Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

358

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 4 ก.พ.68 ปิด -3.37 จุด อยู่ที่ 1,301.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,678 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 397 ลบ. รายย่อยขาย 532 ลบ. สถาบันซื้อ 245 ลบ. และต่างชาติซื้อ 684 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,412 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น CPALL,KBANK,AOT,DELTA,TRUE และยอดขายหุ้น PTTEP,SCB,KTB,GPSC,BBL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,800 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ DCC,SIRI,SJWD โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 16,461 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 69 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,653 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.30%, S&P500 +0.72%, Nasdaq +1.35% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +2.18%, บริการสื่อสาร +1.48% ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภค -0.9% โดยนักลงทุนคาดสหรัฐกับจีนจะสามารถบรรลุข้อตกการค้าได้เช่นเดียวกับกรณีของเม็กซิโก & แคนาดา ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.22% ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ นำโดยเฟอร์รารี่ +8% รับคาดกำไรปีนี้ +5%, ธนาคาร +1.6% หลังบีเอ็นพี พาริบาสต์ +4.8% รับงบ Q4/67

Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น แม้ว่าจีนจะตอบโต้สหรัฐด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าถ่านหิน & LNG ที่ 15% และน้ำมันดิบ, อุปกรณ์เกษตร, รถยนต์บางประเภทที่ 10% จะมีผลในวันที่ 10 ก.พ. รวมถึงสอบสวน Google ในกรณีละเมิด กม.ผูกขาดตลาด, ควบคุมการส่งออกแร่ทังสเตน และขึ้น Blacklist บริษัท PVH เจ้าของแบรนด์ Calvin Klein, Illumina บริษัทไบโอเทคของสหรัฐ แต่นักลงทุนยังคาดการเจรจาระหว่าง ปธ.ทรัมป์กับ ปธ.สี จิ้น ผิง ในเร็ว ๆ นี้จะสามารถยุติข้อขัดแย้งได้เช่นเดียวกับกรณีเม็กซิโก & แคนาดา โดยตลาดหุ้นได้แรงหนุนจากรายงานกำไร บจ. 211 แห่งใน S&P ที่ส่งงบแล้ว 76.8% มีกำไรดีกว่าคาด ขณะที่ JOLTs เผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานสหรัฐ ธ.ค. ลดลง 556,000 อยู่ที่ 8.0 ล.ราย & พ.ย. 8.15 ล.ราย สัปดาห์นี้ติดตาม PMI/ISM ภาคบริการ, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน, ต้วเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงานสหรัฐ ม.ค.
  • ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์ เฟอร์รารี่ +8% , Infineon ผู้ผลิตชิปเยอรมัน +10.4% และกลุ่มธนาคาร +1.6% รับงบของ BNP Paribas ธ.ฝรั่งเศสที่รายงานรายได้ Q4/67 ดีกว่าคาด โดยนักลงทุนยังรอประเมินผลกระทบจาก ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของ ปธ.ทรัมป์ และทาง EU ต้องการเจรจากับสหรัฐ เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตามผลการประชุม BOE อังกฤษคาดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25%
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ นิเกอิ +0.72%, Kospi เกาหลีใต้ +1.13% หลังสหรัฐประกาศเลือนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 1 เดิอน ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง +2.83% แม้ว่าจีนจะตอบโต้สหรัฐด้วยการปรัขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐในวันที่ 10 ก.พ. แต่ยังคาดหวังบวกต่อการเจรจาระหว่าง ปธ.จีนและสหรัฐ      
  • ดัชนี SET วานนี้ปิด -0.26% ปริมาณการซื้อขาย 4.1 หมื่น ลบ. รายย่อยขาย 532 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 397 ลบ. สถาบันซื้อ 245 ลบ. และต่างชาติซื้อ 684 โดยช่วงเช้าดัชนีปรับขึ้นสูงสุดที่ระดับ 1,316.41 จุด หลังสหรัฐชะลอการปรับขึ้นภาษีศุลกากรเม็กซิโก & แคนาดาออกไปอีก 1 เดือน แต่ในช่วงบ่ายจีนได้ตอบโต้สหรัฐด้วยการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐในอัตรา 10 – 15% รวมถึงการสอบสวน Google ในกรณีละเมิดการผูกขาดตลาด ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Global Play เช่น อิเล็กทรอนิกส์, บรรจุภัณฑ์, ปิโตรเคมี ปรับลดลงจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ – จีน โดย Goldman Sachs คาดผลจากสหรัฐปรับขึ้นภาษีจีน 10 % อาจส่งผลให้ GDP จีนปีลดลง 0.5% และคาด GDP จีนปีนี้จะขยายตัวที่ 4.5% โดยนักลงทุนยังเลือกพักเงินในกลุ่ม Domestic Play เช่น ขนส่ง & ท่องเที่ยว หลังยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ที่ผ่านมา +7.53% WoW ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่วนกลุ่มธนาคาร & ไฟแนนท์ได้ปัจจัยหนุน หลัง ครม.มีมติรับร่าง พรบ.ศูนย์กลางธุรกิจทางการเงิน สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตาม CPI ไทย ม.ค. คาด 1.25% รวมถึงรายงานงบ Q4/67 ของ ADVANC, THCOM ในช่วงปลายสัปดาห์

 Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,290 - 1,300 แนวต้าน 1,310 – 1,315 คาดดัชนีทรงตัวรอผลการเจรจาระหว่างสหรัฐ & จีน ในช่วงก่อนที่จีนปรับขึ้นภาษีสหรัฐในวันที่ 10 ก.พ. รวมถึงรายงานงบกลุ่ม ICT ในช่วงปลายสัปดาห์ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มธนาคาร KBANK,SCB,KTB,TISCO คาดได้ประโยชน์จาก พรบ.Financial Hubและพักเงินในกลุ่มจ่ายปันผลสูง เช่น SIRI,AP,MC,SCB,INTUCH
  • BCPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.05 บาท) ช่วงสั้นอาจเห็นกำไรปกติลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่ปริมาณขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาวที่ลดลงและการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าประจำปีในสหรัฐฯ ขณะที่แนวโน้มปี 68 คาดกำไรปกติจะเติบโตด้วยผลของปรากฏการณ์ลานีญาที่เป็นบวกต่อ Hydro power plant ประกอบกับการทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe) ในลาวที่จะเริ่มช่วง 2H68 ส่วนโครงการ Wind farm 90MW ที่ซื้อมาใหม่จาก EP คาดว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นใน 1H68 ส่วนปัจจัยบวกในช่วงนี้จะมาจาก BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในไทยน้อย ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการแทรกแซงโดยภาครัฐ ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ Data center (4 โรง 857Mwe) และอากาศหนาว ส่งให้ราคาขายไฟฟ้าในตลาดเสรี PJM ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 17 พันล้านบาท และปี 69 ที่ 1.17 พันล้านบาท +45%YoY
  • ADVANC* (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย 294.0 บาท) หุ้นกลุ่มสื่อสารยังมีปัจจัยบวกจากเทรนด์ธุรกิจในอนาคต, Data Consumption ที่สูงขึ้น รวมถึงการ Migrate เทคโนโลยี เช่น Package 5G ที่จะส่งผลบวกต่อไปยัง ARPU โดยในส่วนของ ADVANC เอง ฐานผู้ใช้บริการ 5G ณ สิ้น 3Q67 คิดเป็น 25% ของฐานผู้ใช้บริการทั้งหมด ยังมีช่องในการเติบโตของรายได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่ลดลงของผู้ให้บริการในไทยก็จะช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่ายการตลาด ส่งผลให้มาร์จิ้นอยู่ในเกณฑ์ดีต่อได้เช่นกัน ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราประเมินกำไรปกติของ ADVANC ในช่วง 4Q67 ยังจะ +QoQ +YoY ได้ตามฤดูกาลและการขยับราคา Package ที่สูงขึ้น

Daily Key Factors

Oil Update(0) WTI มี.ค. -$0.46 อยู่ที่ $72.70 / บาร์เรล, Brent เม.ย. +$0.24 อยู่ที่ $76.20/บาร์เรล ช่วงแรกราคาน้ำมันปรับลดลงกว่า 3% หลังจีนออก ม.ตอบโต้ ด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐในวันที่ 10 ก.พ. แต่ราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัว หลัง ปธ.ทรัมป์ออกคำสั่งให้ รมว.คลังสหรัฐใช้ ม.กดดันทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุดกับอิหร่าน เพื่อลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 5.025 ล.บาร์เรล 

 

Gold Update(+) Comex Gold เม.ย.+$18.70 อยู่ที่ $2,875.80 /ออนซ์ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้าสหรัฐ & จีนเพิ่มขึ้น ขณะที่ Dollar Index อ่อนค่า -0.71% อยู่ที่ 107.96 

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +9.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +20.22 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -11.64 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +0.81 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 33.623 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.523 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +15 จุด อยู่ที่ 753

(-) BitCoinเช้านี้ -2.34% อยู่ที่ 98,739 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที1  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย 

(ก.พ.)       

 

ต่างประเทศ

03 ก.พ.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ม.ค.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ม.ค.)

04 ก.พ.     US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (ธ.ค.)

05 ก.พ.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ม.ค.)

                US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP) (ม.ค.)

06 ก.พ.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

07 ก.พ.     US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ม.ค.)

                US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ม.ค.)

                US อัตราการว่างงาน (ม.ค.)

                 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย  

 

(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*

 

(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*

 

(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR

 

(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,WHA,AMATA

 

(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*

 

(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2025: CPALL, SYNEX*, CRC, WHA, SHR*

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้