คาด SET Index : ปรับตัวลง แรงกดดันจากการลดสถานะเสี่ยงก่อนปัจจัยบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด และความกังวลสงครามการค้า หากแต่พอมีแรงพยุงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น และความหวังว่าภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นตลาดทุนไทย
แนวรับ-ต้าน
1,255-1,275
กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 4Q67 : BA, BCP, MINT, NER, PIN, SC
2) Value stockstockในเชิง Quant : BBL, KBANK , KTB, PTT, PTTEP, SCB, TLI
3) Dividend REITs : ADVANC, FTREIT, LHHOTEL, TISCO, WHART
4) Selective : PRM, PT, TRUE
5) Short sell : BGRIM, CBG, ORI, PTTGC, SCC
ระวังแรงขายก่อนวันหยุด
ลดสถานะในสินทรัพย์เสี่ยง : คาด SET Index จะเผชิญกับแรงขายลดสถานะเสี่ยงก่อนวันหยุดในพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีปัจจัยบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ได้แก่ 1) ถ้อยแถลงของปธ.เฟดต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 11 และ 12 ก.พ.68 ตามลำดับ และ 2) การเผย CPI เดือนม.ค.68 ของสหรัฐฯในพรุ่งนี้ โดยตลาดคาด Headline และ Core ขยายตัว 2.9% y-y และ 3.1% y-y จากเดือนธ.ค.67 ที่ 2.9% y-y และ 3.2% y-y ตามลำดับ นอกจากนี้ ความกังวลต่อสงครามการค้าโลกที่อาจลุกลามเป็นวงกว้างยังเป็นอีกปัจจัยผลักดันให้นักลงทุนมีแนวโน้มลดสถานะในสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย สอดรับกับราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวขึ้น 1.62% ปิดที่ 2,934.40 ออนซ์ ซึ่งถือเป็นการปิดเหนือ 2,900 ออนซ์ เป็นครั้งแรก กอปรกับ SET Index ยังมีแนวโน้มเผชิญแรงขายลดสถานะเสี่ยง เนื่องจากวันหยุดในพรุ่งนี้ อาจมีพัฒนาการของสงครามการค้าเพิ่มเติม หลังก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ เผยว่าในสัปดาห์นี้จะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเท่ากับอัตราที่คู่ค้าเรียกเก็บจากสินค้าส่งออกของสหรัฐฯกับหลายประเทศ
ราคาน้ำมันดิบขึ้น : มอง SET Index ยังมีแรงพยุงจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งคาดได้ Sentiment หนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น 1.86 ปิดที่ 72.32 ต่อบาร์เรล หลังสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่อิหร่านหลายราย รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันดิบอิหร่านจำนวนหลายล้านบาร์เรลต่อปีไปยังจีน เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านตามนโยบายของปธน.ทรัมป์
หวังมาตรการกระตุ้นตลาดทุน : นอกจากนี้ คาด SET Index ยังพอมีแรงพยุงจากความหวังต่อมาตรการกระตุ้นตลาดทุน หลัง ตลท. เผยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและอยู่ระหว่างหารือพูดคุยกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง ว่าจะกระตุ้นตลาดหุ้นไทยให้กลับมาอย่างไร ทั้งแผนระยะสั้น กลาง และยาว ขณะที่ปัจจัยติดตามอื่นๆในวันนี้ ได้แก่ 1) การประกาศหุ้นเข้าออกในการคำนวณ MSCI และ 2) การเผยงบของ INET, OR และ ROCTEC
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+) รองนายกฯและรมว.คลัง เผยในช่วงปลายเดือนก.พ.หรืออย่างช้าในช่วงต้นเดือนมี.ค.68 จะนัดประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อพิจารณาโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เฟส 3 สำหรับบุคคลทั่วไปที่ได้ลงทะเบียนแล้ว
(-) จีน เผยการแต่งงานในจีนดิ่งลง 1 ใน 5 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ แม้รัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่ในการกระตุ้นให้คู่หนุ่มสาวแต่งงานและมีบุตร เพื่อชะลอการลดลงของประชากรประเทศ
(-) Shiseido เผยกำไรตลอดปีที่ผ่านมาลดลง 73% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงในจีน โดยบริษัทคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 68 ทั้งนี้ Shiseido ถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีน
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ -นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์