Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

252

 


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ตั้งฐาน
หุ้นปันผลสูงตัวเลือกลดความผันผวน

Market Strategy
SET Index สร้างฐานตามกรอบ 1260-1280 จุด ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามการประกาศรายละเอียดภาษีตอบโต้ ระหว่างวันที่11-12 ก.พ. รวมถึงการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ม.ค. ช่วงค่ำวันที่ 12 ก.พ. ซึ่ง 2 เหตุการณ์สำคัญเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับวันของตลาดหุ้นบ้านเราอาจทำให้นักลงทุนกลับมาอยู่ในภาวะ Wait & See วันนี้เลือก TTB ปันผลที่สูงเป็นเกราะป้องกันความผันผวน

ปัจจัยต่างประเทศกดดันในระยะนี้ยังมาจากการตั้งกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ที่ล่าสุด Bloomberg รายงานสหรัฐฯ จะเพิ่มการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% กับทุกประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.68 โดยอิงข้อมูลการส่งออกปี 67 เหล็กและอลูมิเนียมของบ้านเราไปสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 3.2% ของมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ และคิดเป็นสัดส่วน 0.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด จึงมองผลกระทบต่อภาคส่งออกยังจำกัด แต่ความเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ การส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมจีนที่ติด 1 ใน 10 ของการส่งออกไปสหรัฐฯ ต้องหาตลาดอื่นๆทดแทนซึ่งหากเข้ามาทุ่มตลาดในบ้านเรา ถือเป็นความเสี่ยงต่อราคาเหล็กและอลูมิเนียมในประเทศ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกระทบต่อ DOHOME และ GLOBAL ส่วนประเด็นติดตามต่อไปช่วงวันที่ 11-12 ก.พ. คือ การประกาศรายละเอียดภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯและการรายงานเงินเฟ้อเดือน ม.ค. วันที่ 12 ก.พ. คาดทรงตัวที่ 2.9%YoY

ปัจจัยในประเทศความสนใจอยู่การรายงานงบ 4Q67 ปัจจุบันบริษัทฯที่รายงานคิดเป็นสัดส่วน 30% ของ Market Cap ของ SET กำไรสุทธิในภาพรวมดีกว่า Bloomberg Consensus คาด 6.46% จึงยังไม่ได้สร้าง Downside ต่อประมาณการ ซึ่งเราคาด EPS68 ที่ 94 บาท/หุ้น ทำให้ปัจจุบัน SET Index ซื้อขายบน PER68 ที่ 13.5 เท่าต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี -1.3 S.D. ด้าน PBV อยู่ที่ 1.2 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -2 S.D. และ Dividend Yield 4% สูงกว่าค่าเฉลี่ย +2 S.D. ยังคงมุมมองเป็นจุดตั้งรับสำหรับนักลงทุนระยะยาว ชอบหุ้นที่ PER /PBV ซื้อขายต่ำกว่าเฉลี่ยและกำไรปี 68 เติบโต เช่น SPRC AOT CENTEL MINT CPAXT MTC TIDLOR หุ้นปันผลสูง (ปี 68 คาดจ่ายมากกว่า 7%) เช่น TTB KKP AP เป็นต้น

 

Market Summary
SET Index ปรับลง -11.6 จุด แรงกดดันจากความไม่แน่นอนเรื่องภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ และการเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% โดยกลุ่มที่กดดันหลักมาจากกลุ่มเกี่ยวกับภาคส่งออก เช่น กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ CCET -7% DELTA -1.8% กลุ่มยาง STA -4% กลุ่มปิโตร PTTGC -3% IRPC -3.7% และกลุ่มที่กระทบจาก Bond Yield สหรัฐฯ เร่งตัวกลุ่มไฟแนนซ์ TIDLOR -3.5% SAWAD -3.4% กลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM -2.3% GPSC -3.7% สวนทางกลุ่มประกันที่ได้ประโยชน์ BLA +5.7% ส่วนกลุ่มอื่นๆที่แข็งสวนตลาดกลุ่ม ICT จาก ADVANC +1.1% ที่งบดีกว่าคาด TRUE +5% ความคาดหวังต่องบ 4Q67 จะดีตาม ADVANC


DAILY Stock Pick

TTB
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 2.10 บาท
TTB ประกาศโปรแกรมซื้อหุ้นคืนสูงสุด 10% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว วงเงิน 21,000 ล้านบาทในช่วงปี 2568-2570 สำหรับปี 2568 ธนาคารจะเริ่มซื้อหุ้นคืนรอบแรกสูงสุด 3.6% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว วงเงิน 7,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 3 ก.พ. 2568 ถึง 1 ส.ค. 2568
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการซื้อหุ้นคืน ซึ่งจะเป็นกลไกที่ช่วยให้ ROE ของ TTB มีแนวโน้มปรับขึ้นแตะ 10% ในปี 2569 (จากเดิมที่คาดไว้ 9.5%) โดยสมมติว่า TTB ใช้เงิน 7,000 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นคืนประมาณ 3,000 ล้านหุ้นต่อปีในช่วงปี 2568-70 จะเป็นผลดีต่อการ Rerating ในเชิง Valuation ให้สูงขึ้น ทำให้ปัจจุบันที่ซื้อขายบน P/BV68 0.77 เท่ามีแนวโน้มที่จะซื้อขายในระดับพรีเมียมเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ นอกจากนี้อัตราการจ่ายปันผลจะอยู่ที่ 7.6-9% ต่อปี จะเป็นตัวช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้นได้อีกทางหนึ่ง


KEY FACTOR
ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์สงครามการค้าที่มีข่าวออกมารายวัน ยังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันสินทรัพย์เสี่ยงเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ASEAN ที่เป็นภูมิภาคที่ Underperform ปรับตัวลงในช่วง -0.06% ถึง -1.92% (ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง -0.9%)
ล่าสุดสหรัฐฯ เตรียมปรับขึ้นภาษี 1) เหล็ก นำเข้าจาก แคนาดา เม็กซิโก บราซิล รวมกันมากกว่า 50% 2) อะลูมิเนียม นำเข้าจาก แคนาดา เป็นหลักคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 80% ทั้งนี้ ในระยะถัดไปน่าจะต้องจับตาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น นำโดย 1) การปรับตัวขึ้นของต้นทุนเหล็กและอะลูมิเนียม ในภาคอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ ก่อสร้าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า 2) แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งตัว 3) มาตรการตอบโต้ หรือ ปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของคู่ค้าที่โดนผลกระทบมากที่สุดอย่าง แคนานดา และ เม็กซิโก อย่างไรก็ตามยังไม่ปิดโอกาสที่จะนำไปสู่การเจรจา เนื่องจาก สหรัฐฯ เอง พึ่งพา Supply Chain จากทั้งสองประเทศอย่างมีนัยสำคัญในอุตสาหกรรม ยานยนต์ เกษตรกรรม พลังงาน และแรงงาน

 

EYES ON
[ในสัปดาห์] การรายงานงบฯ 4Q67, นโยบายของทรัมป์
12 ก.พ. ดัชนี CPI สหรัฐฯ,
13 ก.พ. ดัชนี PPI สหรัฐฯ
14 ก.พ. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ, GDP 4Q67 Eurozone

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้