คาด SET Index พลิกมาร่วงลง: แรงกดดันจากความกังวลนโยบายการเงินและการค้าของสหรัฐฯหากแต่พอมีแรงพยุงจากความหวังต่อการเติบโตและมาตรการทางเศรษฐกิจของไทย รวมถึงการเผยงบและ Valuation ของ SET Index

แนวรับ-ต้าน
1,270 –1,285

กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งงบ 4Q67: AAV, BA, GULF, MINT, NER,PIN, SC
2) Value stock ในเ ชิง Quant: BBL, KBANK,KTB, PTT, PTTEP, SCB, TLI
3) Dividend + REITs: ADVANC, FTREIT, INTUCH,LHHOTEL, TISCO, WHART
4) Selective: BCP, PRM, PT
5) Short-sell: BGRIM, CBG, ORI, PTTGC, SPALI

กังวลนโยบายสหรัฐฯ หวังนโยบายไทย

กังวลนโยบายของฝั่งสหรัฐฯ: คาด Sentiment กดดันมาจากความกังวลเงนิเฟ้อสหรัฐฯซี่งส่งผลให้เฟดอาจไม่รบีปรับอัตราดอกเบี้ย หลังม.มิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจในเดือนก.พ.68 พบว่าผู้บริโภคคาดว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น4.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า มากกว่าตลาดคาดและเดือนม.ค.68ที่ 3.3% และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.66 อีกทั้ง ตัวเลขแรงงานเดือนม.ค.68 ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวล หลัง 1)ค่าจ้างรายชัว่ โมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 4.1% y-y แม้เท่ากับในเดือนธ.ค.67 แต่มากกว่าตลาดคาดที่ 3.8% y-y และ 2) อัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ 4.0% ต่ากว่าตลาดคาดและเดือนธ.ค.67 ที่ 4.1%ประเด็นข้างต้นยังส่งผลให้ USbondyield2และ 10 ปีปรบั ตัวข้ึนสู่ระดับ4.3%และ 4.5% ตามลำดับ ซึ่งจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อการลงทุนใน
สินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ ติดตามพัฒนาการของสงครามการค้าซ่งึอาจเป็นอีกปัจจัยกดดัน หลังปธน.สหรัฐฯเผยในวันนี้จะประกาศเรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้า 25% อกี ทั้ง จะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเท่ากับอัตราที่คู่ค้าเรียกเก็บจากสินค้าส่งออกของสหรัฐฯกับหลายประเทศในสัปดาห์นี้ซึ่งถือเป็นการยกระดับการรุกครงั้ ใหญ่เพื่อทำลายและปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางการค้าโลกให้เอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐฯ

วาดหวัง GDPปี 68 โต 3.0-3.5%:คาดแรงพยุงมาจากความหวังต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย หลังรมช.คลังเผยการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมีการนำเสนอมาตรการในภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ GDP ปีนี้ไปถึงเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 3.0-3.5% อาทิดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ที่จะเดินหน้าใน 2Q68 และมีการเสนอให้ปรับลดเงอนไขการใช้จายเงนิให้งา่ ยข้ึน เพื่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น โดยจะนำเสนอรายละเอียดให้บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาในช่วงปลายเดือนก.พ.68 นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณเชิงบวกจากมุมมองของธนาคารต่างชาติ หลัง HSBC ประเมินว่า GDP ไทยปี 68 จะโต 3.3%

งบดีกว่าคาดและ Valuation น่าจูงใจ: อีกทั้ง คาดแรงพยุงมาจาก1) ผลประกอบการ 4Q67 สอดรับกับหุ้นใน SET100 ที่เผยงบไปแล้ว14 บริษัท ในจำนวนนี้มี EPS ดีกว่าตลาดคาด 71% และ 2) Valuationที่น่าจูงใจของ SET Index สอดรับกับ Forward P/E ปี 68 ซ่งึอยู่ที่13.4x โดยยังคงต่ำกว่า เฉลี่ยในอดีตตั้งแต่ปี61 และระดับ -1S.D.

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)รมช.คลังเผยการศึกษาพบว่าโครงการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เฟส 1 ช่วยลดระดับดัชนี GINI ได้ 0.01 จุด กล่าวคือลดระดับความเหลื่อมล้าลงได้ทั้งนี้การลดลงดังกล่าวมักใช้เวลานานถึง 3 ปี (อิงตามแนวโน้มการพัฒนาการเศรษฐกิจในอดีต)
(+)ก.ล.ต.เผยอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางกำกับดูแล LTF ครบกำหนด-คงค้างอยู่ เพื่อไม่ให้เป็นความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นไทย
(-) รมช.คมนาคมเผยเร็วๆนี้โครงการบ้านเพื่อคนไทยจะเปิดพื้นที่ในเฟส 2 อีกประมาณ 1 ยูนิต และเฟส 3 เฟส 4 ตามไป มีเป้าหมายภายในปี 68 จะมีทั้งหมด
1 แสนยูนิต ทั้งนี้คาดเป็น Sentiment ทางลบต่อผู้ประกอบการอสังหาฯเอกชน
(-) เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด แม้ CPI เดือนม.ค.68ขยายตัว 0.5% y-y ดีกว่าตลาดคาดที่ 0.4% y-y และเร่งขึ้นจาก 0.1% y-y ในเดือน
ธ.ค.67 หากแต่ PPI หดตัว 2.3% y-y เท่ากับในเดือนธ.ค.67 และแย่กว่าตลาดคาดที่หดตัว 2.2% y-y อกี ทัง้ นับเป็นการหดตัว 28 เดือนติดต่อกัน

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์