สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 7 กุมภาพันธ์ 2568)---- บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANC เปิดเผยมุมมองของผู้บริหารต่อแนวโน้มและกลยุทธ์ในปี2568 ดังนี้
*รายได้จากบริการหลักคาดว่าจะเติบโตที่ระดับร้อยละ3 ถึง 5*
ในปี 2568 การเติบโตคาดว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการเติบโตของ GDP เอไอเอสมีความได้เปรียบในการนำเสนอบริการแบบผสมผสาน (convergence) ที่เชื่อมโยงบริการหลักเข้าด้วยกัน โดยอาศัยความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งกับลูกค้า กลยุทธ์นี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าจากการใช้งานผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เสริมสร้างความพึงพอใจของผู้ใช้ และกระตุ้นความภักดีต่อแบรนด์อย่างต่อเนื่อง
• โทรศัพท์เคลื่อนที่: มุ่งเน้นรักษาความเป็นผู้นำด้านคุณภาพของโครงข่าย ยกระดับการใช้งาน 5G อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงนำเสนอบริการเสริมและคอนเทนต์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ควบคู่ไปกับการส่งมอบบริการดิจิทัลที่เหนือระดับ ขณะที่การแข่งขันในตลาดมุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ใช้บริการ
• อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง : กลยุทธ์มุ่งเน้นการขยายฐานผู้ใช้บริการในพื้นที่ใหม่ ควบคู่กับการเพิ่ม ARPU ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านนวัตกรรมและการเชื่อมต่อที่เหนือกว่าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วไป โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อส่งมอบคุณภาพบริการที่เหนือกว่า
• บริการลูกค้าองค์กร: มุ่งเน้นการให้บริการเชื่อมต่อและคลาวด์โดยใช้ความสัมพันธ์กับฐานลูกค้าที่มีอยู่เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมที่แตกต่าง โดยเฉพาะโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย 5G เพื่อตอบรับกระแสการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล กลยุทธ์นี้จะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมีกำไร พร้อมตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้าองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
*กำไร EBITDA เติบโตประมาณร้อยละ3 ถึง 5 จากการมุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไร*
การเติบโตของธุรกิจได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากการให้บริการและการจำหน่ายสินค้า ควบคู่ไปกับการบูรณาการธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
เอไอเอสยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการด าเนินงานและการใช้ประโยชน์จากการควบรวมกิจการ โดยอาศัยความได้เปรียบจากการประหยัดต่อขนาด (Economies ofScale) และการปรับปรุงการบริหารต้นทุน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการทำกำไร นอกจากนี้ เอไอเอสยังคงลงทุนในระบบไอที การพัฒนาโครงข่ายให้ทันสมัย และการผสานบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้เป็นระบบเดียว เพื่อต่อยอดความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว พร้อมส่งมอบคุณค่าให้แก่ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
*ตั้งเป้างบลงทุนระหว่าง26,000 ถึง27,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของโครงข่ายและใช้ในการควบรวมกิจการให้เสร็จสมบูรณ์*
กลยุทธ์การลงทุนจะมุ่งเน้นที่ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพื่อรักษาทั้งคุณภาพและความเป็นผู้นำด้านโครงข่าย โดยงบประมาณการลงทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงโครงข่ายและอุปกรณ์ให้ทันสมัย ค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการ และโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดิน สำหรับการจัดสรรงบลงทุนยังมุ่งเน้นที่บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ตามมาด้วยลงทุนในบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และส่วนที่เหลือสำหรับบริการลูกค้าองค์กรและอื่น ๆ
*นโยบายการจ่ายเงินปันผล : จ่ายไม่ต่ำกว่าร้อยละ70 ของกำไรสุทธิ*
เอไอเอสมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว และส่งมอบผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง เอไอเอสจึงให้ความสำคัญต่อการรักษาสถานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง และมีความคล่องตัวเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต นโยบายการจ่ายเงินปันผลจะจ่ายไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิ โดยนโยบายการจ่ายเงินปันผลนี้จะทำให้เอไอเอสมีกระแสเงินสดเพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการเงินซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเป็นผู้นำตลาด ความสามารถในการแข่งขัน และโอกาสในการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงพร้อมรับต่อสภาวการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลง
เอไอเอสยังคงการจ่ายเงินปันผลปีละสองครั้งจากผลการดำเนินงานบริษัท และกำไรสะสมบนงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลในทุกกรณี จะขึ้นอยู่กับกระแสเงินสดและแผนการลงทุน รวมถึงความจำเป็น และความเหมาะสมอื่น ๆ ในอนาคตของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย และการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะต้องไม่เกินกำไรสะสมที่ปรากฏในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท และ/หรือมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงานปกติของบริษัท และบริษัทย่อย