market Summary
SET Index แกว่งทรงตัว โดยหุ้นบวกลบผสมผสาน กลุ่มที่นำตลาด คือ GULF INTUCH ADVANC ที่มีแรงซื้้อกลับหนุนราคาหุ้นปรับขึ้นในช่วง +1 ถึง +3.4% ตามด้วยไฟแนนซ์จากความคาดหวังต่อการปรับลดดอกเบี้ยฯมากขึ้นหนุน TIDLOR +1% MTC +1% SAK +1.8% และกลุ่มค้าปลีก DOHOME +5.7% จากสัญญาณ SSSG ฟื้นตัว ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ กลุ่มธนาคารเริ่มโดนขายทำกำไรหลังขึ้นมาแรง BBL -3.7% จากประกาศปันผลน้อยกว่าตลาดคาด KBANK -3% กลุ่มอื่นๆ กลุ่มปิโตรฯ PTTGC -4% IVL -5% และกลุ่มอิเล็คจาก DELTA -3%


DAILY Stock Pick
PR9
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 32.00 บาท
คาดการณ์กำไร FY68E ที่ 830 ล้านบาท (+16% YoY) ขับเคลื่อนโดยรายได้ต่างชาติที่เติบโต 21% YoY และรายได้ไทยที่เติบโต 7% กำไร 1Q25E คาดว่าจะยังคงแข็งแกร่ง YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากฤดูกาล เนื่องจากเดือนรอมฎอนอยู่ในเดือนมีนาคม 68
PR9 ยังคงเป็นหุ้น Top Pick ของเราด้วยแนวโน้มที่สดใสที่สุด มูลค่าการประเมินยังน่าสนใจ อยู่ในระดับ 21x FY25E P/E คล้ายกับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรม แต่มีศักยภาพการเติบโตที่สูงกว่า ขณะที่ระยะถัดไปมีโอกาสได้ประโยชน์จากการเพิ่มน้ำหนักหากมีการโอนย้ายจาก LTF เป็นกองทุน TESG


WEEKLY Stock Pick
TIDLOR
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 22.00 บาท
มุมมองในเชิงพื้นฐานปี 68 คาดสินเชื่อจะกลับมาเติบโตที่ 12% หลังจากบริษัทปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานเพื่อป้องกันการทุจริตจากผู้กู้ นอกจากนี้ Credit cost ที่ลดลงและรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตจะช่วยหนุนการเติบโตของกำไรปี 68 ที่เราคาด +11%YoY ด้านคุณภาพสินเชื่อรถบรรทุกจะค่อยๆ ดีขึ้นจากการกลับมาของการใช้จ่ายภาครัฐ
ระยะสั้นมี 2 ปัจจัยบวกหนุน 1) การประชุม กนง. วันที่ 26 ก.พ. ที่คาดว่าจะส่งสัญญาณนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นของ กนง. หลัง GDP 4Q67 ของไทยออกมาต่ำกว่าคาด และ 2) แรงเก็งกำไรประเด็น Index Play เนื่องจากปัจจุบันเราคาดมีโอกาสสูงสุดที่ TIDLOR จะกลับเข้าสู่ SET50 ในเดือน เม.ย.68 ภายหลังจาก GULF และ INTUCH เตรียมรวมเป็น Newco

 

KEY FACTOR
ดัชนี S&P Global PMI เดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ 1) ภาคการผลิต ปรับตัวขึ้นสู่ระดับทำจุดสูงสุดในรอบ 8 เดือน สู่ระดับ 51.6 (Consensus คาด 51.4) 2) ภาคบริการ พลิกปรับตัวลงสู่ระดับ 49.7 (Consensus คาด 53) ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 25 เดือน และต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

ราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI ปรับตัวลงแรง -2.68% และ -2.99% จากแรงกดดัน 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด 2) การรายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น +4.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าคาด +3.2 ล้านบาร์เรล

กระแสเงินลงทุนต่างชาติ พลิกกลับมาขายสุทธิในเอเชีย (มีเพียงไต้หวันที่ซื้อสุทธิ) รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่ขาย -689 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ -20.6 ล้านเหรียญฯ ยังสะท้อนภาพความกังวลของนโยบายการค้าและการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯ


EYES ON
ในสัปดาห์] การรายงานงบฯ 4Q67 โค้งสุดท้าย
25 ก.พ. ตัวเลขส่งออกไทย ม.ค.
26 ก.พ. ประชุม กนง., PCE ของสหรัฐฯ
27 ก.พ. ประชุม GDP 4Q67 สหรัฐฯ (รายงานครั้งที่ 2), ดัชนีความเชื่อมั่น Eurozone

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้