MTC : กำไรเพิ่มขึ้น 19.6% ในปี 2024 สนับสนุนโดยการปล่อยสินเชื่อที่รอบคอบและคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยผลประกอบการใน 4Q24 (ตุลาคมถึงธันวาคม 2024) ตอนเย็นเมื่อวานนี้ โดยมีกำหนดการประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ กำไรรายไตรมาสทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง (สูงกว่าประมาณการของเรา 3%) โดยกำไรทั้งปี 2024 เพิ่มขึ้น 19.6% YoY อยู่ที่ 5.87 พันล้านบาท (หลังจากกำไรทรงตัวสามปี) คุณภาพสินทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง และ MTC ยังคงสร้างเงินสำรองเพิ่มเติม ต่อไปนี้คือ จุดเด่นของผลประกอบการและมุมมองเบื้องต้นของเรา :

• การเติบโตของสินเชื่อ : สินเชื่อขยายตัว 3.1% QoQ และ 14.6% YOY อยู่ที่ 1.64 แสนล้านบาทใน 4Q บริษัทเปิดสาขาใหม่ 635 สาขาในระหว่างปี เพิ่มจำนวนสาขาทั่วประเทศเป็น 8,172 สาขา ณ สิ้นปี 2024 การเติบโตของสินเชื่อเป็นไปตามที่เราคาดการณ์ที่ประมาณระดับกลางเลขสองหลัก

• อัตราผลตอบแทนและ NIM : ตามที่คาดการณ์ NIM ลดลงเหลือ 13.96% ใน 4Q24 จาก 14.25% ใน 3Q24 ตามผลตอบแทนที่ลดลง (ส่วนผสมพอร์ตโฟลิโอของ MTC มุ่งไปที่สินเชื่อที่มีหลักประกันมากกว่าสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน) และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น (สภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น)

• ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน : มีการควบคุมเป็นอย่างดี โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% QoQ อยู่ที่ 2.7 พันล้านบาท แม้ว่า 4Q มักจะเห็นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายตามฤดูกาล

• คุณภาพสินทรัพย์ : ปริมาณ NPL ทรงตัว QoQ อยู่ที่ประมาณ 4.5 พันล้านบาทเป็นไตรมาสที่สี่ติดต่อกัน ในขณะที่อัตรา NPL ลดลงเหลือ 2.75% ใน 4Q24 จาก 2.82% ใน 3Q24 ด้วยการเกิด NPL ที่ลดลง credit cost ลดลงเหลือ 2.81% ใน 4Q24 จาก 3.11% ใน 3Q24 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนการตั้งสำรองต่อ NPL เพิ่มขึ้นเป็น 135.3% ใน 4Q24 จาก 129.5% ใน 3Q24 เนื่องจากบริษัทยังคงสร้างเงินสำรองอย่างต่อเนื่อง

• กำไร : กำไรทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่ที่ 1.54 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2% YoY และ 3.5% QoQ สำหรับทั้งปี กำไรเติบโต 19.6% YOY อยู่ที่ 5.87 พันล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อ 14.6% และการตั้งสำรองที่ลดลงเนื่องจากอัตรา NPL ลดลงเหลือ 2.75% ในปี 2024 จาก 3.11% ในปี 2023

มุมมองของเรา :
• กลยุทธ์ของบริษัทในการมุ่งเน้นการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอที่มีคุณภาพ (การคัดกรองที่เข้มงวดขึ้น LTV ที่ต่ำลง ลดสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน) และการเก็บหนี้ (ผ่านพนักงานที่สาขาทั่วประเทศ) นำไปสู่การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของกำไรในปี 2024 แม้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะไม่แข็งแกร่งอย่างที่คาดหวัง ในทำนองเดียวกัน เงินติดล้อ (TIDLOR) รายงานการเติบโตของกำไร 11.6% YoY ในปี 2024 ผลลัพธ์เหล่านี้สนับสนุนมุมมองของเราว่าในภาคสินเชื่อผู้บริโภค ผู้ให้บริการสินเชื่อที่มีทรัพย์สินค้ำประกันอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าคู่แข่งในการรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา จะมีข้อมูลเพิ่มเติมหลังการประชุมนักวิเคราะห์ ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ MTC โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 53.00 บาท