Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

214

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 19 ก.พ.68 ปิด +4.79 จุด อยู่ที่ 1,262.77 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,617 ลบ. สถาบันซื้อ 1,531 ลบ. รายย่อยขาย 1,293 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 113 ลบ. และต่างชาติขาย 3 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,437 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น BBL,DELTA,MINT,KTC,PTTGC และยอดขายหุ้น BH,AOT,CPALL,INTUCH,SAWAD มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,940 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ MAJOR,HMPRO,BEM โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 11,650 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 17,810 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 512 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.16%,S&P500 +0.24%,Nasdaq +0.07% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ +1.6%, อุปโภคบริโภค +0.79% ขณะที่กลุ่มวัสดุ -1.16% หลัง Fed Minutes ม.ค. ชี้ยังกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อสูง และรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของ ปธน.ทรัมป์ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.91% โดยกลุ่มยานยนต์ -1.5% หลัง ปธน.ทรัมป์เผยจะเรียกภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25%  

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ และสินค้าอุปโภคบริโภค หลังรายงาน Fed Minutes ม.ค. คณะกรรมการเฟดยังกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อสูง จาก ม.ปรับขึ้นภาษีนำเข้า ซึ่งอาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐชะลอการปรับลดลงสู่เป้าหมายที่ 2% ขณะที่ ปธน.ทรัมป์เผยเตรียมจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์, เซมิคอนดักเตอร์ และยาในอัตรา 25% กับทุกประเทศ แต่นักวิเคราะห์คาดน่าจะเป็น ม.ขู่ให้ประเทศคู่ค้าเข้ามาเจรจากับสหรัฐมากกว่าปรับขึ้นภาษีจริง ๆ ด้านข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านสหรัฐ ม.ค.อยู่ที่ 1.36 ล.ยูนิต ต่ำกว่าคาดที่ 1.39 ล.ยูนิต ส่วนค่ำวันนี้ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด และวันศุกร์ US.PMI ภาคผลิต & บริการ ก.พ., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.พ.
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง หลัง ปธน.ทรัมป์ขู่จะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ 25% ส่งผลให้กลุ่มยานยนต์ยุโรป -1.5% โดย EC กำลังพิจารณาเข้มงวดกับโควต้านำเข้าเหล็กปลอดภาษีของสหรัฐ เพื่อเป็นการตอบโต้สหรัฐ ขณะที่ German Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.549% หลังกลุ่ม EU อาจจะต้องใช้งบประมาณด้านกลาโหมเพิ่ม เพื่อรักษาเสถียรภาพหลังยุติสงครามรัสเซีย – ยูเครน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ UK CPI ม.ค ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.0% & คาด 2.8% YoY และวันศุกร์ติดตามข้อมูล Euro PMI ภาคผลิต & บริการ ก.พ.
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -0.27% หลังสหรัฐเผยเตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตรา 25 % ตั้งแต่ เม.ย. ส่งผลลบต่อกลุ่มยานยนต์ญี่ปุ่น เนื่องจากสัดส่วนการส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดสหรัฐ คิดเป็น 1/3 ของยอดส่งออกทั้งหมดของญี่ปุ่น ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้วานนี้ +0.81% ได้แรงหนุนจาก ม.ของรัฐบาลจีนที่จะช่วยหนุนการดำเนินงานของภาคเอกชน ส่วนข้อมูลราคาบ้านใหม่ใน 70 เมืองของจีน ม.ค. -5.0% & คาด -5.3% YoY และเช้านี้ ธ.กลางจีนได้คงดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปี ไว้ที่ 3.1% และ 3.6% ตามลำดับ  
  • ดัชนี SET วานนี้ปิด +0.38% ปริมาณการซื้อขาย 5.2 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 1,531 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,056 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 456 ลบ. และรายย่อยขาย 2,131 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่ม Domestic Play เช่น ธนาคาร, ไฟแนนท์, อาหาร, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว ที่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก ม.กีดกันการค้าของสหรัฐ กอปรคาดกำไร Q4/67 อยู่ในแนวโน้มบวก จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ กอปรกับกระทรวงการคลังเผยเตรียมออก Thai ESG กองที่ 2 เพื่อรับรองเม็ดเงินกองทุน LTF ที่ครบกำหนดการถือครองมูลค่า 1.8 แสน ลบ. เพื่อช่วยลดแรงขายไถ่ถอนของนักลงทุน ขณะที่กลุ่มอสังหาก็ปรับขึ้นรับข่าว ธปท.เตรียมพิจารณาเกณฑ์ LTV สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 ส่วน ตลท.ได้ทบทวนเกณฑ์ 1) Up-Tick จะใช้เฉพาะหุ้นที่ลดลงมาจนถึงเกณฑ์ และใช้เกณฑ์ Zero-Plus Tick สำหรับหุ้นในกลุ่ม SET100 2) ชะลอการใช้ Dynamic Price Band เฟส2 3) อนุญาตให้ใช้ HFT ได้กลุ่มหุ้น SET100 และ 4) ยกเลิก Min.Resting Time 250 millionsec. โดยมีเป้าหมายช่วยเพิ่มสภาพคล่องของการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,240 – 1,250 แนวต้าน 1,270 คาดดัชนีทรงตัวรอรายงานกำไร บจ.Q/67 และรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีของสหรัฐ แนะนำทยอยซื้อกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก CPAXT,BJC,CRC/ ธนาคาร KTB,SCB,BBL ในช่วงประกาศจ่ายเงินปัผนล /ไฟแนนท์ MTC,TIDLOR /อาหาร CPF,TFG,BTG/ กลุ่มอสังหา AP,SIRI,SC
  • SAT (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 40 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิงวด 4Q67 ที่ 215 ล้านบาท +35%QoQ, -1%YoY ดีกว่าคาด แม้ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนฯ จะชะลอตัวตามภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยใน 4Q67 แต่ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักกลการเกษตร ประกอบกับการจัดการต้นทุนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ GPM ดีขึ้นมาอยู่ที่ 20% (3Q67 = 17.2%, 4Q66 = 18.7%) ส่วน outlook ในปี 68 การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยังมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจโลก การตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐ การแย่งส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ EV และชิ้นส่วนฯ จากจีน รวมถึงความเข้มงวดของธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้คาดยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยเติบโตต่ำราว 2% ที่ 1.5 ล้านคัน อย่างไรก็ดี SAT ยังมีจุดเด่นที่การจ่ายเงินปันผลสูงจูงใจ ล่าสุดประกาศจ่ายงวด 2H67 ที่ 1.24 บาท/หุ้น คิดเป็น Div.Yield สูงถึง 11.4% ขึ้น XD 5 มี.ค.68 ภายใต้ valuation ปัจจุบันไม่แพงด้วย EPS ปี 68 ที่ 1.77 บาท/หุ้น +7%YoY คิดเป็น Forward PER ที่ 6.2 เท่า
  • ERW* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 5.12 บาท) Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิ 4Q67 อยู่ที่ 335 ลบ. (+58%YoY, +171%QoQ) การดำเนินงานปกติยังมีปัจจัยบวกตามฤดูกาล(จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 4Q67 +17%YoY +10%QoQ) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ รวมถึงการ renovate โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ที่เสร็จสิ้น ซึ่งทาง ERW* คาด 4Q67 จะมี Rate ที่ 80% และ ARR ที่ +8-10%QoQ, +5-7%YoY นอกจากนี้ ช่วง 1Q68 ยังดูมีแนวโน้มดีจากยอดนักท่องเที่ยวเข้าไทยในช่วง 1ม.ค.-16ก.พ.68 ยัง +11.90%YoY

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) สัญญาน้ำมัน WTI มี.ค +$0.40 อยู่ที่ $72.25/บาร์เรล , Brent เม.ย. +$0.20 อยู่ที่ $76.04/บาร์เรล หลังยูเครนได้ส่งโดรนโจมตีท่อส่งน้ำมันแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CGC) ในรัสเซีย และกลุ่มโอเปกอาจชะลอการเพิ่มอุปทานน้ำมันใน เม.ย. ค่ำวันนี้ EIA จะรายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดเพิ่มขึ้น 2.2 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(-) สัญญาทองคำ Comex เม.ย. -$12.90 อยู่ที่ $2,936.10/ออนซ์ ถูกกดันจาก Dollar Index แข็งค่า +0.11% อยู่ที่ 107.173 รอรปะเมินท่าทีของสหรัฐในการปรับขึ้นภาษีศุลกากรรถยนต์, เซมิคอนดักเตอร์ และยา

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -46.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +31.34 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ -69.07 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -8.86 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 33.67 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.522 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +63 จุด อยู่ที่ 904

(+) BitCoinเช้านี้ +0.07% อยู่ที่ 96,713 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

17 ก.พ.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 4/67

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม  

                สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

17 ก.พ.     US วันหยุด - Presidents' Day  

20 ก.พ.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US รายงานการประชุมของ FOMC

                US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ก.พ.)

21 ก.พ.     US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ม.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ก.พ.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ก.พ.) 

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,WHA,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2025: CPALL, SYNEX*, CRC, WHA, SHR*

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้