ผันผวนจาก PROGRAM TRADE
การปรับลดลงของ SET INDEX วานนี้กว่า 17 จุด หากเข้าไปดูใน รายละเอียดพบว่ามีสัดส่วนการซื้อขายผ่าน PROGRAM TRADE ใน สัดส่วนที่สูงถึง 46.7% ของมูลค่าการซื้อขายรวม และ เป็นการขายสุทธิ มากถึง 4.32 พันล้านบาท ซึ่งถือได้ว่าเป็นแรงกดดันหลักของตลาดหุ้น บ้านเรา ส่วนปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้มีเรื่องตัวเลขการส่งออก โดยเดือน ธ.ค.67 เติบโต 8.7% ทำให้ทั้งปี 2567 เติบโต 5.4% แต่เรายัง ขาดดุลการค้ารวมทั้งปีอยู่ที่ 6.28 พันล้าน USD ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ไม่ สู้ดี ประเด็นต่อมาเป็นเรื่องราคาน้ำมันที่ถูกกดดันจากสุนทรพจน์ของ ปธน.ทรัมป์ ซึ่งกล่าวว่า องค์ประกอบหนึ่งที่จะทำให้สงคราม รัสเซียยูเครน จบ ราคาน้ำมันต้องปรับตัวลดลง (เพื่อตัดกำลังรัสเซีย) แนวคิด ดังกล่าวทำให้น้ำมันกลายเป็นยุทธปัจจัยทางการเมือง ที่ผันผวนง่ายขึ้น
โครงสร้างการซื้อขายที่มีสัดส่วน PROGRAM TRADE ระดับสูงจะทำให้ เกิดภาวะผันผวนได้ง่ายขึ้น ส่วนปัจจัยแวดล้อมพื้นฐานยังไม่ชัดเจน คาด กรอบ 1340 –1356 จุด TOP PICK เลือก AP, BCPG และ PLANB
วาทะทรัมป์ จากสปีชในงาน WORLD ECONOMIC FORUM 2025 มีประเด็นอะไรบ้าง
ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยดัชนี DOWJONES เพิ่มขึ้น 0.9% S&P500 เพิ่มขึ้น 0.5% และดัชนี NASDAQ100 เพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งหนึ่งในปัจจัยหนุน คงหนีไม่พ้น TRUMP กล่าวในงาน WORLD ECONOMIC FORUM 2025 ซึ่งมี ประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
TRUMP จะกดดันซาอุดีอาระเบียและกลุ่มโอเปกให้เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลด ราคาน้ำมันโลก โดยมองว่าเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย และหวังให้ สงครามรัสเซีย-ยูเครนยุติลง และถือเป็นปัจจัยที่ช่วยควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ของสหรัฐฯ ประเด็นดังกล่าวกดดันราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้-1.1%
TRUMP เรียกร้องให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันที พร้อมกล่าวว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในสมัยของโจ ไบเดน ทำให้เกิดการขาด ดุลและผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ FED ยังคงส่งสัญญาณระมัดระวัง เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต โดยเน้นการพิจารณาข้อมูล เศรษฐกิจเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูการแถลงข่าวหลังการประชุม ของ FED ในสัปดาห์หน้า29 ม.ค.68
TRUMP กล่าวว่าสหรัฐฯ จำเป็นต้องลดการขาดดุลการค้ากับยุโรป และจะ พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งอาจกระทบ ต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสองภูมิภาค
TRUMP ได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลและ ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อที่จะทำให้สหรัฐเป็นศูนย์กลาง AI-คริปโทฯ • TRUMP จะผ่อนคลายกฎระเบียบ,ลดภาษีเพื่อให้สหรัฐเป็นมหาอำนาจด้าน การผลิต ซึ่งหุ้นไทยที่ประกาศลงทุนในสหรัฐฯก่อนหน้านี้มี BCPG BANPU IVL จึงน่าจะหนุนให้ราคาหุ้น OUTPERFORM ตลาดฯได้ช่วงสั้น
หากพิจารณาสภาพแวดล้อมทั้งในมุมของตลาดหุ้น BITCOIN ตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐฯ จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนไประหว่างยุครัฐบาล TRUMP 1.0 และ 2.0 โดยหาก ย้อนดูผลงานปีแรก ยุค TRUMP 1.0 (2017) สินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกปรับตัวขึ้นได้ดี แต่จะเห็นเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยค่อยๆ ขยับขึ้น
ภาวะปัจจุบันสินทรัพย์ TRUMP TRADE ตอบรับเชิงบวกมามาในระดับหนึ่งแล้ว รวมถึงดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้ออยู่ระดับสูง จึงทำให้ FED อาจต้องระมัดระวังในการ TAKE ACTION ต่างๆ มากขึ้น อีกทั้งดัชนีตลาดหุ้น และ VALUATION ต่างๆ รวมถึง GOLD SPOT และ BITCOIN ก็อยู่ระดับสูงกว่า ยุค TRUMP 1.0 มากเช่นกัน
สรุป วาทะทรัมป์ จากสปีชในงาน WORLD ECONOMIC FORUM 2025 นโยบาย ส่วนใหญ่เน้นไปที่ AMERICAN GREAT AGAIN ซึ่งอาจเป็นแรงหนุนให้ FUND FLOW ยังอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แทนที่จะไหลออกไปยังประเทศอื่นๆ รวมถึงตลาดหุ้นไทยที่มี โอกาสห็นเม็ดเงินชะลอการไหลเข้าได้
ส่งออกไทยปี 67 ดีเกินคาด แต่ปีนี้ยังต้องระวังเปิด DOWNSIDE
วานนี้ กระทรวงพาณิชย์ เผยตัวเลขส่งออกไทย ธ.ค. 2567 ของไทยโต +8.7%YOY ขยายตัวมากกว่าคาดที่ +7.4%YOY ซึ่งอยู่ในโซนขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เป็น ผลมาจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตร-อุตสาหกรรมเกษตร, สินค้า เทคโนโลยี ทำให้ตลอดทั้งปี 2567 ภาคการส่งออกเติบโต +5.4% ซึ่งสูงกว่าสำนัก เศรษฐกิจคาดการณ์ โดย ธปท. ประเมิน +4.9%, กระทรวงพาณิชย์ประเมิน +5% ส่วนการส่งออกในเดือนม.ค.68 ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ขณะที่ การส่งออกทั้งปี 68 นี้ กระทรวงพาณิชย์ประเมินเป้าหมายว่าจะขยายตัวได้ที่ 2-3%
สำหรับสินค้าส่งออกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ขยายตัวได้ดี ได้แก่ ยางพารา (STA, NER), เม็ดพลาสติก (IVL), อาหารทะเลกระป๋อง (TU), อาหารสัตว์ (ITC, AAI) ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม แม้ภาคการส่งออกจะเติบโตเด่น แต่ภาคการนำเข้าล่าสุดขยายตัว +14.9%YOY และยอดนำเข้าทั้งปี 2567 โต +6.3%YOY ส่งผลให้ดุลการค้าเดือน ธ.ค. 2567 ขาดดุล 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และทั้งปี 2567 ดุลการค้าขาดดุล 6,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่ระยะถัดไป บ้านเรายังต้องระวังความเสี่ยงจากนโยบายของรัฐบาล TRUMP 2.0 ที่มีแนวโน้มปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งอาจเพิ่ม DOWNSIDE ให้กับ ภาคการค้าระหว่างประเทศได้ และมีโอกาสกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัด
ทั้งนี้ ในกรณที่ไทยมีดุลบัญชีเดินสะพัด “เกินดุล” ต่อเนื่อง มักจะเป็นแรงหนุนให้เงิน บาท “แข็งค่า” แต่ในทางกลับกัน หากดุลบัญชีเดินสะพัด “ขาดดุล” ต่อเนื่อง มักจะ กดดันให้เงินบาท “อ่อนค่า”
โปรแกรมเทรดเพิ่มความผันผวน ยามตลาดหุ้นไทยมูลค่าซื้อ ขายเบาบาง
วานนี้ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงแรง -17.6 จุด มาอยู่ที่ 1344.17 จุด ส่วนหนึ่งเกิดจาก ต่างชาติขายสุทธิสูงถึง -4.39 พันล้านบาท โดยหลักๆ น่าจะเกิดจากการขายผ่าน PROGRAM TRADE ที่ขายสุทธิออกมาสูงถึง 4.32 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการขาย ภายในวันเดียวที่สูงที่สุดในปีนี้
และหากวิเคราะห์มูลค่าซื้อขาย พบว่า ต่างชาติมีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง 51.1% ของ มูลค่าซื้อขายทั้งหมด และหลักๆยังเป็นการซื้อขายผ่าน PROGRAM TRADE 46.7% ขณะที่รายย่อยมีสัดส่วนการซื้อขาย 30.3%
สรุป ตลาดมีการซื้อขายด้วย PROGRAM TRADE เกือบครึ่ง อาจเพิ่มความผันผวน ยามตลาดหุ้นไทยมูลค่าซื้อขายเบาบาง รวมถึงราคาหุ้นบางบริษัทอาจมีความผัน ผวนมากขึ้นหากกราฟทางเทคนิคมีการเปลี่ยนอย่างมีนัยยะสำคัญ
Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์