ผันผวนไปตามกระแส TRADE WAR
การพลิกผันของแนวนโยบายการค้าระหว่าวประเทศของ ปธน.ทรัมป์ อาจทำให้ตลาดการเงินผันผวนได้ตลอดเวลา โดยล่าสุดมีการชะลอการ ตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจาก เม็กซิโก และ แคนาดา ในอัตรา 25% ออกไปอีก 30 วัน ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นดีดตัวกลับหลังปรับตัวลงแรงวาน นี้ แต่หลังจากนี้ยังต้องเผชิญภาวะผันผวนมากขึ้นตามการเปลี่ยนแปลง ของสถานการณ์TRADE WAR สำหรับตลาดหุ้นไทยก็ยังหนีสภาวะผัน ผวนไปไม่พ้น แต่ด้วยจุดแข็งสำคัญคือ VALUATION ที่ถูกทำให้ DOWNSIDE จำกัด ทั้งนี้ในการกำหนดกลยุทธ์การลงทุน ให้น้ำหนักไป กับการคัดกรองหุ้นที่ VALUATION ต่ำในแง่มุมต่างๆ โดยกำหนดเงื่อนไข การคัดกรองหุ้นเพิ่มเติม ด้วย TRACK RECORD การทำกำไร และการ จ่ายเงินปันผลย้อนหลัง เพื่อทยอยสะสมหุ้นหวังผลตอบแทนในระยะยาว
แรงกดดันจาก TRADE WAR ที่ดูเหมือนจะผ่อนคลายลงชั่วคราว น่าจะ ทำให้SET INDEX วันนี้ดีดตัวกลับขึ้นได้แต่ UPSIDE จำกัด กรอบ 1288 –1320 จุด หุ้น TOP PICK เลือก COM7, ERW และ TOP
นโยบายการค้าของ TRUMP 2.0 กลับมาผ่อนคลาย หนุน สินทรัพย์เสี่ยง REBOUND !!!
นโยบายการค้าของ ปธน. TRUMP 2.0 มักเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ ตั้งแต่กรณีของ “โคลอมเบีย” ที่ถูกสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าในอัตรา25% และหลังจากนั้น เพียงแค่ 1 วัน กลับสามารถตกลงเจรจากันได้
ขณะที่ล่าสุดเกิดขึ้นกับ “เม็กซิโก-แคนาดา” ที่เพิ่งมีคำสั่งให้เก็บภาษีนำเข้าสินค้าใน อัตรา25% (เฉพาะนำมันดิบนำเข้าจากแคนาคา เก็บ 10%) เริ่ม 4 ก.พ. 68 อย่างไรก็ ตามก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ปธน. TRUMP ได้ประกาศชะลอแผนเก็บภาษีดังกล่าว โดย เลือกออกไปอย่างน้อย 30 วัน
“เม็กซิโก-แคนาดา” หลุดพ้นสงครามการค้ากับสหัฐฯ ชั่วคราว หลังผู้นำจากทั้ง 2 ประ มีการเจรจากับ ปรน. TRUMP โดยมีข้อตกลงดังนี้
ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก : เม็กซิโกตกลงว่าจะส่งเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษา ความปลอดภัยแห่งชาติ 10,000 นาย ไปยังชายแดน เพื่อช่วยหยุดยั้งการไหลของเฟน ทานิลและการอพยพเข้าสหรัฐฯ
ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดา: แคนาดาตกลงที่จะดำเนินมาตรการหลาย ประการ เช่น การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่พิเศษด้านเฟนทานิล, การระบุแก๊งค้ายาเป็น ผู้ก่อการร้าย, และการจัดตั้ง "หน่วยจู่โจม" ร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรม องค์กร การค้ายาเสพติด และการฟอกเงิน
สรุป นโยบายเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของ ปธน. TRUMP มีท่าทีที่ดูผ่อนคลายมาก ขึ้น หนุนให้เม็ดเงินมีแนวโน้มไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น โดยเช้านี้ ดัชนี DOWN JONES FUTURES ดีดตัวขึ้นราว 100 จุด (+0.2%) รวมถึงตลาดหุ้นในแถบเอเชีย อย่างเช่นญี่ปุ่น +1.5%, เกาหลีใต้ +1.9%, ไต้หวัน +0.7% ซึ่งสวนทางกับค่าเงิน DOLLAR ที่ปรับตัวร่วงลงจากจุดสูงสุดในรอบ 2 ปี
น้ำมันดิบ ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่นที่น่าจะ OUTPERFORM ตลาดฯ
วานนี้ราคาน้ำมันดิบ BRENT / WTI บวก 0.38% และ 0.87% จากหลายปัจจัยหนุน เริ่มจาก TRUMP ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก และ แคนาดา ออกไปอีก 1 เดือน ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะ SUPPLY SHORTAGE ลงไปบ้าง ส่วนอีกปัจจัย คือ OPEC+ มีมติคงนโยบายการ ผลิตตามเดิม โดยยังคงปรับลดกำลังการผลิตรวม 5.86 ล้านบาร์เรล/วัน โดยมาจาก สมาชิกทั้งกลุ่ม OPEC+ จำนวน 2 ล้านบาร์เรล/วัน และการปรับลดกำลังการผลิต โดยสมัครใจของสมาชิก OPEC+ 8 ชาติจำนวน 1.65 ล้านบาร์เรล/วันในรอบ1 และ 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในรอบที่ 2 ซึ่งตอนแรกนักลงทุนกังวลจากถ้อยแถลงของ TRUMP ที่ขอความร่วมมือจาก OPEC+ ในการการปรับเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อช่วย ชะลออัตราเงินเฟ้อ
ดังนั้น ภาพรวม SET INDEX ในช่วงสั้นคาดได้รับ SENTIMENT เชิงบวกจากประเด็น ดังกล่าว โดยมีหุ้นกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่นเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ซึ่งมีน้ำหนัก(MARKET CAP) สูงถึง 1 ใน 3 ของน้ำหนักทั้งหมด ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ในยามราคาน้ำมันดิบขา ขึ้น ได้แก่กลุ่มผู้ประกอบการผลิตและสำรวจน้ำมันที่มีรายได้อิงกับราคาขายน้ำมัน คือ PTTEP ส่วนของธุรกิจโรงกลั่น คือTOP, PTT, BANPU, SPRC
ตลาดหุ้นไทยย่อมาจน PRICE/SALE < 1 และมีหลายหุ้นน่าสะสม
ตลาดหุ้นไทยถูกปัจจัยภายนอกกกดดันจน มี UPSIDE ในช่วง 12 เดือนข้างหน้าสูงถึง 21 % เป็นระดับ UPSIDE ที่สูง +1SD ซึ่งปกติดัชนีมักจะเริ่มผันผวน และฟื้นขึ้นในระยะ ถัดไป
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นไทยที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหุ้นวัฏจักร (CYCLICAL) ทำให้ กำไรมีลักษณะผันผวน และหากพิจารณา สัดส่วน PRICE/SALE ของดัชนี SET INDEX กับยอดขายรวม พบว่า ถูกมาก เพราะ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ปกติ SET INDEX จะมี PRICE/SALE สูงกว่า 1 แต่ปัจจุบันลดลงมาอยู่ที่ 0.88 เท่าเอง (อิง SET INDEX ที่ 1270 จุด และยอดขาย PRORATE จากหุ้นทั้งหมดในช่วง 9M24 ขึ้นมาเต็มปี)
Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์