Thai Consumer Finance
เน้นหุ้นที่มีแนวโน้ม ROE ขาขึ้น
คงมุมมองเชิงบวก หุ้นเด่น TIDLOR และ SAK
เราคาดว่ากำไรของทั้งกลุ่มในปี 68 จะเติบโตสูงขึ้นที่ 11% เทียบกับ 0-2% ในปี 66-67 จากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น เช่น NIM หักต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (credit cost) เราชอบผู้ประกอบการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถมากกว่าสินเชื่อไม่มีหลักประกัน โดยหุ้นเด่นได้แก่ TIDLOR และ SAK เนื่องจากแนวโน้ม ROE ที่เพิ่มขึ้นและมูลค่าหุ้น (valuation) ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ เรายังชอบ MTC และ SAK เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ที่มั่นคงและความเสี่ยงจากความกระจุกตัวที่ต่ำ คงคำแนะนำ “ถือ” ใน KTC, SAWAD และ ASK โดยเราคาดว่าแนวโน้ม ROE ของ KTC และ SAWAD จะลดลง เนื่องจาก KTC มีแนวโน้มกำไรเติบโตชะลอตัว ขณะที่ SAWAD แนวโน้ม EPS เติบโตช้าจากการจ่ายปันผลเป็นหุ้น เราปรับลดคาดการณ์กำไรปี 68-69 ของ SAWAD, SAK และ ASK เพื่อสะท้อนการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ที่ลดลง
การเติบโตของสินเชื่อที่ชะลอตัวจะทำให้คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น
เราคาดว่าสินเชื่อของทั้งกลุ่มจะเติบโต 9% YoY ในปี 68-69 จาก 22%/18% ในปี 65-66 เนื่องจากฐานที่สูงและความพยายามในการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ เราคาดว่า MTC, TIDLOR และ SAWAD จะชะลอการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (HP) และเน้นที่สินเชื่อที่มีหลักประกันมากขึ้น เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ปรับความเสี่ยงได้ดีกว่า เราคาดว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะเติบโต 10-15% ในปี 68 และสินเชื่อของ KTC และ AEONTS จะเติบโต 3-5% เนื่องจากยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อใหม่ ขณะที่ผู้ประกอบการสินเชื่อไม่มีหลักประกันน่าจะมีการเติบโตของสินเชื่อที่ช้า เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ได้ผลบวกจากการลดดอกเบี้ย และ Credit cost ลดลง YoY
เราคาดว่า NIM ของกลุ่มจะเพิ่มขึ้น 20bps YoY สู่ระดับ 14.2% ในปี 68 เนื่องจากคาดว่าธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งแรกของปี 68 โดย credit cost น่าจะทรงตัว YoY ในปี 68 หลังจากเพิ่มขึ้นในช่วงแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นในปี 66-67 สัดส่วน NPL ของทั้งกลุ่มคาดทรงตัว YoY ที่ 3.44% ในปี 68 ขณะที่ credit cost น่าจะลดลง 20bps YoY สู่ระดับ 4.1% ในปี 68 จาก 4.3% ในปี 66-67 เนื่องจากประสิทธิภาพในการเก็บหนี้ที่ดีขึ้นจากการมุ่งเน้นที่สินเชื่อที่มีหลักประกันมากขึ้นและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลที่ช่วยสนับสนุนผู้มีรายได้น้อย
คาดการณ์ ROE เพิ่มขึ้นสำหรับ TIDLOR และ SAK
ROE ของกลุ่มน่าจะลดลงสู่ระดับ 15.1-15.2% ในปี 68-69 จาก 16.5-20.2% ในปี 64-66 เราคาดว่า TIDLOR และ SAK จะมีผลตอบแทนที่ดีกว่ากลุ่ม เนื่องจาก ROE ที่ปรับตัวดีขึ้นสูงสุดในกลุ่ม (ดูรูปที่ 12) ในทางตรงกันข้าม KTC และ SAWAD น่าจะมี ROE ที่ลดลง เนื่องจากการเติบโตของกำไรที่ช้าใน KTC และการลดลงของ EPS ใน SAWAD จากการจ่ายปันผลเป็นหุ้น แนะนำ "ถือ" สำหรับ SAWAD (ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 41 บาท จาก 46 บาท) และ ASK (ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 9.50 บาท จาก 13 บาท) หลังจากปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนรายได้ที่เติบโตลดลงและ credit cost ที่สูงขึ้น แนะนำ "ซื้อ" SAK และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 5.60 บาท จาก 6.70 บาท หลังจากปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อน NIM ที่ลดลงและต้นทุนการดำเนินงานที่เติบโตสูงขึ้น