---คาด 4Q67 ยังขาดทุน เริ่มเห็นกำไรใน 1Q68---
Key Point
คาด 4Q67 ขาดทุน 126 ลบ. ยังมีค่าใช้จ่ายซ่อมอุโมงฯ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าระดับปกติ แต่ขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า มาจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพูมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแนวโน้มเริ่มเห็นกำไรใน 1Q68 จากได้รับปันผลพิเศษจาก GULF และผลประกอบการปี 68 คาดว่าจะกลับมามีกำไร ปัจจุบันราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก P/BV 0.33 เท่า ทำให้มี Valuation ที่ถูกกว่ากลุ่ม
4Q67 คาดรายได้ก่อสร้าง 7.7 พันลบ. -4.1%y-y จากมอเตอร์เวย์ M6 สร้างใกล้เสร็จแล้วและจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ให้บริการ (O&M) ในปี 68แต่รายได้ฯ +5.1%q-q จากเริ่มรับรู้รายได้ ในสัญญาใหม่ที่ส่วนใหญ่เซ็นสัญญาในช่วง 4Q67เช่น งานโรงไฟฟ้าโซล่าฯ 7 แห่ง, งานรถไฟฟ้าสายสีส้ม(JV) รวมมูลค่า 3.5 หมื่นลบ. คาด GPM 3.8% ลดลง y-y แต่สูงขึ้น q-q จากยังมีค่าใช้จ่ายซ่อมอุโมงค์บึงหนองบอน คาดว่าเสร็จในช่วง 1H68 คาดมีส่วนแบ่งขาดทุนลดลงต่อเนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู ที่มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (4Q67 ผู้โดยสารเฉลี่ยสายสีเหลือง 43,570 คน/เที่ยว/วัน ชมพู 58,362 คน/เที่ยว/วัน) ยังคงเห็นเป็นขาดทุนสุทธิ 126 ลบ. ขาดทุนลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า จะทำให้ทั้งปี 67 มีผลขาดทุนสุทธิ 234 ลบ. -114.4%y-y มีเซ็นสัญญางานใหม่ รวมมูลค่า 4.12 หมื่นลบ. คาดว่าจะมี Backlog 1.15แสนลบ. สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
แนวโน้มปี 68รายได้สูงขึ้น y-y เล็กน้อย จาก backlog ที่สูงขึ้น มี GPM สูงขึ้น y-yจากค่าใช้จ่ายซ่อมอุโมงฯลดลงและจะสามารถเครมประกันต่อได้ คาดมีส่วนแบ่งขาดทุนลดลงจากรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายแนวโน้ม 1Q68 จะได้รับปันผลพิเศษจาก GULF 220 ลบ. กลับมามีกำไร และทำให้ทางฝ่ายปรับคาดการณ์กำไรปี 68 ขึ้น +68% มาอยู่ที่ 370 ลบ. +257.7%y-y
ในช่วง 2-3 เดือน ที่ผ่านมามีโครงการที่ ครม. อนุมัติแล้ว เช่น มอเตอร์เวย์ M5 และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีแดงเข้ม ซึ่งถือว่าเร่งการอนุมัติโครงการได้ดี ปีนี้คมนาคมมีแผนอีก 4 โครงการ เข้า ครม. ได้แก่ 1.)มอเตอร์เวย์ M9 บางขุนเทียน-บางบัวทอง 5.6 หมื่นลบ. 2.)ทางด่วน สายกระทู้ -ป่าตอง 1.5 หมื่นลบ. 3.)ทางด่วน N2(ประเสริฐมนูกิจ-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันออก) 1.7 หมื่นลบ. 4. )รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีแดงอ่อน ศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา 1.5 หมื่นลบ. ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายที่จะเกิดในช่วง ก.ย.68 คาดว่าจะช่วยให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เป็นประโยชน์ต่อสายสีเหลืองและชมพูที่ขาดทุนอยู่ในปัจจุบัน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นซื้อขายP/BV เฉลี่ยที่ 0.8 เท่า แต่ล่าสุดที่ซื้อขาย P/BV ประมาณ 0.33เท่า ต่ำกว่ากลุ่ม (P/BV ITD 1.0 เท่า, CK 1.0 เท่า, NWR 0.7 เท่า) ด้วยปัจจุบันที่ต้องรับขาดทุนจากส่วนแบ่งกำไรและมีค่าใช้จ่ายซ่อมอุโมงฯ ทำให้มีผลประกอบการขาดทุน แต่ราคาหุ้นปรับตัวลงมามากจนเห็น Valuation ที่ถูกกว่ากลุ่ม ทางฝ่ายฯปรับ P/BV ลงมาที่ 0.50 เท่า ปรับราคาพื้นฐานลงมาที่ 5.80 บาท/หุ้น ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ”ซื้อ”
อดิสรณ์ มุ่งพาลชล
นักวิเคราะห์การลงทุนด้านตลาดทุน #18577
โทร: 66 2 635 1700#497
ทศวรรณ ธรรมสุข
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์