Company Note
ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง
ผลประกอบการ 4Q24 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ยอดส่งออกโดยเฉพาะเวียดนามเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น โดยยอดขายในประเทศยังเติบโต การส่งออกลดลง YoY แต่เริ่มดีขึ้น QoQ จากประเทศเวียดนามเป็นหลัก จากการปรับตัวแทนจำหน่ายจบลงแล้ว และมีตัวแทนจำหน่ายที่ฟิลิปปินส์ที่มียอดขายเข้ามาเพิ่มขึ้น อัตราทำกำไรที่เพิ่มขึ้นจากสินค้ากลุ่ม SNACK ที่มีอัตรามาร์จิ้นดีกว่ากลุ่มเครื่องดื่มมียอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น ยังคงประมาณการเดิมคาดกำไรยังเติบโตได้เฉลี่ย 11% (CAGR2y) ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14.3 บาท บริษัทเชื่อมั่นผลประกอบการเติบโตได้มีโครงการซื้อหุ้นคืนจำนวน 40 ล้านหุ้น หรือ 4% ของทุนจดทะเบียน จบโครงการ 20 มิ.ย.25 ปัจจุบันซื้อคืนแล้ว 32.7 ล้านหุ้น ต้นทุนเฉลี่ย 12.55 บาท และประกาศจ่ายเงินปันผล 0.35 บาท (XD 7/5/25)
กำไรสุทธิ 4Q24 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยทั้ง YoY และ QoQ
SNNP มีกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 168 ล้านบาท (+2%YoY, +3%QoQ) และกำไรสุทธิปี 2024 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3%YoY อยู่ที่ 651 ล้านบาท รายได้รวม 4Q24 ลดลง -2%YoY และ +16% QoQ จากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก โดยยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นจากช่วง high season ของกลุ่มสินค้า snack และการออกสินค้าใหม่ๆเพิ่มขึ้น ด้านยอดส่งออกลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ โดยกลุ่ม CLMV ยอดขายจากประเทศเวียดนามเป็นหลักจากการแก้ปัญหาการกระจายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายในระยะสั้นและเริ่มส่งผลดีขึ้น QoQ อัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้น YoY ตามรายได้กลุ่ม snack ที่มีอัตราทำกำไรขั้นต้นดีกว่ากลุ่มเครื่องดื่มมียอดขายเพิ่มขึ้น และการออกสินค้าใหม่ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดออกสินค้าใหม่
คงประมาณการเดิม คาดกำไรเติบโตปีละ 11% (CAGR2Y)
เราคาดแนวโน้มผลประกอบการ 1Q25F จะอ่อนตัวลงจากช่วง low season การส่งออกในกลุ่ม snack ซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นที่มากกว่ากลุ่มเครื่องดื่ม และการส่งออกที่เวียดนามคาดจะดีขึ้นหลังจากการแก้ปัญหาในการกระจายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว รวมถึงฟิลิปปินส์มีตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ 2 ราย ที่เริ่มส่งสินค้าใน 4Q24
เรายังคงประมาณการปี 2025-26F กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 11% (CAGR2Y) จากยอดขายในประเทศยังคงเดิมคาดเติบโตปีละ 6% และคาดยอดส่งออกเพิ่มขึ้นปีละ 8%YoY จากประเทศเวียดนามที่เริ่มกลับมาดีขึ้น โดยกลุ่ม CLMV จากประเทศเวียดนามกลับมาปกติ และฟิลิปปินส์ที่มีตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น 2 ราย ทำการตลาดเข้ากลุ่ม modern trade เพิ่มขึ้น สำหรับบริษัทร่วมทุนสิริโปรคาดจะเริ่มจุดคุ้มทุน คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการดำเนินไลน์ผลิตในเวียดนามที่มีต้นทุนต่ำกว่าช่วยเพิ่มอัตราทำกำไร และคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 16.2% และ 16% ใกล้เคียงกับปี 2024F ที่คาด 16.2% จากการทำการตลาดสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว ราคาเป้าหมายที่ 14.3 บาท อ้างอิง PER25F ของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเฉลี่ย 18X โดย PER25F อยู่ที่ 15.8X, Div.Yield 25F ที่ 4.6% ปัจจัยเสี่ยง 1) สภาวะเศรษฐกิจ 2) ยอดขายไม่เป็นไปตามคาด