Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

199

 

AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ตั้งฐาน
เลือกหุ้นที่ผลประกอบการเติบโตดี

Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1270-1290 จุด ประเด็นเงินเฟ้อสหรัฐฯ สงครามการค้าและ FED ลดดอกเบี้ยฯช้า เป็นปัจจัยที่กลับมากดดัน แต่จาก SET Index ที่อยู่ในภาวะ Oversold ทั้งในเชิงปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคจึงคาด Downside จำกัดเช่นกัน สำหรับหุ้น Top Pick ประจำวันเลือก CRC ที่คาดกำไร 4Q67 เติบโตดีและหุ้นประจำสัปดาห์เลือก AOT ที่ราคาตอบรับปัจจัยลบจากความกังวลต่อความปลอดภัยการท่องเที่ยวไปมาก สวนทางกำไรที่คาด ช่วง 1Q68-2Q68 เติบโตได้ทั้ง QoQ และ YoY

ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับลงราว 1% ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อฯ และดอกเบี้ยลงช้ากดดัน หลังรายงานตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯเดือน ม.ค. ออกมาแข็งแกร่งโดยอัตราการว่างงานอยู่ที่ 4% ลดลงจากเดือนก่อนที่อยู่ 4.1% และอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงที่ขยายตัว 4.1%YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 3.9%YoY นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากสงครามการค้าหลังคุณทรัมป์เผยเตรียมใช้มาตรการตอบโต้ทางภาษีกับประเทศที่เก็บภาษีสหรัฐฯในอัตราที่สูงกว่า ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ภายใต้สภาพแวดล้อมข้างต้นทำให้ตลาดคาด FED จะลดดอกเบี้ยฯในปีนี้เหลือ 1 ครั้ง จากเดิม 2 ครั้ง โดยการลดดอกเบี้ยฯครั้งแรกคาดเกิดในเดือน มิ.ย. 68 กดดัน U.S. Bond Yield 2 และ10 ปัสหรัฐฯ กลับมาเพิ่มขึ้น 7.6 และ 4.7 bps ตามลำดับ Dollar Index แข็งค่า 0.4%

มองเป็นปัจจัยลบต่อทิศทาง Fund Flow ที่อาจทำให้ขาดความต่อเนื่องหลังวันศุกร์ที่ผ่านมาเริ่มมีสัญญาณที่ดีจากการซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ ด้านประเด็นภาษีสหรัฐฯต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสหรัฐฯเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย คิดเป็นสัดส่วน 18% ของมูลค่าการส่งออกปี 67 โดยสินค้า 5 อันดับแรกของไทยคือ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ทรานซิสเตอร์และหม้อแปลง ระยะสั้นเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์และกลุ่มส่งออกยาง


Market Summary
SET Index ปิดลบไปเกิอบ 10 จุด ก่อนช่วงบ่ายดีดแรงสุดท้ายพลิกปิดบวก 20 จุด โดยแรงหนุนจากกลุ่ม GULF หลังมีประกาศจ่ายปันผลพิเศษ หนุน INTUCH +4.5% GULF +3.1% ADVANC +1.8%การรีบาวน์ของกลุ่มที่ถูกประเด็นเฉพาะตัวกดดัน DELTA +3.6% CPALL +5.3% ส่วนกลุ่มอื่นๆกลุ่มโรงพยาบาลและกลุ่มท่องเที่ยวฟื้นแรงหลายบริษัท BH +3.2% BDMS +2.7% และ CENTEL +3.8% MINT +2.4% ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ กลุ่มธนาคาร -0.3% หลังจาก Outperform ตลาดมาตั้งแต่ต้นปี โดยแรงซื้อหลักมาจากนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.03 พันล้านบาท


DAILY Stock Pick

CRC
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 40.00 บาท
เราคาดการณ์กำไรหลักใน 4Q67 (ประกาศงบ 27 ก.พ.) อยู่ที่ 2.78 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ลดลง 4% YoY เนื่องจากฐานที่สูงจากผลประโยชน์ทางภาษีของธุรกิจในอิตาลี และเวียดนามใน 4Q66 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรก่อนภาษี (EBT) จะเพิ่มขึ้น 4% YoY หนุนจาก SSSG ของธุรกิจในไทยที่ดีขึ้นเป็น 2% จาก -1% ใน 4Q66 และ -2% ใน 3Q67
SSSG ของ CRC ในเดือนมกราคม 68 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 5-9% โดยได้รับแรงหนุนจาก SSSG ของธุรกิจอาหารที่แข็งแกร่ง ซึ่งได้ประโยชน์จากช่วงตรุษญวน (Tet Holiday) ในเวียดนาม รวมถึงการนับรวม Go Wholesale ใน SSSG หลังจากที่มีการเปิดสาขาแรกใน 4Q66 นอกจากนี้ CRC จะได้รับผลบวกเพิ่มเติมจากแคมเปญ Easy e-receipt ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 16 ม.ค. ถึง 28 ก.พ. CRC ซื้อขายที่ P/E ปี 68 ที่ 21 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ 1 SD ขณะที่ ROE คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 12.8%

 

WEEKLY Stock Pick

AOT
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท
คาดกำไรหลัก 1Q68 (ต.ค – ธ.ค.67) ที่ 5,500 ล้านบาท (+19% YoY, +59% QoQ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ไตรมาส (ประกาศงบ 13 ก.พ.) หนุนจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสาร โดยจำนวนผู้โดยสารรวมที่สนามบินภายใต้การดูแลของ AOT อยู่ที่ 33.6 ล้านคน หรือคิดเป็น 92% ของระดับ 1Q63 (ต.ค.–ธ.ค. 62) ในขณะที่จำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ 200,386 เที่ยวบิน หรือคิดเป็น 89% ของระดับในไตรมาส 1Q63 (+12% YoY, +9% QoQ)
เราคาดว่ากำไรจะขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ ใน2Q68 (ม.ค.-มี.ค.68) เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย ขณะที่กำไรทั้งปี 68 คาดเติบโต 34%YoY ราคาหุ้นที่พักตัวตั้งแต่ต้นปีจากความกังวลของนักท่องเที่ยวจีนเชื่อว่าจะค่อยๆลดลง หลังจากรัฐบาลมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นต่อการปราบปราม Call Center นอกจากนี้ระยะสั้นเราเห็นสัญญาณบวกจาก Fund Flow ต่างชาติวันศุกร์ที่ผ่านมาซื้อสุทธิทั้งทางตรงและ NVDR รวม 240 ล้านบาท (สูงสุดเป็นอันดับ 2)

 

KEY FACTOR
ตัวเลขดัชนี CPI ของจีน เดือน ม.ค. (รายงานเมื่อวาน 9 ก.พ.) +0.5% YoY (Consensus คาด +0.4% YoY) พลิกกลับมาเร่งตัวเป็นครั้งแรกหลังจากที่ชะลอลงมาตลอดตั้งแต่ ส.ค. 2567 แม้ว่าส่วนหนึ่งจะมาจากอานิสงค์ของแรงซื้อที่เข้ามาช่วงเข้าสู่เทศกาลตรุษจีน (เริ่มวันที่ 28 ม.ค.) แต่น่าจะสร้างความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนปีนี้

ในสัปดาห์นี้เข้าสู่ช่วงเร่งตัวของการรายงานงบฯ 4Q67 น่าจะทำให้ตลาดกลับมาให้น้ำหนักปัจัจยเฉพาะตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเชิงบวกมากขึ้น หลังดัชนีปรับฐานลงมามากพอสมควร ในขณะที่ปัจจัยต่างประเทศน้ำหนักจะอยู่ที่ 1) การรายงานเงินเฟ้อ เดือน ม.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะช่ยยืนยันการชะลอตัวของเงินเฟ้อภาคบริการ ซึ่งเห็นสัญญาณในตัวเลขเดือน ธ.ค. (Consensus คาด Core CPI ชะลอลงจาก +3.2% YoY เหลือ 3.1% YoY ในเดือนนี้) และ 2) นโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ซึ่งทรัมป์ส่งสัญญาณว่าอาจขยับขึ้นภาษีนำเข้าจากหลายประเทศเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้

 

EYES ON
ในสัปดาห์] การรายงานงบฯ 4Q67, นโยบายของทรัมป์
12 ก.พ. ดัชนี CPI สหรัฐฯ,
13 ก.พ. ดัชนี PPI สหรัฐฯ
14 ก.พ. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ, GDP 4Q67 Eurozone

 

 


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้