Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

438



ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

สรุปภาพตลาดวานนี้
เมื่อวานนี้ SET ลงแรงอีกแล้ว โดย DELTA นำลงเกินครึ่งของผลกระทบ แต่บลูชิปอื่นๆ ก็มีเงินไหลออกด้วยอย่าง PTT CPALL GULF KBANK CPAXT INTUCH CPN AWC ขณะที่ด้านบวก เห็นแรงซื้อแค่บางกลุ่มอย่าง AOT TRUE ADVANC PTTEP PTTGC OSP COM7 เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
(เหลือ)ลดครั้งเดียว-เสียวทั่วโลก
“การเปลี่ยนสมมุติฐานนโยบายการเงินเฟดที่เข้มงวดกว่าเดิมจากโบรกเกอร์ต่างชาติที่จะเกิดตามมา...กลายเป็นเรื่องที่กดดันตลาดหุ้นเกิดใหม่อีกครั้ง ซึ่ง MS มองว่าความเสี่ยงด้านนโยบายกำแพงภาษีที่เดินหน้าเร็วและแรง ทำให้สมมุติฐานเดิมที่ เคยคาดว่า เฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปีนี้ (มี.ค. และ มิ.ย.) จำเปลี่ยนเป็นเหลือแค่ การลดดอกเบี้ยในเดือน มิย. เพียงครั้งเดียว และเลื่อนการ ยุติโครงการ QT ออกไปเป็นเดือน มิ.ย. (จากเดือน มี.ค.) ดังนั้นเมื่อ ธ.กลางเดินหน้าระบายพันธบัตร/ไม่รับซื้อ ย่อมส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงนานขึ้น”

จากการเปลี่ยนสมมุติฐานข้างต้น เราคาดว่าตลาด(นักลงทุน) ที่เชื่อตามก่อนหน้านี้ว่าจะเห็นนโยบายการเงินอันผ่อนคลาย...อาจต้องปรับพอร์ตใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ และ ย่อมไม่ส่งผลดีต่อตลาดหุ้นเกิดใหม่ในระยะสั้น

แต่ท่ามกลางสมรภูมิหุ้นไทยที่แสนร้อนระอุ จากการปรับพอร์ตดังกล่าว เราก็ยังยืนยันที่จะเลือกหุ้นลงทุนรายตัว ตามเกณฑ์ในการคัดหุ้นลงทุนเข้าพอร์ตสอดคล้องกลยุทธ์ของเราต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์คงคำแนะนำ เลือกสะสมหุ้นรายตัว รายกลุ่ม ในจังหวะที่ราคาหุ้นตก หรือพักฐาน ด้วยเรามองว่าหุ้นที่เราเลือกแนะนำ ได้พิจารณาแล้วว่าควรจะขึ้นแข็งกว่าตลาด เพราะ
1) ราคาหุ้นทรงตัวได้ดี Outperform ในเชิงเทคนิคคอล ไม่ Overbought
2) ความถูกของราคาหุ้นเมื่อเทียบมูลค่าทางบัญชี (PBV) และเทียบกับ Bands
3) แนวโน้มผลการดำเนินงานระยะสั้น ดูแล้วไม่น่าจะสร้างความผิดหวัง
4) โอกาสที่กำไรระยะสั้นจะดีกว่าที่คิด เพราะมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว เช่น มาตรการ ช้อปช่วยชาติ แจกเงินหมื่น ในช่วงไตรมาสแรก หนุนกำไรโตต่อเนื่อง 4Q24-1Q25
5) มีปันผลระหว่างกาล

วิเคราะห์ทางเทคนิค
DELTA + แก็งค์หุ้นใหญ่ PTT & CPALL ฉุด SET ร่วงลงเข้าใกล้จุด low จับตาโซนรับ 1,270 จุด ต้องยืนต้องสู้ให้ได้ อย่างไรก็ตาม RSI เข้าสู่ภาวะ oversold เต็มตัว จึงมีลุ้นที่ดัชนีอาจมีลงสลับรีบาวด์เป็นระยะๆ ส่วนเงื่อนไขที่ทำให้ตลาดผ่านจุดแย่ มีข้อแม้คือ! ห้ามลงทำ low ใหม่ คาดว่าไม่เกินสัปดาห์จะทราบผลลัพธ์ว่าดัชนีจะจบรอบขาลงแล้วหรือยัง… ส่วนตัวขอลุ้นสู้ที่ low ไม่หลุดครับ…

Note: ตปท. จีนกลับมาแล้ว หลังหยุดยาวตรุษจีนและแผนเทรด CNTECH01 นอกจากนี้ยังให้จับตาราคาน้ำมัน หลังมีประเด็นเรื่องฉนวนกาซ่า ติดตามรายละเอียดในบทวิเคราะห์ “World Asset Class” เช้านี้ครับ

 

What to watch
ประธาน ECB ได้เคยให้ข้อมูลสรุป บิตคอยน์ ไม่เข้าเกณฑ์เป็นสินทรัพย์เพื่อทุนสำรอง ทำให้อเมริกาที่คิดออกนโยบาย นำบิตคอยน์ เป็นทุนสำรองอาจทำได้ยาก
MS อัพเดทสมมุติฐาน ดอกเบี้ยเฟด โดยเปลี่ยนใหม่เหลือลดดอกเบี้ยครั้งเดียวปีนี้ ในการประชุมเดือน มิย. จากเดิมคาดลด 2 ครั้งคือ เดือน มีค.และ มิย. และเลื่อนคาดการยุติโครงการ Quantitative tightening ออกไปจากเดือน มีค.เป็น มิย. เหตุมาตรการกำแพงภาษีเริ่มเร็วกว่าที่คิด-หากยิ่งเร็วและแรง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ และ การดำเนินโยบายการเงินของเฟดยังมีความไม่แน่นอนสูง-ขึ้นอยู่กับ แนวทางมาตรการกำแพงภาษี
การประชุม ธนาคารกลางอังกฤษ มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 6 ก.พ.
มาตรการภาษีนำเข้าครั้งใหม่ 10% ที่สหรัฐฯ ประกาศใช้กับจีนนั้นเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันอังคาร ซึ่งจีนตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.
ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งให้รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ใช้ "มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้การส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลงเหลือศูนย์
ทั้งนี้ อิหร่านซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) นั้น สามารถผลิตน้ำมันได้ 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน หรือประมาณ 3% ของการผลิต ทั่วโลก

MS เห็นว่า มาตรการภาษี ทรัมป์ ผลกระทบน่าจะแบ่งเป็น 3 แนวทาง
(1) กำแพงภาษี อาจใช้เป็นเพียงเครื่องมือต่อรอง (ต่อรอง ตกลงกันได้ก็น่าจะบรรเทาความตึงเครียดลง)-สามารถซื้อเวลาหรือเลื่อนได้ หรืออาจเลือกใช้เพียงบางมาตรการกับบางสินค้า (กรณีดีสุดต่อเศรษฐกิจ)
(2) ใช้กำแพงภาษีแบบมีเงื่อนไข/จำกัดเวลา คาดผลกระทบต่อหุ้นและเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามสมมุติฐานเดิม (กรณีที่ MS คิดว่าน่าจะเป็นไปได้)
(3) อเมริกาใช้กำแพงภาษีแบบเต็มที่ และเกิดการตอบโต้กลับด้วยกำแพงภาษี จากชาติอื่น (กรณีนี้คือแย่สุด)

สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อนโยบายการเงิน คือ เฟดคงดอกเบี้ยนานขึ้น เพราะผลกระทบจากเงินเฟ้อ ส่วนไทยและ อาเชียน คงต้องใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเข้าช่วยลดผลกระทบ ซึ่งเราคิดว่าอาจไม่ได้ดีกับ Fund flows แต่อาจดีกับหุ้นบางกลุ่ม แต่สุดท้าย MS ยังคงมองว่ามีไพ่ตายจาก การตีความผ่านสภา ทรัมป์อาจจะไม่ง่ายที่ดำเนินตาม International Emergency Economic Powers Act (IEEPA), 1977 เหมือนเหตุการณ์เมื่อปี 2018 กว่าจะเห็นมมาตรการภาษีกับจีน ต้องรอ นานถึง 11 เดือน (ผลกระทบต่อเศรษฐกิจตาม กรณีที่ 3 อาจดีเลย์ ออกไป)

หุ้นแนะนำวันนี้
BCP ไม่โดนหางเลขกระทบจากมาตรการภาษีต่างประเทศ ทั้งโรงกลั่น รวมถึงธุรกิจ ไบโอเทค (S 35 R 37.5 SL 32)

รายงานพื้นฐานวันนี้

Tactical Play
หุ้นควร เล่น-เลี่ยง ดักงบไตรมาส 4
สัปดาห์หน้าเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ Real Sector เราได้ตรวจสุขภาพของคาดการณ์กำไรอีกครั้ง และเฟ้นหาหุ้นเล่นเก็งกำไรระยะสั้น ดักผลประกอบการจะออกมาดี รวมทั้งเตือนหุ้นกำไรอาจจะ ไม่ดี
ตั้งแต่ Preview ครั้งแรก 20 ม.ค. ถึงปัจจุบัน พบว่า บจ. ที่ยังไม่รายงานงบฯ 75 บจ. ปรับคาดการณ์ลงไป 11% และปรับขึ้นแล้ว 7% แต่เราคิดว่ายังมีหุ้นที่ยังไม่ถูก Fine-tune ตัวเลข และมีโอกาสผิดจากที่คาดอยู่ จึงได้สำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ ถึงความเป็นไปได้ของโอกาสเหล่านี้ สรุปออกมาได้เป็น
หุ้นมีโอกาส Missed คิดเป็นราว 25% ที่แม้ราคาลงมาแล้ว แต่อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ (รอให้พ้น ช่วงงบฯ เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (KCE HANA) กลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม ITC-TU COCOCO อสังหาฯ (LH SPALI PSH) และยานยนต์ (AH)
หุ้นกลุ่มมีโอกาสเห็นกำไร Surprise ด้านบวก มีน้อยแค่ 9% แบ่งเป็น จากฝั่งรายได้ ได้แก่ AMATA AWC NETBAY และฝั่งอัตรากำไร-ต้นทุน-ค่าใช้จ่าย ได้แก่ CPAXT TRUE BTG ส่วนหุ้นใหญ่อย่าง DELTA แม้มีโอกาส Beat ในไตรมาส 4 แต่ด้วยปัจจัยกดดันอื่นๆ อาจจะเก็งกำไรยากกว่าตัวอื่นๆ
กลยุทธ์นอกเหนือจากการเล่นดักหุ้นเหล่านั้นในจังหวะก่อนงบฯ ออก แล้ว ยังมองว่าสามารถเลือก เก็งกำไรกลุ่มที่มีโอกาส Buy-on-fact ได้จากทั้ง Leading Indicator ชี้ในทิศทางดีอย่างกลุ่มหมู BTG CPF และเราคิดต่อว่าจะมีอีกกลุ่มที่กำไรรอบนี้หากไม่ Missed แล้ว คอนเฟิร์มการฟื้นตัวอย่างการเงิน MTC SAWAD และท่องเที่ยว MINT AOT น่าจะพอเห็นการซื้อกลับ

Telecom Sector
ไม่น่าเกิดสงครามราคาในการประมูลคลื่นรอบนี้
ภาพรวม: กสทช. เตรียมเปิดประมูลคลื่น 6 ย่านความถี่ใน เม.ย. (เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะวันที่ 6 ก.พ.) เราประเมินว่าการแข่งขันหลักจะอยู่ที่คลื่น 2100MHz และ 2300MHz ซึ่งเป็นคลื่นหลักของ 5G และใบอนุญาตของ ADVANC และ TRUE กำลังจะหมดอายุ TRUE ยืนยันไม่ประมูล 850MHz ขณะที่ ADVANC สนใจ 2300MHz หากราคาสมเหตุสมผลและต้นทุนอุปกรณ์ไม่สูงเกินไป ทำให้ความเสี่ยงของสงครามประมูลลดลง
เราจึงได้วิเคราะห์แต่ละกรณี (รายละเอียดรายงาน) โดยกรณีอนุรักษ์นิยม หาก ADVANC และ TRUE ชนะการประมูล 2100MHz ที่ 20,000 ล้านบาท และ TRUE ได้คลื่น 2300MHz ที่ 20,000 ล้านบาท จะช่วยลดต้นทุนปีละ 2.7 พันล้านบาท (ADVANC) และ 5.9 พันล้านบาท (TRUE) คิดเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้น 6% สำหรับ ADVANC และ 41% สำหรับ TRUE

สำหรับ 4Q24 เราคาดการณ์กำไรหลัก ADVANC ที่ 8.9 พันล้านบาท (+24% YoY, +6% QoQ) และ TRUE 3.1 พันล้านบาท (พลิกจากขาดทุน YoY, เพิ่มขึ้น QoQ) ขณะที่ THCOM คาดกำไรหลัก 4 ล้านบาท (-60% YoY, -88% QoQ) จากรายได้ Thaicom-4 ที่อ่อนแอลง แนวโน้มปี 2025 ADVANC และ TRUE ได้อานิสงส์ต้นทุนลด ส่วน THCOM ได้แรงหนุนจากตลาดอินเดีย

Fundamental view: เราชอบ TRUE มากที่สุด

 

 

JMT
เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส
เล่นไปกับการฟื้นตัว
เราคาดกำไรสุทธิ 4Q24 ของ JMT จะอยู่ที่ 445 ล้านบาท ลดลง 18% YoY (GM ลดลง) แต่เพิ่มขึ้น 4% QoQ (รายได้รวมเพิ่มขึ้น) เราคาดว่าจัดเก็บเงินสดของ JMT จะฟื้นตัว QoQ ใน 4Q24 จากการปรับกลยุทธ์โดยการฟ้องลูกค้าที่มีกำลังในการจ่ายค่างวด แต่ไม่ยอมจ่ายค่างวดให้ JMT ตั้งแต่ 2Q24 ซึ่งก็เห็นลูกค้ากลับมาจ่ายเงินมากขึ้นตั้งแต่ 3Q24 แล้ว
นอกจากนี้ เรายังเห็นสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจ 2 ตัว ที่จะหนุนให้การจัดเก็บเงินสดของ JMT ฟื้นตัว ได้แก่ ดัชนีค้าปลีกและดัชนีอุปโภคบริโภคภาคเอกชนที่เห็นการฟื้นตัวต่อเนื่องใน 4Q24 ซึ่งเราคาดว่าจะส่งผลบวกให้การจัดเก็บเงินสดของ JMT ฟื้นตัว QoQ ใน 4Q24
ส่วนแนวโน้ม 1Q25 เราคาดกำไรสุทธิที่ 440 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และทรงตัว QoQ ภาพรวมทั้งปี 2025 เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปีลงเล็กน้อย 3% จากการปรับลดสมมติฐานการซื้อหนี้เสียใหม่ในปี 2025 ลงเหลือ 2 พันล้านบาท และ GM ลงเล็กน้อย โดยภายหลังปรับประมาณการ เราคาดกำไรสุทธิปี 2025 จะเติบโต 14% YoY จากแนวโน้มการจัดเก็บเงินสดฟื้นตัว
Fundamental view: ยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 17 บาท

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้