ภาวะตลาด : SET Index วานนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1254-1267 ปิดตลาดที่ 1262.27 (+4.79) โดยมีการเลือกซื้อหุ้นแบงค์ต่อ ทั้ง BBL, KBANK, SCB, KTB, TTB รวมถึงหุ้นใหญ่อื่นในกลุ่มต่างๆ เช่น CPAXT, CPF, TRUE, CPF, ADVANC, MINT, MTC ฯลฯ ขณะเดียวกันถูกถ่วงลงจากแรงขายหุ้น INTUCH, GULF, CRC, CPALL, PTT, AOT, GPSC ฯลฯ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ +1.05 พันลบ. สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ +1.5 พันลบ.
ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ : กรรมการเฟดยังกังวลเงินเฟ้อ ผลกระทบจากมาตรการทรัมป์ แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ย
-/• สหรัฐ : ทรัมป์ ตั้งใจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ 25%; ภาษีนำเข้าเซมิคอนดัคเตอร์และยาที่ 25% หรือสูงกว่า...ด้านรถยนต์ประเทศที่ถูกกระทบมากเป็น แคนาดา เม็กซิโก ส่วนเซมิคอนดัคเตอร์จะเป็น เวียดนาม ไทย มาเลเซีย ด้านยาเป็นเยอรมนี สวิตฯ เบลเยียม เป็นต้น แต่นวค.มองว่าเป็นการขู่ให้มาต่อรอง
•/- ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ช่วงแรกลบแต่ปิดบวก ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ทรงที่ 107.1 ราคาน้ำมันดิบ WTI & BRENT ขยับขึ้นเป็น 72-76 US$/bbl ติดตามตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) เพิ่มเป็น 103.5 สูงสุด 149) ดัชนี Baltic Dry Index ปรับขึ้นเป็น 904 (สูงสุด 2110)
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
+ ปลัดคลังคาดจะได้ข้อสรุป Thai ESG รูปแบบใหม่รองรับเม็ดเงิน LTF ที่ครบอายุพร้อมขาย 1.8 แสนลบ. ก่อนสิ้น 1Q68 โดยกองทุนนี้จะขายให้กับผู้ถือกองทุน LTF ที่มีอยู่เดิมเท่านั้น นอกจากนั้นปลัดคลังคาดสรุปรายชื่อประธานบอร์ดธปท.ภายในสิ้น ก.พ.นี้ (กรรมการเสนอชื่อ นายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์)
+ SCBประกาศจ่ายปันผล 2H24 เท่ากับ 8.44 บาท/หุ้น (ตามคาด) ณ ราคาปัจจุบันคิดเป็น DY ที่ 6.6%, TTB จ่ายปันผล 2H24 ที่ 0.064-0.067 บาท/หุ้น ขึ้นกับจน.หุ้นจากการแปลงสภาพ TTB-W1 (ตามคาด) คิดเป็น DY ที่ 3.2-3.3% ด้าน KTB ประกาศจ่ายปันผลปี 2024 ที่ 1.545 บาท/หุ้น (สูงกว่าคาด) คิดเป็น DY 6.5%...ติดตามการประกาศเงินปันผลของธ.พ.ที่เหลือ ซึ่งคาดว่าจะออกมาดีเช่นกัน
กลุยทธ์
“ยังมีแนวต้าน 1270/1280 หากพักฐานไม่หลุดเส้นแนวรับมีลุ้นกลับตัว” ระยะสั้นการปรับตัวขึ้นยังคงมีแนวต้านที่บริเวณ 1263/1270 และ 1280 หากยังไม่สามารถยืนเหนือได้ยังเป็นเพียงการรีบาวด์หลังลงแรง ส่วนการอ่อนตัวลงของตลาดมีแนวรับย่อยอยู่ที่ 1249 และแนวรับหลัก 1240-1236 ที่ทำให้ดีดกลับ หุ้นเด่นเทคนิควันนี้เป็น KTC, TTB
หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน
KTB – จากตัวเลขของธปท.เห็นว่าสินเชื่อโครงการภาครัฐขยายตัวดีใน 2H24 และมีโมเมนตัมดีต่อในปี 2025 ซึ่ง KTB ได้อานิสงค์ส่วนนี้ ขณะที่สินเชื่อรายย่อยก็มีความเสี่ยงต่ำกว่าธ.พ.อื่น เนื่องจากส่วนใหญ่ผูกกับบัญชีเงินเดือนข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ บริหารคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี NPL ratio ลดเป็น 2.99% ในสิ้น 4Q24 (จาก 3.14% ในสิ้น 3Q24) ด้าน Coverage ratio สูงขึ้นเป็น 189% ธนาคารประกาศจ่ายเงินปันผลปี 24 เท่ากับ 1.545 บาท/หุ้น คิดเป็น 49% ของกำไรสุทธิต่อหุ้น (ดีกว่าคาดการณ์ที่ 1.00 บาท/หุ้น) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 16 เม.ย.25 ชาระเงิน 2 พ.ค.25 ณ ราคาปัจจุบัน
23.90 บาท คิดเป็น Dividend yield ที่ 6.5% ต่อปี (จ่ายปีละ 1 ครั้ง ) แนะนำ ซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 25.50 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829