Market Wrap-Up
- SET วันที่ 24 ม.ค.68 ปิด +9.90 จุด อยู่ที่ 1,354.07 จุด มูลค่าการซื้อขาย 30,792 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,270 ลบ. รายย่อยซื้อ 72 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 9 ลบ. และสถาบันขาย 1,333 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 2,424 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,CPALL,SCC,SCB,PTTGC และยอดขายหุ้น BBL,AOT,CCET,TRUE,TOP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,530 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TGE,BCH,BA โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 24,110 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 16,477 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,157 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.32%, S&P500 -0.29%, Nasdaq -0.50% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.09%, พลังงาน -0.98% หลังข้อมูล PMI รวมภาคผลิต & บริการสหรัฐ เบื้องต้น ม.ค. อยู่ที่ 4 & ธ.ค. 55.4 ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และ ม.มิชิแกนเผยดัชนีความมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ม.ค. ลดลงอยู่ที่ 71.1 & ธ.ค. 73.2 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx 600 -0.5% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าหรูหรา +1.05%, ยานยนต์ +1.22%, ทรัพยากรพื้นฐาน +1.35%
Market View
- DJIA +2.15%, S&P500 +1.74%, Nasdaq +1.65% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี , บริการสื่อสาร หลัง ปธ.ทรัมป์เผยนโยบาย Make America Great Again เน้น ม.ปรับลดกฏระเบียบในการดำเนินธุรกิจ, สนับสนุนธุรกิจคริปโท & AI, ปรับลดภาษีนิติบุคคล และกดดันให้เฟดปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลบวกต่อกำไร บจ.สหรัฐ สัปดาห์นี้ติดตามรายงานกำไรของ Microsoft, Meta Platform, Apple , วันพุธ ผลการประชุมเฟดคาดคงดอกเบี้ยที่ 25 – 4.5%, วันพฤหัส US GDP Q4/67 คาด +2.7% & Q3/67 +3.1% QoQ และวันศุกร์ US PCE ธ.ค. คาด +2.5% YoY & พ.ย. +2.4% YoY
- Stoxx 600 +1.6% WoW ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าหรูหรา, ทรัพยากรพื้นฐาน หลัง ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐต่อจีนไม่ได้รุนแรง ส่งผลบวกต่อกลุ่มที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีน กอปรกับการประชุม ECB วันที่ 30 ม.ค. มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลง 25% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สัปดาห์นี้ติดตามข้อมูล GDP ยูโรโซน Q4/67
- MSCI Asia Pacific X Japan +1.68% WoW ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของกลุ่มเทคโนโลยี หลัง ปธ.ทรัมป์ยังไม่ได้ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรแบบครอบจักรวาล และอยู่รอการประเมินข้อมูลจนถึงวันที่ 1 เม.ย. และจะขึ้นภาษีศุลกากรจีนที่ 10% ในวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่ประกาศไว้ช่วงหาเสียงที่ 60% บ่งชี้ ม.กีดกันการค้าต่อจีนไม่ได้รุนแรงอย่างที่กังวล โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.33% WoW หลัง กลต.จีนหนุนให้กองทุนรวม, กองทุนประกันภัยภาครัฐ & เอกชนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดหุ้นจีน ส่วนดัชนีนิเกอิ +3.9% หลัง BOJ มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 25% อยู่ที่ 0.50% หลังเงินเฟ้อญี่ปุ่นสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% เป็นผลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคปรับสูงขึ้นตามการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน กอปร SoftBank Group พันธมิตรของ OpenAI ได้ประโยชน์จาก ม.ส่งเสริมการลงทุนด้าน AI ของสหรัฐมูลค่า 5 แสน ล.ดอลลาร์ สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจีนหยุดในเทศกาลตรุษจีน 28 ม.ค. – 4 ก.พ./ ฮั่งเส็งปิด 29 – 31 ม.ค.
- SET +1.0% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 3.46 หมื่น ลบ. -24.7% WoW รายย่อยซื้อ 1,824 ลบ. สถาบันขาย 198 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 828 ลบ. และต่างชาติขาย 798 ลบ. WoW ดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ +6.4% ที่ฟื้นตัวตามกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ และ US Bond Yield ลดลงอยู่ที่ 4.597% หลัง ปธ.ทรัมป์กดดันให้เฟดลดดอกเบี้ย ซึ่งก็เป็นผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อกลุ่มไฟแนนท์ของไทยด้วย +4.2% WoW จากต้นทุนการเงินมีแนวโน้มลดลงตามทิศทางดอกเบี้ยตลาดโลก กอปรคาด กนง.ก็อาจจะปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ลงอย่างน้อย 1 ครั้งด้วย ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี +1.6% WoW จากคาดการณ์กำไรปีที่ผ่านมีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และยังได้ข่าวบวกจากประเด็น TOP รับเงินเคลมพันธบัตรประกันผ่านธนาคารมูลค่า 1.23 หมื่น ลบ. ในสัญญาจ้างรับเหมาโครงการ CFP ซึ่งเป็นผลบวกต่อประมาณการณ์กำไรของ TOP ปีนี้ ขณะที่กลุ่มที่ปรับลดลง คือ ค้าปลีก, ขนส่ง จากความกังวลจำนวนนักท่องเที่ยวจีนอาจชะลอตัวในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ วันจันทร์เริ่มเบิกจ่ายโครงการแจกเงินสด 1 หมื่นบาทเฟส 2, วันอังคารผลการประชุม ครม.และรายงานข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเข้าสู่ช่วงการรายงานงบ Q4/67 ของกลุ่ม Real Sector เช่น SCC,SCGP,PTTEP
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,340 – 1,350 แนวต้าน 1,360 – 1,370 คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว หลัง ม.กีดกันการค้าของสหรัฐไม่รุนแรง และรอดูข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐ เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในปีนี้ แนะนำซื้อเก็งกำไร CPALL,CPAXT,CRC,BJC จาก ม.แจกเงินเฟส 2 / ท่องเที่ยว AOT, AAV, ERW โดยนักท่องเที่ยวจีนยังเดินทางเที่ยวไทยในช่วงตรุษจีน/ ADVANC,INTUCH,GULF ได้ประโยชน์จากการลงทุนด้าน Ai & Cloud
- TOP (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 00 บาท) มีปัจจัยหนุนจากข่าวความคืบหน้าในการแก้ปัญหาโครงการ CFP โดยทางด้าน TOP แจ้งถึงการที่หนึ่งในบริษัทผู้รับเหมาหลัก Samsung ยอมจ่ายเงินประกัน Performance bond ตามที่ปริษัทได้ใช้สิทธิเรียกร้องไปบางส่วนแล้วจากทั้งหมด 1.7 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้แรงกดดันทางการเงินลดลง อาจจะช่วยให้เงินที่ประกาศลงทุนเพิ่มไปก่อนหน้านี้ 8.1 หมื่นล้านบาท ใช้น้อยลงและโครงการอาจเสร็จเร็วขึ้นถ้าผู้รับเหมาเดิมทำต่อไปได้ ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 4Q67 คาดพลิกเป็นกำไร QoQ ที่ราว 4.2 พันล้านบาท เป็นผลจาก Market GIM ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม product spread รวมทั้งการบันทึก stock loss ลดลง ราคาหุ้นปัจจุบันลงมารับข่าวลบมากแล้วเทรดกันต่ำ Book มากที่ 0.3 เท่า
- ADVANC* (ซื้อสะสม / ราคาเป้าหมาย 294.0 บาท) หุ้นกลุ่มสื่อสารยังมีปัจจัยบวกจากเทรนด์ธุรกิจในอนาคต, Data Consumption ที่สูงขึ้น รวมถึงการ Migrate เทคโนโลยี เช่น Package 5G ที่จะส่งผลบวกต่อไปยัง ARPU โดยในส่วนของ ADVANC เอง ฐานผู้ใช้บริการ 5G ณ สิ้น 3Q67 คิดเป็น 25% ของฐานผู้ใช้บริการทั้งหมด ยังมีช่องในการเติบโตของรายได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่ลดลงของผู้ให้บริการในไทยก็จะช่วยในเรื่องของค่าใช้จ่ายการตลาด ส่งผลให้มาร์จิ้นอยู่ในเกณฑ์ดีต่อได้เช่นกัน ทั้งนี้ ปัจจุบัน เราประเมินกำไรปกติของ ADVANC ในช่วง 4Q67 ยังจะ +QoQ +YoY ได้ตามฤดูกาลและการขยับราคา Package ที่สูงขึ้น
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI มี.ค. +$0.04 อยู่ที่ $74.66 / บาร์เรล, Brent มี.ค. +$0.21 อยู่ที่ $78.50/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมา WTI -4.1%, Brent -2.8% WoW หลัง ปธ.ทรัมป์หนุนธุรกิจขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ ซึ่งอาจจะก่อให้ภาวะน้ำมันล้นตลาด กอปรยังกดดันให้กลุ่มโอเปกปรับลดราคาน้ำมัน
Gold Update(+) Comex Gold ก.พ.+$13.9 อยู่ที่ $2,778.9 /ออนซ์ สัญญาทองคำ +1.1% WoW เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และยังได้ปัจจัยหนุนหลัง ปธ.ทรัมป์กดดันให้เฟดลดดอกเบี้ย
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ขายสุทธิ -113.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -23.14 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -56.66 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -33.74 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 34.61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.588 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -46 จุด อยู่ที่ 778
(-) BitCoinเช้านี้ -2.92% อยู่ที่ 101,563 ดอลลาร์สหรัฐ
(0)เช้านี้ PMI ภาคการผลิตจีน ม.ค. ชะลอตัวอยู่ที่ 49.1 & ธ.ค. 50.1 และ PMI ภาคบริการจีน ม.ค. อยู่ที่ 50.2 & ธ.ค. 52.2
Economic Calendar
ในประเทศ
28 ม.ค. ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน
ยานยนต์
31 ม.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
27 ม.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ม.ค.)
US ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค.)
28 ม.ค. US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ม.ค.)
30 ม.ค. EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป
EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ม.ค.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4)
31 ม.ค. US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (ธ.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 1H68 เน้น หุ้นในธุรกิจใหม่ที่เป็น Trend ในอนาคต อย่าง Data Center รวมถึงหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรปกติ 4Q67-1Q68 คาดออกมาดี และ หุ้นที่รับความผันผวนได้ดีจากความเสี่ยง Trade War/ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มธนาคารที่มี Sentiment บวกจากธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มชะลอการลดดอกเบี้ย/มี Yield สูง BBL, KTB, KBANK, TISCO*, TTB*
(2) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CRC, NSL*, TNP*, OSP*
(3) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, SKR
(4) กลุ่มมีโอกาสเกี่ยวข้องกับการลงทุน Data Center/ธุรกิจ Trend อนาคต ADVANC,INTUCH*,TRUE,GULF*,WHA,AMATA
(5) กลุ่มสินค้า IT ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี(เช่น AI function/ 4G to 5G) SYNEX*, ADVICE*, SIS*
(6) กลุ่มที่มี Sentiment บวกจาก Entertainment Complex BTS*, VGI*, MBK*, BA
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio January 2025: SAV, SYNEX*, CRC, WHA, SHR
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th