
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 3 กุมภาพันธ์ 2568)------ และแล้ว กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี หรือ 3BBIF มาถึงจุดเปลี่ยนที่มีอนาคต สดใสกว่าเดิม เมื่อได้มีการปรับโครงสร้างต้นทุนการเงิน โดยกองทุน3BBIF ได้กู้ยืมเงินจากธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) มาชำระหนี้เงินกู้ยืมคงเหลือให้แก่ธนาคารกรุงเทพบางส่วนก่อนกำหนด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี หรือ 3BBIF ดำเนินการให้กองทุนเข้าทำสัญญากู้ยืมเงินกับ SMBC (“สัญญากู้ยืมเงิน SMBC”) มีเงินกู้จำนวน 5,450,000,000 บาท และ อัตราดอกเบี้ย THOR + 0.98% เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่ธนาคารกรุงเทพ ก่อนกำหนด ในวันที่ 31 มกราคม 2568 โดยธนาคารกรุงเทพได้ปลดหลักประกันทางธุรกิจ ทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง จำนวน 279,000 คอร์กิโลเมตรให้กองทุนฯ และกองทุนฯ จะนำหลักประกันทางธุรกิจทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจำนวน 279,000 คอร์กิโลเมตรที่ธนาคารกรุงเทพปลดให้ดังกล่าวไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมตามสัญญากู้ยืมเงิน SMBC ต่อไป
เมื่อกองทุนฯ ได้ชำระหนี้เงินกู้ให้แก่ธนาคารกรุงเทพบางส่วน ก่อนกำหนดดังกล่าวข้างต้นแล้ว ธนาคารกรุงเทพได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้คงเหลือลงจากเดิม MLR เหลือ MLR - 2.90%
ในการชำระหนี้ให้แก่ธนาคารกรุงเทพก่อนกำหนดดังกล่าวข้างต้น กองทุนได้ชำระดอกเบี้ยคำนวณจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2568 เป็นเงิน 65,937,534.25 บาท และชำระค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนกำหนดในอัตราร้อยละ 3 ของจำนวนเงินกู้คิดเป็นเงิน 163,500,000 บาท ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขตามสัญญากู้ยืมเงินธนาคารกรุงเทพ และ สำหรับการกู้ยืมเงิจาก SMBC นั้น กองทุนได้ชำระค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ (Front-end Fee) จำนวน 38,150,000 บาท ให้แก่ SMBC โดย กองทุนได้นำกระแสเงินสดของกองทุนไปชำระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมการชำระหนี้ก่อนกำหนด และค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ ดังกล่าว
จากการปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของกองทุนที่กล่าวข้างต้น กองทุนเหลือเงินกู้ค้างอยู่กับธนาคารกรุงเทพ จำนวน 5,450,000,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ย MLR – 2.90% และมีหนี้เงินกู้อยู่กับ SMBC จำนวน 5,450,000,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ย THOR + 0.98% รวมเป็นเงินกู้ทั้งสิ้นจำนวน 10,900,000,000 บาท การปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมคงเหลือของกองทุนนี้ ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของกองทุนลดลง ซึ่งเป็นไปเพื่อประโยชน์และความยั่งยืนในระยะยาวของกองทุน
นับได้ว่าตอนนี้ 3BBIF มีพันธมิตรทางการเงินที่แข็งแกร่ง เพิ่มอีก1ราย นั่นคือ ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) และ ขณะเดียวกันพันธมิตรที่แข็งแกร่งรายเดิม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือเอไอเอส ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ3BBIF และในฐานะผู้สนับสนุนหลักและผู้เช่ารายใหม่ของกองทุน 3BBIF ก็มีส่วนช่วยให้ดีลนี้สามารถเกิดได้เพราะกองทุนได้รับเรทเงินกู้ที่ดีขึ้นได้บนเครดิตเรทติ้งของเอไอเอส
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ตอกย้ำให้ความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมถึง ผู้ถือหน่วยลงทุนของ 3BBIF และตรงกับความตั้งใจของ AIS เดิมที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างยั่งยืนให้กับ 3BBIF เป็นเจตนารมย์ที่กล่าวไว้ก่อนซื้อกิจการ สิ่งนี้แสดงถึงความโปร่งใสตามหลักบรรษัทภิบาล