Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

360

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 14 ก.พ.68 ปิด -12.01 จุด อยู่ที่ 1,272.10 จุด มูลค่าการซื้อขาย 50,036 ลบ. สถาบันขาย 4,706 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 7 ลบ. ต่างชาติซื้อ 824 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,874 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 3,989 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,SCB,KTB,TRUE,CPALL และยอดขายหุ้น INTUCH,DELTA,BCP,CPAXT,STA มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,304 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ STAR5001,SC,IRPC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 4,411 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 16,350 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 647 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.37%, S&P500 -0.10%, Nasdaq +0.41% โดยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค -1.16%, บริการสุขภาพ -1.11% ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีได้แรงหนุน หลัง Nvidia +2.6% และ Apple +1.3% ส่วนข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐ ม.ค. -0.9% & ธ.ค. +0.7% MoM ช่วยลดความกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐอาจสูงขึ้น ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.24% ถูกแรงขายทำกำไรหลังปรับขึ้นติดต่อกัน 4 วัน และปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8  

Market View

  • DJIA +0.5%, S&P500 +1.5%, Nasdaq +2.6% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 44% แม้ว่า US Core CPI ม.ค. อยู่ที่ 3.3% & คาด 3.1% YoY และ US Core PPI ม.ค. อยู่ที่ 3.6% & คาด 3.3% YoY แต่องค์ประกอบสำคัญในการคำนวณ US PCE ไม่ได้สูงขึ้น ช่วยลดความกังวลต่อเงินเฟ้อสหรัฐอาจสูงขึ้น ขณะที่ ปธ.เฟดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส ชี้ยังไม่รีบลดดอกเบี้ย โดยนักลงทุนยังรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรแบบตอบโต้กับประเทศที่เก็บภาษีกับสินค้าของสหรัฐ ซึ่งคาดจะมีชัดเจนในวันที่ 1 เม.ย. ประเด็นที่ต้องติดตามค่ำวันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดในวันประธานาธิบดี, พุธ Fed Minutes ม.ค., ศุกร์ US.PMI ภาคผลิต & บริการ ก.พ., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.พ.
  • Stoxx 600 +1.8% WoW ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8 หลังรายงาน Euro GDP Q4/67 +0.9% YoY ตามคาดการณ์ และ LSEG เผย 129 บริษัทใน Stoxx600 จำนวน 9% มีกำไรดีกว่าคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 54% และกำไร Q4/67 บจ.ไม่รวมกลุ่มพลังงาน +6.7% YoY โดยกลุ่มที่คาดกำไรจะขยายตัวได้คือ อสังหาฯ, วัตถุดิบพื้นฐาน และอุตสาหกรรม ที่ได้ปัจจัยหนุนจากการที่ ECB ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุม ม.ค. ประเด็นที่ต้องติดตาม พุธ UK CPI ม.ค., ศุกร์ Euro PMI ภาคผลิต & บริการ ก.พ.
  • MSCI Asia Pacific X Japan +1.6% WoW โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.3% WoW, ฮั่งเส็ง +7.0% WoW ได้แรงหนุนจากหุ้นในอุตสาหกรรม AI หลังการเปิดตัวของ DeepSeek ของจีนที่มีต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำกว่าของสหรัฐ กอปรกับราคาหุ้น Alibaba +20.5% WoW รับข่าวการร่วมพัฒนาระบบ AI กับ Apple เพื่อรองรับการใช้งานของ Iphone ในจีน ส่วนดัชนีนิเกอิ +0.97% WoW ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มส่งออก และ Kospi เกาหลีใต้ +2.7% WoW ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยญี่ปุ่น & เกาหลีใต้คาดจะได้รับผลกระทบน้อยจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐ เนื่องจากเป็นประเทศพันธมิตรในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐ  
  • SET -0.78% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 63 หมื่น ลบ. -4.98% WoW สถาบันขาย 6,216 ลบ. ต่างชาติขาย 1,107 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 709 ลบ. และรายย่อยซื้อ 6,614 ลบ. WoW โดยกลุ่มที่ปรับลดลง คือ ขนส่ง -10.5% WoW หลังวันศุกร์ AOT -13.7% จากประเด็นข่าวคิง เพาเวอร์ มีปัญหาสภาพคล่อง และมีการเจรจากับ AOT เพื่อขอเลื่อนการชำระค่าตอบแทน โดยปัจจุบันคิง เพาเวอร์มียอดค้างชำระอยู่ที่ 4,000 ลบ. ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังส่งผลลบไปยังกลุ่มธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ของคิง เพาเวอร์ด้วย ส่วนกลุ่มอิเล็ก ฯ -0.9% WoW หลัง DELTA รายงานกำไร Q4/67 อยู่ที่ 2.15 พัน -54% YoY, -63% QoQ เป็นผลจากค่าใช้ด้าน License และ R&D ปรับสูงขึ้น ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยว +4.4% และไอซีที +4.0% WoW หลัง MINT, ADVANC รายงานกำไร Q4/67 ดีกว่าคาด ประเด็นสำคัญวันนี้ สภาพัฒน์รายงาน GDP ไทย Q4/67 คาด +3.8% YoY, +3% QoQ , อังคาร ผลการประชุม ครม. รวมถึงรายงานกำไรบจ. Q4/67 โดย 95 บริษัทที่ส่งงบแล้ว มีกำไรต่ำกว่า BB.คาด -2.2%

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,250 – 1,260 แนวต้าน 1,280 – 1,290 คาดดัชนีมีโอกาสปรับฐานลง หลัง DELTA รายงานกำไร Q4/67 ต่ำกว่าคาด กอปรกับ AOT ยังอาจถูกกดดันจากกรณีคิง เพาเวอร์ ขอเลื่อนการชำระค่าตอบแทน แนะนำพักเงินในกลุ่มปลอดภัย & ปันผลสูง เช่น ADVANC,INTUCH,MC / เก็งกำไร MTC, BCPG, TRUE คาดกำไร Q4/67 มีโอกาสขยายตัวได้ดี
  • AOT (ถือ / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) การประชุมนักวิเคราะห์ล่าสุดมีมุมมองเป็นลบจากประเด็นลูกหนี้ไม่หมุนเวียนปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 ไตรมาสติด เนื่องจาก King Power ประสบปัญหาสภาพคล่อง ทำให้ต้องขอเลื่อนชำระค่าตอบแทน Minimum Guarantee เดือน ส.ค.67-ก.พ.68 ไปอีก 18 เดือน ข้างหน้า โดยยอมเสียค่าปรับ 18% ต่อปี และอยู่ระหว่างเจรจาลดดอกเบี้ยค่าปรับลงเหลือ 9% ผลกระทบในระยะสั้น AOT ยังไม่ต้องตั้งสำรองหนี้สูญ เพราะมีการวาง Bank Guarantee ที่ครอบคลุมรายได้ MGT ทั้งหมดที่ต้องได้รับจนถึงปี 72 แล้ว อย่างไรก็ตามต้องดูต่อไปว่าในเดือน มี.ค.68 เป็นต้นไปจะกลับมาชำระได้ตามปกติตามหรือไม่ แต่ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปจะไม่เป็นผลดี โดยอาจจะต้องมีการเจรจาปรับแก้สัญญาสัมปทานใหม่หรืออาจยกเลิกแล้วประมูลหาผู้ประกอบการรายใหม่มีโอกาสน้อยที่จะรับได้ผลประโยชน์สูงเท่าเดิมในแง่ของการรับรู้รายได้ในงบกำไรขาดทุนจะไม่มีผลกระทบ แต่ในแง่กระแสเงินสดที่ใช้ในการประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF จะถูกเลื่อนออกไป รวมถึงในกรณี worst case ที่ต้องยกเลิกสัญญาแล้วประมูลใหม่ downside ของผลตอบแทน MGT ที่อาจลดลงมาเท่ากับสัญญาเก่าหรือคิดเป็นรายได้ที่จะหายไปราว 12,000 ล้านบาท/ปี ส่วนคำแนะนำปรับลงเป็น “ถือ” เพื่อรอความชัดเจนอีกครั้ง
  • MC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.55 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68(ต.ค.-ธ.ค.67) อยู่ที่ 305 ลบ. (+8%YoY, +130%QoQ) มีแรงหนุน QoQ ตามฤดูกาล ขณะที่ YoY แม้ว่ายอดขาย Free-standing shop และยอดขายร้านในห้างฯ จะลดลง แต่มีปัจจัยบวกจากการเติบโตของยอดขายออนไลน์ที่ +64%YoY เข้ามาชดเชยได้ส่งผลให้ รายได้ขาย +3%YoY ด้านการดำเนินงานช่วงถัดไป 3Q68(ม.ค.-มี.ค.68)  แม้ผ่าน High Season ไปแล้ว แต่คาดว่ายังพอจะมีปัจจัยช่วยหนุนจากม.กระตุ้นกำลังซื้อของรัฐฯ อนึ่ง MC* ประกาศจ่ายปันผล 0.55บาท/หุ้น จะ XD วันที่ 27 ก.พ.68 ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาดกำไรปี68-69 ของ MC* ที่ 761  ลบ.( +7%YoY)  และ 814 ลบ.(+7%YoY)

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI มี.ค. -$0.55 อยู่ที่ $70.64 / บาร์เรล, Brent เม.ย. -$0.28 อยู่ที่ $74.74/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI -0.37%, Brent +0.11% WoW โดยราคาน้ำมันปรับลดลง หลัง ปธน.สหรัฐ & รัสเซียเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน และยกเลิก ม.คว่ำบาตรต่อรัสเซีย อาจส่งผลให้อุปทานน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้น

 

Gold Update(-) Comex Gold เม.ย.$-44.70 อยู่ที่ $2,900.7 /ออนซ์ สัญญาทองคำ +0.45% WoW เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลต่อ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐ

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -238.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -238.42 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -148.12 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -33.02 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.489 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +12 จุด อยู่ที่ 792

(-) BitCoinเช้านี้ -1.30% อยู่ที่ 96,324 ดอลลาร์สหรัฐ

(+)GDP ญี่ปุ่น Q4/67 +0.7% & Q3/67 +0.4% ดีกว่าคาด +0.3% QoQ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

17 ก.พ.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 4/67

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที4  กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

                สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม  

                สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

17 ก.พ.     US วันหยุด - Presidents' Day  

20 ก.พ.     US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US รายงานการประชุมของ FOMC

                US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ก.พ.)

21 ก.พ.     US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ม.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ก.พ.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ก.พ.) 

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,WHA,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2025: CPALL, SYNEX*, CRC, WHA, SHR*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้