วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ในแดนบวก จากแรงขายกดดันในหุ้น DELTA ลดลง ประกอบกับมีแรงซื้อนำโดยหุ้น TRUE และหุ้นกลุ่มธนาคาร เป็นปัจจัยหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามมีแรงขายมากนำโดยหุ้นINTUCH และ GULF เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,262.27 จุด +4.79 จุด +0.38%มูลค่าการซื้อขาย 52,617.62 ลบ. Program Trading -229.77 ลบ. ต่างชาติ +1,056.05 ลบ. TFEX-11,650 สัญญา ตราสารหนี้ -512.28 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 71.25 จุด หรือ +0.16% ส่วนดัชนี S&P500ปิดทำนิวไฮติดต่อกันวันที่ 2 ขณะที่นักลงทุนประเมินรายงานการประชุมของเฟดและซึมซับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่วางแผนใช้มาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ +0.56% ปิดที่72.25 ดอลลาร์/บาร์เรลได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ ามันในรัสเซียและสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย
+ กระทรวงการคลังเร่งดำเนินการในการจัดตั้งกองทุน Thai ESG 2 กองใหม่รองรับเม็ดเงินกองทุน LTF ที่ครบกำหนดและยังไม่ได้ขายอยู่ที่ประมาณ1.8 แสนล้านบาท เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 1 หรือเดือน มี.ค.นี้
+ ตลท. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องในส่วนของการกำกับดูแลการขายชอร์ต ได้ปรับปรุงคุณสมบัติของหลักทรัพย์ที่สามารถขายชอร์ตได้ให้เป็นหลักทรัพย์เฉพาะในกลุ่ม SET100 รวมทั้งกำหนดให้ใช้เกณฑ์ Uptickเมื่อจำเป็น คือจากเดิมให้ใช้ Uptick ทุกหลักทรัพย์
+ ส.อ.ท.เปิดเผยว่าผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ม.ค. 68 เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.67 เนื่องจากมาตรการอีซี่ อี-รีซีท 2.0และโครงการโอนเงิน 10,000 บาทเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป วงเงินกว่า30,000 ล้านบาทช่วยให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและเพิ่มก าลังซื้อให้กับประชาชน
ปัจจัยลบ
- คณะกรรมการ FED เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ม.ค.ระบุว่ามีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และกังวลว่ามาตรการต่าง ๆ ของปธน.ทรัมป์ โดยเฉพาะมาตรการภาษีศุลกากรอาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของ FED ในการฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ2%
- ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีนำเข้าอาจเริ่มบังคับใช้อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 2 เม.ย.แต่ไม่ได้ระบุว่าจะมุ่งเป้าไปที่การนำเข้าจากบางประเทศหรือครอบคลุมทุกประเทศ
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 9.8%สู่ระดับ 1.36 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. และต่ ากว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.39 ล้านยูนิต
-กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกรณีสหรัฐเตรียมใช้ภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ประเทศที่เก็บภาษีสินค้าน าเข้าจากสหรัฐและเตรียมเก็บภาษีนำเข้ายานยนต์ยา และเซมิคอนดักเตอร์ 25% เดือนเม.ย.นี้ ว่า จะมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในสินค้าเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
รวมถึงอะลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์
แนวโน้มคลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการในการจัดตั้งกองทุน Thai ESG 2 กองใหม่ รองรับเม็ดเงินกองทุน LTF ที่ครบกำหนด ประกอบกับ ตลท. เปิดรับฟังความคิดเห็นในส่วนของการกำกับดูแลการขายชอร์ต มองกรอบดัชนี 1,255-1,270 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นปันผลสูง : SCB TISCO LH RATCH EGCO
• MSCI Rebalance : MSCI Global Standard : เข้า - ออก PTTGC, TOP MSCI Global Small Cap : เข้า GPSC,PTTGC, SCGP, TOP ออก BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)
• หุ้นที่อยู่อาศัยที่ได้ประโยชน์จากการผ่อนปรนมาตรการ LTV : AP LH SIRI SC SPALI QH