Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

415

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 7 ก.พ.68 ปิด +20.02 จุด อยู่ที่ 1,282.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,593 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,032 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 786 ลบ. สถาบันขาย 861 ลบ. และรายย่อยขาย 958 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 3,270 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น CPALL,KTB,INTUCH,ADVANC,TOP และยอดขายหุ้น BBL,KBANK,PTTEP,BEM,TISCO มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,823 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ INDIA01,JAPAN10001,IRPC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 16,670 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 16,965 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,012 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.99%, S&P500 -0.95%, Nasdaq -1.36% จากแรงขายกลุ่มสินค้าวัฏจักรอุปโภค, วัตถุดิบพื้นฐาน หลัง ปธ.ทรัมป์เตรียมประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับประเทศอื่น ๆ ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง โดย Amazon -1% หลังอุปสงค์ธุรกิจคลาวด์ชะลอตัวกว่าคาด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.38% โดยกลุ่มยานยนต์ -1.6% หลังหุ้นปอร์เช่ -7.1% และกลุ่มสินค้าหรูหรา -1.9% ซึ่งเป็นกลุ่มที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีน

Market View

  • DJIA -0.54%, S&P500 -0.24%, Nasdaq -0.53% WoW จากแรงขายกลุ่มสินค้าวัฏจักรอุปโภค, บริการสื่อสาร หลัง ปธ.ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% และสัปดาห์นี้จะประกาศ ม.ปรับขึ้นภาษีสินค้าประเทศอื่น ๆ ส่งผลให้ตลาดกังวลอาจส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐปรับสูงขึ้น โดย ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.พ. ลดลงอยู่ที่ 8 ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และคาดเงินเฟ้อสหรัฐ 1 ปีข้างหน้าคาดอยู่ที่ 4.3% & เดิมคาดที่ 3.3% ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ม.ค. เพิ่มขึ้น 143,000 & คาด 169,000 ราย, อัตราว่างงาน ลดลงอยู่ที่ 4.0% และค่าจ้างเฉลี่ยราย ชม. +0.5% & ธ.ค. +0.3% MoM บ่งชี้ตลาดแรงงานยังมีสัญญาณตึงตัว ส่งผลให้เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ส่วนประเด็นการค้าเช้านี้ ปธ.ทรัปม์เรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก & อลูมิเนียมที่อัตรา 25 % กับทุกประเทศ สัปดาห์นี้วันอังคาร – พุธ ปธ.เฟดจะเข้าแถลงนโยบายการเงินกับวุฒิสภา & สภาผู้แทน และข้อมูล US CPI, PPI, ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ม.ค.
  • Stoxx 600 +0.50% WoW ได้แรงหนุนจากผลประกอบการของ ArcelorMittal ผู้ผลิตเหล็ก, Novo Nordisk บริษัทยาเดนมาร์ก และ Infineon ผู้ผลิตชิปเยอรมันที่รายงานกำไร Q4/67 ดีกว่าคาด ส่วน BOE อังกฤษมีมติ 7 – 2 ลดดอกเบี้ยลง 25% อยู่ที่ 4.5% และเทรดเดอร์คาด BOE มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีก 0.63% ในปีนี้ โดยนักลงทุนรอประเมินผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรกับกลุ่ม EU สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล EU & UK GDP Q4/67 และ CPI เยอรมัน ม.ค.
  • MSCI Asia Pacific X Japan +1.3% WoW โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.6% WoW, ฮั่งเส็ง +4.5% WoW แม้ว่าจะถูกสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้า 10% และจีนตอบโต้กลับด้วยการปรับขึ้นสินค้าสหรัฐที่ 10 – 15% ในวันที่ 10 ก.พ. แต่ได้แรงหนุนจากลุ่ม Ai หลังการเปิดตัวของ DeepSeek และรัฐบาลจีนเตรียมออก ม.กระตุ้นกำลังซื้อให้ผู้บริโภคเปลี่ยนอุปกรณ์โทรศัพท์, เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่รองรับ AI ส่งผลบวกต่อหุ้น Lenovo & Xiaomi ขณะที่ดัชนีนิเกอิ -1.9% WoW หุ้นกลุ่มส่งออกญี่ปุ่นถูกกดดันจากค่าเงินเยนแข็งค่าอยู่ที่ 38 เยน/ดอลลาร์  
  • SET -46% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 4.87 หมื่น ลบ. +37.2% WoW สถาบันขาย 1,956 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 1,524 ลบ. รายย่อยซื้อ 986 ลบ. และต่างชาติซื้อ 2,494 ลบ. WoW โดยกลุ่มอิเล็ก ฯ -8.8% WoW หลัง ตลท.เตรียมใช้เกณฑ์ Cap Weight หุ้นรายตัวใน SET50/100 ไม่ให้เกิน 10% ส่งผลให้กองทุน Passive Fund ต้องปรับลดการถือครองหุ้น DELTA ที่ปัจจุบันมี Weight อยู่ที่ 12.25% ใน SET50 ส่วนกลุ่มค้าปลีก -4.0% WoW หลังมีประเด็นข่าว CPALL อาจร่วมกับกลุ่ม 7-11 ของญี่ปุ่นเข้าร่วมลงทุนซื้อกิจการ Seven & I Holding ในสัดส่วนราว 5 แสน ล.เยน ซึ่งคาดมีผลกระทบลบต่อกำไร CPALL ราว 2.3 – 3.8% ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ ท่องเที่ยว +1.6%, ธนาคาร +0.3% WoW ซึ่งเป็นกลุ่ม Domestic Play ที่ได้รับผลกระทบน้อยจากภาวะสงครามการค้า ส่วนการรายงานงบ Q4/67 ของ ADVANC มีกำไรอยู่ที่ 9.26 พัน ลบ. +5% QoQ, +32% YoY และดีกว่าคาดที่ 8.9 พัน ลบ. สาเหตุมาจากยอดใช้บริการ 5G & อินเตอร์เน็ตปรับเพิ่มขึ้น โดย ADVANC ประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 5.74 บาท/หุ้น จะขึ้น XD วันที่ 20 ก.พ. สัปดาห์นี้ติดตามการรายงานงบของ INTUCH,GULF,AOT,MINT,DELTA,TOP

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,270 แนวต้าน 1,290 – 1,300 คาดดัชนีทรงตัวเนื่องจากปัจจุบันเทรดที่ระดับ F/PE ปี 68 ที่ 13.3X อยู่ในโซนต่ำ โดยรอประเมินผลกระทบจากสงครามการค้า และรายงานงบ บจ. แนะนำทยอยซื้อ ADVANC,INTUCH,GULF จ่ายเงินปันผลสูง และอยู่ในธุรกิจ Data Center ที่เป็น New S Curve
  • BCPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.05 บาท) ช่วงสั้นอาจเห็นกำไรปกติลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่ปริมาณขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวที่ลดลงและการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าประจำปีในสหรัฐฯ ขณะที่แนวโน้มปี 68 คาดกำไรปกติจะเติบโตด้วยผลของปรากฏการณ์ลานีญาที่เป็นบวกต่อ Hydro power plant ประกอบกับการทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe) ในลาวที่จะเริ่มช่วง 2H68 ส่วนโครงการ Wind farm 90MW ที่ซื้อมาใหม่จาก EP คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นใน 1H68 ส่วนปัจจัยบวกในช่วงนี้จะมาจาก BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในไทยน้อย ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการแทรกแซงโดยภาครัฐ ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ Data center (4 โรง 857Mwe) และอากาศหนาว ส่งให้ราคาขายไฟฟ้าในตลาดเสรี PJM ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 17 พันล้านบาท และปี 69 ที่ 1.17 พันล้านบาท +45%YoY
  • MINT* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 37.64 บาท) BB Consensus ประเมินกำไร 4Q67 อยู่ที่ 2,790 ลบ. (+184%YoY, +1,768%QoQ) แม้เป็น Low Season ธุรกิจโรงแรมในยุโรป แต่คาดว่ายังมีแรงหนุนจาก ธุรกิจอาหารและโรงแรมในเอเชีย โดยเฉพาะไทยที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย 4Q67 +17%YoY +10%QoQ ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ 4Q67 +7%YoY +15%QoQ ส่วนแผนงานในช่วงถัดไป ด้าน MINT* เอง วางแผนเปิดโรงแรมใหม่กว่า 300 แห่งทั่วโลก ตั้งเป้าขยายพอร์ตโรงแรมทะลุ 850 แห่ง ภายใน 3 ปี (ปี 68-70) ทั้งนี้ ปัจจุบัน ตลาดคาด Net Income ปี67 และ 68 ของ MINT* ที่ 7,967 ลบ.( +12%YoY)  และ 9,063 ลบ.(+14%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI มี.ค. +$0.39 อยู่ที่ $71.00 / บาร์เรล, Brent เม.ย. +$0.37 อยู่ที่ $74.66/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI -2.1%, Brent -2.7% WoW หลัง ปธ.ทรัมป์หนุนธุรกิจขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ ซึ่งอาจจะก่อให้ภาวะน้ำมันล้นตลาด กอปร ปธ.ทรัมป์เตรียมประกาศ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรกับหลายประเทศ ซึ่งอาจส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมันของตลาดโลก

 

Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$10.9 อยู่ที่ $2,887.6 /ออนซ์ สัญญาทองคำ +1.86% WoW เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลัง ปธ.ทรัมป์เตรียมปรับขึ้นภาษีศุลกากรกับหลายประเทศ และธ.กลางจีนทยอยซื้อทองคำเข้าคลังสำรองอย่างต่อเนื่อง 

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -130.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +73.95 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -233.08 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +28.32 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.87 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.478 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +22 จุด อยู่ที่ 815

(+) BitCoinเช้านี้ +0.65% อยู่ที่ 97,063 ดอลลาร์สหรัฐ

(0)เช้านี้ติดตามยอดปล่อยสินเชื่อใหม่จีน ม.ค. คาด 7.7 แสน ล.หยวน & ธ.ค. 9.9 แสน ล.หยวน

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

17 ก.พ.     สภาพัฒน์ แถลง GDP ไตรมาส 4/67

สัปดาห์ที2  ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

                สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

                ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

 

ต่างประเทศ

12 ก.พ.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ม.ค.) 

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

13 ก.พ.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (ม.ค.)

                US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

14 ก.พ.     US ดัชนียอดขายปลีก (ม.ค.)        

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,WHA,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2025: CPALL, SYNEX*, CRC, WHA, SHR*

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้