Equality for All
TOP : บมจ.ไทยออยล์
4Q24 พลิกกลับมีกำไรและดีกว่าคาด : การดำเนินงานที่ออกมาดีกว่าคาดโดยมีกำไรสุทธิ 2,564 ลบ. พลิกจากไตรมาสก่อนขาดทุน -4,218 ลบ. โดยกำไรดีกว่าคาดจากรายการพิเศษทางบวกมากกว่าที่คาดไว้ ดังนี้
กลุ่มโรงกลั่น ใช้กำลังการผลิต 113% ทรงตัว q-q แต่หากส่วนต่างราคาน้ำมันเครื่องบินและดีเซลเพิ่มขึ้นทำให้ GRM เพิ่มเป็น 5.1 เหรียญ/บาร์เรลจาก 3.7 เหรียญ/ บาร์เรล
กลุ่มอะโรเมติกส์ ใช้กำลังการผลิต 80% ขณะที่กลุ่ม LAB ใช้กำลังการผลิต 126% แต่ส่วนต่างราคา BZ ลดลงทำให้ GIM เหลือ 1 เหรียญ/บาร์เรล จาก 1.2 เหรียญ
กลุ่ม Lube base ใช้กำลังการผลิต 83% แต่จากอุปสงค์ดีขึ้นตามการก่อสร้างและอุปทานตึงตัวจากการปิดผลิตในเกาหลีทำให้ GIM ดีขึ้นจาก 0.5 เหรียญเป็น 1.1 เหรียญ/ บาร์เรล
Market GIM 3 กลุ่มจึงเพิ่มเป็น 7.1 เหรียญ จาก 5.4 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ต้นทุนเพิ่มเป็น 2.7 เหรียญจาก 1.9 เหรียญจากปกติ 4Q จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติ
รายการพิเศษสุทธิ -631 ลบ. (ประกอบด้วยขาดทุนสต็อก -2,010 ลบ., โอนกลับสินค้า (NRV) +2,105 ลบ., กำไรจากการป้องกันความเสี่ยง +230 ลบ. และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน -487 ลบ.)
ประกาศจ่ายเงินปันผล สำหรับการดำเนินงาน 2H24 ที่ 0.70 บาท/ หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 2.8% ซึ่งเป็นการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่าคาด
เรื่องลบ ๆ ยังกดดัน
“แม้แนวโน้มการดำเนินงานปี 2025 จะฟื้นตัวตาม GRM ที่ดีขึ้น แต่ประเด็น CFP ที่ทั้งต้องใส่เงินเพิ่ม และความล่าช้าที่เกิดขึ้นอาจทำให้ความได้เปรียบของ TOP จะน้อยลงภายใต้อุปทานใหม่ที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนการใช้รถ EV ที่มากขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งการถูกถอดจากดัชนี MSCI Global Standard (มีผล 28 ก.พ.) เป็นอีกประเด็นที่กดดันราคา
แม้ราคาปัจจุบันจะมี upside จากราคาตลาดแต่ปัจจัยลบ ๆ ยังกดดันอยู่ กลยุทธ์การลงทุนยังให้เล่นรอบตามการเหวี่ยงขึ้นลงของ GRM และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th