สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 17 กุมภาพันธ์ 2568)------บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ Strategy Updateคาดหุ้นได้ประโยชน์โอนย้าย LTF ไป TESG
กลยุทธ์การลงทุน
แรงขาย LTF ปี 2568 สถานะปัจจุบันและแรงขายในอนาคต
หากไม่มีการปรับเงื่อนไข LTF เดิ
SET Index ปรับลง -9.15 %YTD ส่วนหนึ่งมาจากแรงขายของนักลงทุนสถาบันในประเทศซึ่งมาจากการไถ่ถอน LTF ที่ปีนี้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถไถ่ถอนได้ออกมาได้ทั้งหมด ซึ่งในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา แรงขายจาก LTF สูงมากถึง 1.95 หมื่นล้านบาท หากพฤติกรรมคล้ายเดิม 3 ปีที่ผ่านมา ที่การไถ่ถอน LTF จะอยู่ในเดือน ม.ค. คิดเป็น 29% ของมูลค่าไถ่ถอนทั้งหมดในแต่ละปี หมายความว่าแรงขาย LTF ปีนี้อาจสูงถึง 6.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่และมากกว่าปีก่อนถึง 77%YoY หากไม่มีการออกมาตรการใดเพิ่มเติมถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่กดดันต่อตลาดหุ้นไทยในปีนี้ โดย ณ สิ้นเดือน ม.ค. 68 มูลค่า NAV คงค้างของ LTF อยู่ที่ 1.88 แสนล้านบาท
การฟื้น LTF ช่วยลดแรงขายได้ไปอีกขั้นต่ำ 5 ปี
ล่าสุด รมว.คลังเผยอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางปรับปรุงเกณฑ์การโอนย้ายกองทุน LTF เข้ามาลงทุน TESG ใหม่ โดยจะพิจารณาสิทธิประโยชน์ต่างๆ ควบคู่ไปกับการปรับนโยบายการลงทุนของ TESG ที่คาดว่าเพิ่มสัดส่วนในหุ้นไทยมากขึ้น ด้านระยะเวลาถือครองน่าจะอยู่ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งความชัดเจนจะไม่เกินในเดือน ก.ย. 68 ในมุมมองของเราประเมินว่าหากความชัดเจนออกมายิ่งได้เร็วและผลประโยชน์ทางภาษีที่จูงใจ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดแรงขาย LTF ได้อย่างมีนัยสำคัญไปอย่างน้อย 5 ปีหรือเท่ากับช่วงระยะเวลาขั้นต่ำที่ให้ถือครองเพื่อแลกสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี ทั้งนี้ระยะสั้นมีสัญญาณบวกจากแรงขาย LTF ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 628 ล้านบาท ลดจากช่วงต้นสัปดาห์ที่อยู่ระดับ 926 ล้านบาท
หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการโอนหน่วยจาก LTF เป็น TESG ใหม่
เราได้ประเมินหุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการโอนหน่วยลงทุน LTF ไปเป็นกอง TESG ใหม่ (แต่ หน้าหุ้นเก่า) โดยเราเชื่อว่าหุ้นที่จะได้ประโยชน์หลักๆ 2 ส่วน คือ
1) หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนัก (Reweight) เมื่อเปลี่ยนจากกอง LTF ไปเป็น TESG ใหม่ โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์คือหุ้นที่มีสัดส่วน TESG ถือครองในสัดส่วนมากกว่าเมื่อเทียบกับสัดส่วนการถือครองของ LTF เช่น BDMS กองทุน TESG ลงทุนสัดส่วน 4.9%ของ NAV เทียบกับ LTF ที่ถือครอง 3.0% หากอยู่บนสมมติฐานกองทุน TESG ให้คงสัดส่วนการลงทุนหุ้นรายตัวคล้ายเดิม เมื่อมีการโอนย้ายจากกอง LTF เป็น TESG จะเห็นการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน BDMS มากขึ้น +1.9% ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลสถานะการลงทุนของ LTF และ TESG ในเดือน ก.ย.2567 เราประเมินหุ้นที่ได้ประโยชน์ 5 อันดับแรก คือ BDMS (เพิ่มน้ำหนัก +1.9%) SCC (+1.8%) TRUE (+1.3%) PR9 (+1.2%) INTUCH (+1.1%) (รายละเอียดเพิ่มเติมตามตารางที่ 1 )
2) หุ้นที่มีการลงทุนเฉพาะในกอง TESG แต่ไม่มีในกองทุน LTF เพราะเมื่อโอนย้ายจากกองทุน LTF เป็น TESG ก็จะมีเม็ดเงินใหม่เข้าลงทุนทันที ซึ่งจะมีหุ้นที่ประโยชน์จากกรณีนี้คือ JMART (เพิ่มน้ำหนัก +0.04%) NER (+0.006%) ACE (+0.004%) และ III (+0.002%)
Analyst
ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์
Theerasate.p@maybank.com
ชาญชัย พันทาธนากิจ
Chanchai.p@maybank.com
บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
TEL : 02-658-5000